ก้าวแรกของการเป็นผู้เรียน


         เย้...ลูกเราเดินได้แล้ว นี่คงเป็นการเปล่งเสียงดีใจของพ่อกับแม่ฉันที่เห็นฉันเดินได้เป็น "ก้าวแรก"  แต่ก้าวแรกที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นก้าวแรกที่มีแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าก้าวแรกจะมีได้เพียงครั้งเดียวเหมือนที่ใครหลายคนเข้าใจ  ในชีวิตฉันใครจะรู้เล่าว่าในอดีตที่มีก้าวแรกแล้ว ทุกๆวันฉันก็มีก้าวแรกด้วย และในอนาคตก็จะมีอีกหลายๆก้าวแรกก็เป็นไปได้

"ก้าวแรก" ในอดีตคงต้องเริ่มนับตั้งแต่ฉันจำความได้ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เรียกว่า "บ้าน" โรงเรียนนี้ มีคุณครูประจำการ 2 ท่าน คือคุณพ่อ คุณแม่ ของฉันเอง และอาจมีคุณครูพิเศษเข้ามาบ้างเป็นบางคราว ไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และคุณครูฝึกสอนแถวๆโรงเรียนอีกมากมาย ก้าวแรกที่คุณพ่อคุณแม่ฉันท่านเปล่งเสียงดีใจออกมา ตอนนั้นฉันคงแปลความหมายไม่ได้ว่าท่านทั้งสองหมายความว่าอย่างไร  แต่ฉันรับรู้เพียงว่าท่านทั้งสองรักและรัก...รักฉัน...บอกได้ว่ารักมากมาย... และต่อไปนี้แต่ละก้าวแรกของฉันจะทำเพื่อท่านเสมอและตลอดไป

 "ก้าวแรก"ที่ฉันเข้าอนุบาล ฉันรู้สึกว่าไม่คุ้นเคยกับก้าวแรกที่ต้องออกจากบ้านไปอยู่โรงเรียนกับเพื่อนๆ คงจะรู้สึกเหงา ปล่าวเปลี่ยว ไม่มีคนเข้าใจ มองทางไหนก็ไม่ใช่...รู้แต่ว่าร้องไห้ดีกว่า เผื่อแม่พากลับบ้าน แต่ก็ไม่เป็นผล

"ก้าวแรก"ครั้งต่อมาก็ตอนเข้าประถมศึกษาปีที่ 1 ฉันก็จำไม่ค่อยได้อยู่ดีว่ามีความสุขกับการก้าวเข้ามาเป็นนักเรียนประถมหรือไม่ รู้เพียงว่าเมื่อไหร่ฉันจะได้เป็นผู้ใหญ่สักที

"ก้าวแรก"ตอนขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ช่างน่าตื่นเต้นมากมีรุ่นพี่มาห้อมล้อม แต่ก็ใช่ว่าจะตื่นเต้นได้นานเพราะว่าเวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานฉันก็จบ ม.6 พร้อมด้วยความภาคภูมิใจให้กับผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ผู้เป็นกำลังใจและอบรมบ่มนิสัยเลี้ยงดูฉันเสมอมา ซึ่งก็คือสองท่านที่เค้าเฝ้าคอยดูทุกๆก้าวแรกของฉันนั่นเอง

ทุกๆก้าวแรกของฉันท่านจะมีความรู้สึก 2 อย่างด้วยกันคือ

1.ความภูมิใจที่ฉันมีวันนี้

2.ใจหายที่ฉันเดินออกจากชีวิตท่านทีละหลายๆก้าว เพราะยิ่งเรียนสูงฉันยิ่งไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่กับท่าน

"ก้าวแรก"ต่อมาคือ ภายในรั้วอินทนิล ฉันรู้สึกว่าฉันภาคภูมิใจกับมหาวิทยาลัยที่ฉันเลือกเป็นอย่างยิ่ง เลือดสีเขียว ขาว เหลือง ที่อยู่ในตัวฉันทำให้ฉันผูกพันกับที่นี่อย่างบอกไม่ถูกรู้แต่ว่าฉันประทับใจกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตั้งแต่ฉันอยู่ม.4ที่ได้มาเข้าค่ายที่นี่ ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ห่วงใยกันทำให้ฉันจะไม่มีวันลืม และเลือกที่จะมาศึกษาต่อที่นี่ ที่ๆทำให้ฉันรู้จักอดทน หนักแน่น และเรียนรู้อะไรหลายๆด้านที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน

"ก้าวแรก"ต่อมา ฉันก้าวมาสู่ใต้ร่มเงาของต้นทองกวาว ฉันรู้สึกอย่างไรนั้นบอกไม่ถูกเหมือนกัน รู้แต่เพียงว่าพบทั้งสิ่งที่ดีและไม่ค่อยจะดีปะปนกันไป แต่ฉันจะเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้....จะว่าไปก็เปรียบเสมือนละคร เพราะ...ที่แห่งนี้นั้นมีความรักอยู่ คอยรับรู้ และคอยเข้าใจ... (ขอหยิบยืม เพลงของคุณ นพ พรชำนิ  มาสักท่อนนะคะ) ณ ที่แห่งนี้เป็นก้าวแรกที่ฉันพร้อมจะก้าวเดินไปกับชายคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันเลือกเป็นแฟน และเลือกมาเป็นพ่อของลูกในอนาคต (คงไม่แปลกหรอกนะที่ฉันมีแฟนคนแรกตอนอายุ 23 ปี แต่ก็แอบภูมิใจนิดๆว่า เป็นโสดนานกว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน)

และอีกก้าว"ก้าวแรก" ในสถานที่ที่ฉันได้ยินมานาน "วิทยาลัยครู" เชื่อไหมว่าทั้งปู่ย่าตายายและพ่อแม่ของฉันอยากให้ลูกหลานมาเรียนที่นี่ ท่านอยากให้พวกเราเป็นครู เพราะเป็นอาชีพที่มีเกียรติและความมั่นคง และก้าวแรกครั้งนี้เป็นก้าวแรกที่เป็นปัจจุบัน พ่อแม่ของฉันท่านภูมิใจและพึงพอใจกับก้าวนี้มาก  แม้ฉันจะเดินอ้อมมาตั้งไกลแต่ก็นับได้ว่ามาถึงที่แล้ว ซึ่งต่อไปที่แห่งนี้จะหล่อหลอมให้ฉันได้เป็นครูอย่างเต็มตัว คงไม่ต้องเป็นครูเถื่อนอีกต่อไป  ส่วนก้าวที่เหลือจะเป็นอย่างไรนั้นยังบอกไม่ได้ เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เอาไว้ติดตามตอนต่อไปค่ะ...

 

 

หมายเลขบันทึก: 350918เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2010 23:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีครับ คุณครูกาญจนา ;)

เขียนบันทึกน่าสนใจทีเดียวครับ ... ครูชอบอ่านเลยล่ะ

สำนวนการเขียนเป็นเฉพาะตัวดี

ขอให้ใช้เวลาสะสมประสบการณ์แล้วทำให้บันทึกดีขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ว่าจะเป็นด้านการตกแต่งบันทึก สำนวนการเขียน วิธีเขียน แนวความคิด ฯลฯ

ขอให้กำลังใจครับ ...

ขอบคุณครับ ;)

เป็นกำลังให้สู้ต่อไปค่ะ

ขอบใจมากนะ Trendwatching เดี๋ยวจะเข้าไปบอกงานที่ อาจารย์มอบหมายแต่ละวิชาให้นะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท