ตั้งสถานีสัญชาติช่วยเด็กไทย


คนไทยโดยสมบูรณ์

ตั้งสถานีสัญชาติช่วยเด็กไทย

            จากการทำงานเพื่อเด็กด้อยโอกาสมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี  ผมได้พบว่าปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่เด็กไทยกำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน และจะทวีความรุนแรงขึ้นมากในอนาคต  นั่นคือ “ปัญหาเด็กไทยไร้สัญชาติ”  โดยการลงสำรวจในชุมชนแออัดอย่างต่อเนื่องของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก และองค์กรที่ทำงานเพื่อเด็กทั้งภาครัฐและเอกชน  พบว่ามีเด็กไทยจำนวนมากที่ยังไม่มีหลักฐานแสดงสถานะของตนเอง  ไม่ว่าจะเป็นใบเกิดหรือการมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ฯลฯ  ทำให้เด็กๆ เหล่านี้หมดสิทธิที่จะได้รับบริการขั้นพื้นฐานที่รัฐจัดให้ เช่นไม่มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ในกรณีประสบปัญหา  ไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพในกรณีเป็นเด็กพิการ (ส่วนสิทธิในการเรียนฟรีและรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย รัฐจัดให้แล้ว) ฯลฯ 

           เด็กที่ไม่หลักฐานเหล่านี้   เมื่อวันเวลาผ่านไปจนเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีงานทำก็ไม่สามารถทำประกันสังคมได้  แก่ชราไปก็ไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเมื่อมีครอบครัว มีลูก ลูกก็จะประสบปัญหาไม่มีสัญชาติตามมาอีก  เป็นปัญหาต่อเนื่องไม่สิ้นสุด  ซึ่งจากการประมาณตัวเลขคร่าวๆ จากชุมชนแออัดทั่วประเทศสามพันกว่าแห่งและในชนบททั่วไป แล้ว น่าจะมีเด็กไทยที่ประสบปัญหานี้อยู่ไม่ต่ำกว่า 200,000 คน

          สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก จึงได้จัดตั้งโครงการสถานีสัญชาติ  ขึ้นเพื่อทำหน้าที่สำคัญๆ หลายประการดังนี้ คือ

               หนึ่ง..รุกร่วมไปกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ลงค้นหาเด็กในชุมชนแออัดที่ประสบปัญหานี้ เพื่อช่วยประสานและคลี่คลายปัญหาให้  

               สอง..เปิดสายรับเรื่องร้องราวทุกข์จากเด็กและครอบครัวที่ประสบปัญหานี้ เพื่อร่วมกันแก้ไขต่อไป   

               สาม..ประสานจัดตั้งเครือข่ายคนทำงานด้านนี้ เพื่อผนึกกำลังกันในการช่วยเหลือเด็กไทย ที่เป็นไทย เกิดในไทยแต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย ให้ได้เป็นไทยโดยสมบูรณ์เสียที

         เหตุที่ต้องมีโครงการ “สถานีสัญชาติ”ขึ้นก็เพราะ

               หนึ่ง...เด็กแต่ละคนที่ประสบปัญหา มีรายละเอียดต่างกันมาก ผนวกกับระเบียบราชการมีขั้นตอนยืดยาวและข้าราชการบางส่วนยังไม่มีจิตใจในการรับใช้ประชาชนเพียงพอ หรือยังเรียกหาผลประโยชน์อยู่ ทำให้การช่วยเหลือเด็กยากยิ่งขึ้น

               สอง...ปัจจุบันมีเด็กนักเรียนในระบบโรงเรียนที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทย 60,000 กว่าคน โดยทุกคนได้เลขสิบสามหลักที่ขึ้นต้นด้วยเลข “0” ที่ยังต้องใช้เวลาติดตามรายละเอียดของเด็กแต่ละคนต่อไปว่าพวกเขาคือเด็กสัญชาติใดแน่

               สาม...การละเลยไม่ใส่ใจของพ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก ที่ไม่เห็นความสำคัญในหลักฐานของลูก ปล่อยทิ้งไว้เนิ่นนานจนหาพยานและหลักฐานไม่พบ  ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องยาก ซับซ้อน ต้องใช้เวลาติดตาม ติดต่อ เสียทั้งเวลาและเงินทอง  ยิ่งในกรณีต้องตรวจดีเอ็นเอเทียบเคียงความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกด้วยแล้ว ต้องใช้เงินมากขึ้น พ่อแม่ที่ยากจนย่อมยากจะจัดการให้ลูกได้

         “สถานีสัญชาติ”  ที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็กจัดตั้งขึ้น  จึงเป็นเสมือนสะพานแห่งความหวังสายหนึ่งที่ช่วยพาดผ่าน พาเด็กไทยที่ไร้สัญชาติ เดินทางไปค้นหาหลักฐานและพยานบุคคล เพื่อช่วยให้พวกเขาเป็น “คนไทยโดยสมบูรณ์”ต่อไป 

 

7  เมษายน 2553

ครูหยุย  มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

 

หมายเลขบันทึก: 350349เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2010 10:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ให้กำลังใจ ทีมงานทุกท่านครับ

ขอใหจัดตั้งไวๆเพื่อเด็ก ๆ ครับ

สถานีสัญชาติ ตั้งขึ้นแล้วครับ อยู่ในความดูแลของมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก มี "คุณยินดี ห้วยหงษ์ทอง"ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ เชื่อหรือเปล่าครับว่า มีผู้คนมากถึง 200 กว่าคนที่โทรเข้ามาสอบถามรายละเอียด ต่อมาบุคคลเหล่านั้น

ทะยอยส่งประวัติของแต่ละคนที่ประสบปัญหามายังโครงการ หลายรายแนะนำไปก็สามารถไปดำเนินการด้วยตนเองได้ หลายรายโครงการได้ช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานด้านปกครอง ก็สามารถค้นหาหลักฐานได้ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ทิ้งข้อมูลมานานหลายสิบปี ต้องใช้เวลาสืบค้นทั้งสถานที่เกิด ถิ่นที่อยู่เดิม โรงเรียนเดิมที่เคยเรียน เพื่อหาหลักฐานต่างๆ เท่าที่จะหาได้และสอบถามบุคคลที่เคยรู้จัก เป็นหลักฐานเก็บไว้ สรุปได้ว่าแต่ละรายยากง่ายแตกต่างกันไป

ท่านใดที่เป็นคนไทย แต่ยังไม่มีหลักฐานแสดงตนว่าเป็นคนไทย ประสานไปยังโครงการได้ที่หมายเลข

02-5741381 และ 02-5743753 ก็จะได้รับการแนะนำและช่วยหลือ

แจ้งข่าวสืบเนื่องมานะครับ ขอบคุณ

ดีจังค่ะ เห็นเด็กข้างถนนที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์กระทำแล้ว รู้สึกสงสารมากๆค่ะ แล้วยิ่งไม่ได้รับสิทธิคุ้มครองเบื้องต้นของความเป็นมนุษย์ ขอเป็นกำลังใจ และขอให้ทีมงานทุกท่านประสบความสำเร็จ โชคดี เจริญๆ สุขภาพแข็งแรง ทุกท่านนะคะ

นอกจากจะมีความคิดเห็นผ่านมาทางบล๊อกนี้แล้ว ยังมีประชาชนจำนวนหนึ่งโทรมาสอบถามเกี่ยวกับ "สิทธิ"ต่างๆ ของเด็กที่ยังไม่มีหลักฐานแสดงตนว่าเป็นคนไทย (ไม่มีสูติบัตรคนไทยหรือบัตรประชาชนคนไทย)ว่ามีสิทธิได้รับอะไรบ้าง ขอตอบโดยสังเขป ว่า รัฐบาลไทยใจดีมากสำหรับเด็กประเภทนี้ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินไทย กล่าวคือ

1.เรียนฟรีได้ทุกคนนานถึง 15 ปี โรงเรียนใดปฎิเสธการรับเด็กไร้หลักฐานเข้าเรียน ถือว่าทำผิดระเบียบครับ ร้องเรียนได้ครับที่กระทรวงศึกษาธิการหรือที่ฝ่ายการศึกษากรุงเทพมหานคร (โรงเรียนในสังกัด กทม.)

2.เด็กทุกคนได้รับรักษาพยาบาลฟรี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา

3.แต่เดิมนั้นเด็กบางกลุ่มออกนอกพื้นที่ไม่ได้หรือออกได้ก็ยากมาก แต่ปัจจุบัน หากจะย้ายที่เรียนหรือย้ายที่ทำงาน สามารถประสานกับผู้รับผิดชอบในท้องที่นั้นๆ ได้โดยตรง และจะมีหลักฐานติดตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูได้

4.พ่อแม่ต่างด้าวหรือไร้หลักฐาน หากมีลูกมาเกิดในแผ่นดินไทย สถานพยาบาลนั้นๆ จะออก "ใบรับรองการเกิด"ให้แก่เด็กคนนั้น พวกเขาจะได้มีหลักฐานว่าเกิดที่ใดเพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบค้นประวัติในอนาคตต่อไป

ครับ อย่างน้อยมี 4 เรื่องที่เด็กไร้หลักฐานมีสิทธิที่จะได้รับครับ...........

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท