การย่อยสลายเซลล์มะเร็ง


พึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

 

 

 

 

ย่อยสลายเซลล์มะเร็ง  

โครงสร้างการย่อยสลายเซลล์มะเร็งร้ายให้ฝ่อหายไป

โดย ดร. สิทธิพร เปล่งขำ นักวิจัยแห่งชาติ นักวิทยาศาสตร์แพทย์


ปัจจัยที่ 1 หยุดยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง โดยการตัดสารอาหารที่ก่อมะเร็งเข้าสู่ร่างกาย
เช่น การอดอาหารเพื่อล้างเซลล์มะเร็ง หรือ การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยการ detox เช่น การดื่มน้ำเอนไซม์, การออกกำลังกายขับสารพิษ, การทำสมาธิลดความเครียด, การคิดดี อารมณ์ดีอยู่เสมอ
ปัจจัยที่ 2 สารภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
เช่น บำรุงเม็เลือดขาวด้วยอาหาร และวิตามินจากธรรมชาติ, บำรุงตับ และไต เพื่อให้ทำงานขับสารพิษได้ดี, ชำระล้างเลือดหรือสารอาหารที่ตกค้างในเลือดด้วยน้ำเอนไซม์จากผลไม้หรือผักสด, สร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวให้แข็งแรง และมีปริมาณที่เหมาะสมด้วยพลังจากสารอาหารธรรมชาติ
ปัจจัยที่ 3 การย่อยสลายเซลล์มะเร็ง
ด้วยการใช้โภชนาการบำบัด เช่น การกินสาหร่ายเกลียวทอง การทานวิตามินซีในปริมาณ 5,000 มก.ต่อวัน, การรับออกซิเจนด้วยการใช้ลมปราณบำบัดโรค, การทำสมาธิสลายความเครียด เป็นต้น
ปัจจัยที่ 4 การสร้างอารมณ์ขัน
เช่น มองโลกในแง่ดี, มีความหวัง, ความตั้งใจจริง, อดทน, ไม่เครียด, ลดความวิตกกังวน, เจริญสมาธิ แผ่เมตตา, พูดคุยกับผู้คนด้วยอัธยาศัยไมตรี
ปัจจัยที่ 5 สร้างบรรยากาศแวดล้อมที่ดี
เช่น การทำความสะอาดบ้านให้ปราศจากฝุ่น, ดื่มน้ำสะอาดทุกวันอย่างน้อย 3 - 5 ลิตร, อาบน้ำอุ่น หรือ อบไอน้ำเป็นประจำ, ทานอาหารปลอดสารพิษ, ชำระร่างกายให้สะอาด, ใส่เสื้อผ้าที่สะอาด, สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ

อาหารต้านมะเร็ง ที่ง่ายที่สุดของชมรมบ้านสุขภาพ คือ น้ำผักสดปั่นสูตรชมรมบ้านสุขภาพ และเครื่องดื่มน้ำพลังเอนไซม์บำบัดที่ได้จากกาารหมักผลไม้นานกว่า 6 ปี ขึ้นไป อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน ช่วยกระตุ้นต่อมและฮอร์โมนต่าง ๆ ทำให้ร่างกายต่อต้านสารอนุมูลอิสระที่แปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายได้ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรง ภูมิต้านทานดี มีประโยชน์ในการรักษามะเร็งได้

การแบ่งเซลล์มะเร็งกับการทำมะเร็งให้ฝ่อ

การแบ่งเซลล์ของเนื้องอกมะเร็งร้ายที่ผิดปกติ

ขั้นที่ 1 เริ่มต้นจากเซลล์ที่มีการสะสมของสารก่อมะเร็งที่ไม่สามารถเผาผลาญหรือย่อยสลายออกไปได้

ขั้นที่ 2 เซลล์นั้นมีการเติบโตและขยายตัวไปเรื่อย ๆ เมื่อได้รับออกซิเจน และอาหาร

ขั้นที่ 3 เซลล์มะเร็งเติบโตจนพร้อมแบ่งเซลล์แบบผิดปกติก่อเป็นก้อนเนื้อ โดยเซลล์ชั้นนอกของก้อนเนื้อจะได้รับอาหารและออกซิเจน แต่เซลล์ชั้นกลาง และชั้นในจะไม่ได้รับอาหารและออกซิเจน ทำให้ตายไป เป็นก้อนเนื้อตาย

ขั้นที่ 4 เซลล์ภายนอกที่ได้รับอาหารและออกซิเจนมีการแบ่งตัวแบบผิดปกติค่อย ๆ ลด Chromosome ลงที่ละครึ่ง โดยแบ่งตัวแบบทวีคูณไปเรื่อย ๆ เร็วว่าการแบ่งตัวของเซลล์ปกติทั่วไป ก่อให้เพิ่มบริเวณและกินเซลล์เนื้อดีไปเรื่อย ๆ จนขยายวงกว้าง

 

การทำลายเซลล์มะเร็งให้ฝ่อหายไป

หลักการคือ การตัดท่ออาหาร และออกซิเจนไม่ให้เข้าสู่เซลล์มะเร็ง  จะทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อเล็กลงและหายไปในที่สุด อาหารจากธรรมชาติบำบัดที่มีอิทธิพลในการกดดัน และย่อยสลายเซลล์มะเร็ง คือ กระดูกอ่อนปลาฉลาม, เห็ดหลืนจือ, และเม็ดเลือดขาวชนิด Psytotoxin, Lymphocyte, Macophast นั้นเอง

การดื่มน้ำพลังเอนไซม์บำบัดที่เกิดจากกระบวนการหมักของผลไม้นานาชนิดที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และเอนไซม์ ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว เสริมสร้างความแข็งแรงให้เซลล์เม็ดเลือดขาว จากผลการวิจัยทางคลินิก พบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำพลังเอนไซม์บำบัดเป็นประจำทุกวัน มีเม็ดเลือดขาวที่แข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และพบว่าเซลล์มะเร็งมีขนาดเล็กลงได้ ดังนั้น หากในระยะที่สองของการเป็นมะเร็ง คือ เซลล์มะเร็งเริ่มขายตัวไปบริเวณใกล้เคียง แต่ยังไม่ลุกลามไปส่วนอื่น ๆ ในระยะนี้มีโอกาสที่จะทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อและเล็กลง ทำให้มีโอกาสหายมากกว่าร้อยละ 90 ทั้งนี้ การดื่มอย่างต่อเนื่อง การปฏิบัติตามบทบัญยัติ 10 ประการของชมรมบ้านสุขภาพ อย่างต่อเนื่อง 3 - 6 เดือน จะทำให้ทราบผลว่า คุณดีขึ้นหรือไม่ เพียงปฏิบัติตาม อย่าคิดมาก อย่าสงสัยมาก ทำไปก่อน แล้วตัวคุณเองจะเป็นคนตัดสินว่าใช่หรือไม่ ดีหรือไม่

มะเร็งเนื้องอกร้าย

ความหมายของมะเร็ง

 นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย แพทย์ และนักธรรมชาติบำบัดได้สรุป ความรู้เกี่ยวกับความหมายของมะเร็งว่า เกิดจากการแย่งชิงอิเล็กตรอนในระหว่างเซลล์ ทำให้เซลล์ที่ถูกแย่งชิงอิเล็กตรอนถูกทำลายกลายเป็นเซลล์ที่มีจำนวน Chromosome จาก 46 เป็น 47 Chromosome ด้วยเหตุนี้กระบวนการทำงาย Nucleus จึงถูกทำลายโดยการเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมใน DNA และ RNA ทำให้เป็นเซลล์ที่ผิดปกติไปโดยปริยาย ดังนั้น เซลล์เนื้อดีจึงถูกทำลายต่อไปเป็นเซลล์มะเร็งในวงกว้าง

ส่วนนักวิจัยทางการแพทย์อีกพวก กล่าวว่า มะเร็งเกิดจากสภาพความเสื่อมของร่างกายอันเกิดจากการสะสมของสารอนุมูลอิสระ และสารก่อมะเร็ง เป็นระยะเวลายาวนาน อีกทั้งร่างกายจำเป็นต้องทำงานเผาผลาญอาหาร ร่วมกับกระบวนการนำเข้าออกซิเจนสู่เซลล์เนื้อเยื่อ แต่เพราะสารก่อมะเร็งและสารอนุมูลอิสระเมื่อเข้าสู่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายร่วมกับสารอาหารได้ แต่กลับแบ่งเซลล์เป็นเซลล์ที่ผิดปกติ คือ เกิดการลดจำนวน Chromosome ลดลงครึ่งหนึ่ง ไปเรื่อย ๆ อย่างไม่จำกัด ซึ่งทำให้เกิดการทำลายเซลล์เนื้อดีออกไปเป็นวงกว้างกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด ขณะเดียวกัน DNA และ RNA ก็ถูกทำลายในที่สุด

 สำหรับนักธรรมชาติบำบัดมีความคิดว่า มะเร็งนอกจากจะเกิดจากการแย่งชิงอิเล็กตรอนของเซลล์ข้างเคียงทำให้เกิดการแตกสลายไป ยังเกิดจากสภาพความเสื่อมสภาพของร่างกาย อันเกิดจากการรับประทานอาหารชนิดต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยสารก่อมะเร็งและสารก่ออนุมูลอิสระ อันมีผลต่อการเผาผลาญสารอาหารที่ผิดปกติในร่างกาย ตลอดจนความเครียดอันเป็นอิทธิพลของตัวบุคคล ทำให้เป็นเซลล์แบ่งตัวผิดปกติขึ้น ก่อเป็นเนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็ง

 สาเหตุของการเกิดมะเร็ง

  • เกิดจากกรรมพันธุ์
  • เกิดจากการกระทบกระแทกของร่างกาย
  • เกิดจากสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย
  • เกิดจากอากาศและน้ำดื่มสกปรก
  • เกิดจากอาหารปนเปื้อนสารพิษเข้าสู่ร่างกาย
  • เกิดจากบาดแผลเรื้อรัง
  • เกิดจากสิ่งสกปรกที่อยู่ในสภาพแวดล้อมรอบตัวบุคคล
  • เกิดจากเชื้อโรคบางชนิด เช่น เชื้อรา เชื้อไวรัส เป็นต้น

 อาการของคนเป็นมะเร็งที่พบเห็นบ่อย ๆ สำรวจตนเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่

  1. เมื่อเกิดบาดแผลขึ้นในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็รักษาไม่ค่อยหาย หรือหากก็นานหลายเดือน เป็นต้น
  2. เกิดมีโลหิตไหลออกทางทวารหนัก และช่องคลอดเป็นประจำ คราวละมาก ๆ หรืออาจจะหยดกะปริดกะปรอย หรือไหลออกมาเป็นน้ำเลยก็มี
  3. เกิดเป็นก้อนเนื้ออกที่แข็ง ๆ ขึ้นตามบริเวณกล้ามเนื้อชั้นกลาง หรือบางกรณีอาจเกิดขึ้นที่ผิวหนัง และอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วค่อยขยายใหญ่โตขึ้น
  4. เกิดจากอาหารที่รับประทานเข้าไปแล้วไม่ย่อยอยู่บ่อย ๆ ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องบวม หรือท้องผูกเป้นประจำ
  5. เกิดอาการท้องร่วงหรือท้องผูกสลับกันแทบทุกวัน
  6. เกิดปานหรือหูด แล้วเปลี่ยนสีจากแดงเป็นดำ หรือ แดงเข้มข้น
  7. มีอาการไอ เสียงแหบแห้ง เสียงไม่ค่อยออก
  8. มีอาการเคร่งเครียดทางอารมณ์บ่อย ๆ
  9. เบื่ออาหาร รับประทานอาหารไม่ค่อยอร่อย
  10. มีอาการอาเจียน จุกเสียด แน่นหน้าอก
  11. นอนไม่ค่อยหลับ มักตื่นกลางดึกบ่อย ๆ
  12. ก้อนเนื้อที่เกิดขึ้น เมื่อลูบคลำจะเคลื่อนย้ายได้เหมือนเป็น Mass หรือ Cease บางครั้งก็เป็น Tumor เป็นต้น และก้อนเนื้อก็ขยายใหญ่ขึ้น บางครั้งอาจแตกเป็นแผลที่ผิวหนังก็เคยปรากฏ

หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ขอให้ยอมรับว่า คุณมีภาวะความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง แล้วควรทำอย่างไร

  1. ไปพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็งทุกปี
  2. หมั่นออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ สด งดพวกเนื้อสัตว์ อาหารทอด อาหารที่มีไขมันสูง หรือทำ Detox แบบอดอาหารทุกเดือน
  3. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด ไม่รีบร้อน ลดปัญหาอาหารตกค้างในร่างกาย ทำให้เกิดของเสีย หรือสารอนุมูลอิสระ
  4. นั่งสมาธิ ปรับสมดุลของเคลื่อนพลังงานในร่างกาย และขับสารพิษจากวิญญาณ ด้วยการวิปัสสนากรรมฐาน
  5. ดื่มน้ำเอนไซม์จากธรรมชาติ เช่น น้ำผักปั่น, น้ำเอนไซม์ผลไม้, น้ำพลังเอนไซม์บำบัด เป็นต้น เพื่อช่วยในการขจัดสารพิษ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยล้างทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร และเลือด

สาเหตุของโรคเจ็บไข้ได้ป่วย

1. การสะสมสารพิษ สารโลหะหนัก สารตกค้างเป็นพิษในร่างกายเพิ่มขึ้น
2. ระบบการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์ มีสภาพความเป็นกรดสูง ทำให้เอนไซม์ไม่ขยายตัวจึงเป็นสาเหตุทำให้ได้สารอาหารน้อยชนิดลง ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
3.  เนื่องจากระบบลำเลียงอาหารเพื่อเลี้ยงเซลล์ บำรุงและการสร้างเซลล์ใหม่เพื่อทดแทน          เซลล์เก่าที่ไม่ดี
4. ระบบการขับถ่ายอุจจาระ ขับถ่ายปัสสาวะ หลอดเลือดตีบตัน เป็นต้นเหตุทำให้ระบบการหมุนเวียนของระบบน้ำ น้ำเหลือง ระบบโลหิต สารอาหาร และเลือดลมไม่ดี
5. การสะสมไขมันมากเกินขนาดทำให้เป็นโรคอ้วน ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดตีบตัน โรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดสมองแตก โรคอัมพาต เป็นต้น

อภินันทนาการจาก ชมรมเกษตรอินทรีย์แห่งประเทศไทย

หมายเลขบันทึก: 352796เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2010 14:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 19:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท