กราบ เรียนท่านทำไมคน ไทยไม่รักกัน,
กราบ เรียนท่านทำไมคน ไทยไม่รักกัน,
พระราชปุจฉาของในหลวง กับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ณ วัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
พระราชปุจฉา : ทำอย่างไรประเทศชาติประชาชน จะอยู่ดีกินดี มีความสามัคคีปรองดองกัน
หลวง ปู่ฝั้น : ให้เข้าหาพระศาสนา เพราะศาสนาสอนให้ละชั่ว กระทำความดี ทำใจให้ผ่องใส
พระราชปุจฉา : คนส่วนมากทำดี คนส่วนน้อยทำชั่ว จะทำให้คนส่วนมากเดือดร้อนไหม ทำอย่างไรจึงจะแก้ไขได้
หลวงปู่ฝั้น : ขอถวายพระพร ทุกวันนี้คนไม่รู้ศาสนาจึงเบียดเบียนกัน ถ้าคนเรานึกถึงตนแล้วก็ไม่เบียดเบียนกัน เพราะต้องการความสุขความเจริญ คนอื่นก็เช่นกัน
คนทุกวันนี้เข้าใจว่าศาสนาอยู่กับวัด อยู่ในตู้ ในหีบ ในใบลาน อยู่กับพระพุทธเจ้าประเทศอินเดียโน่น จึงไม่สนใจ บ้านเมืองจึงเดือดร้อนวุ่นวาย มองหน้ากันไม่ได้
ถ้าคนเราถือกันเป็นบิดามารดา เป็นพี่เป็นน้องกันแล้วก็สบาย ไปมาหาสู่กันได้ เพราะใจเราไม่มีเวร เวรก็ไม่มีใจ เราไม่มีกรรม กรรมก็ไม่มี
ฉะนั้น ให้มีพรหมวิหารธรรม อย่างมหาบพิตรเสด็จมานี้ ทุกอย่างเรียบร้อยหมด
ใน สถานการณ์เมืองไทยที่กำลังวุ่นวายในขณะนี้ ในฐานะที่เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่ง (ที่ไม่อยู่ข้างฝ่ายใด) จะต้องทำตัวอย่างไรเกี่ยวกับข่าวและสถานการณ์ในขณะนี้คะ การสวดมนต์จะช่วยให้ประเทศดีขึ้นบ้างใหม?????
" สิ่งที่นักปฏิบัติ ธรรมที่เจริญสติวิปัสสนากรรมฐาน แนวสติปัฏฐานสี่ กาย เวทนา จิต ธรรม สามารถทำได้คือ ไม่ต้องสนใจอ่านข่าว ไม่ต้องดู ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งสิ้นครับ หมั่นปฏิบัติธรรมของตนไปเช่นเดียวกับว่าอยู่ที่วัดอัมพวัน ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้นตัดปริโพธิให้หมด..."
ดังคำของหลวงพ่อจรัญ "ถ้าท่านตั้งใจปฏิบัติธรรมโดย กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรให้มากแล้ว ไม่สนใจใครทั้งหมด ตัดปลิโพธิกังวลให้หมด (พะว้าพะวัง ห่วงโน้น ห่วงนี่ ห่วงนั่น)ท่านจะไม่ขาดทุน"
การ อ่านข่าว เป็นการส่งจิตออกนอก การส่งจิตออกนอก เป็นสมุทัย ซึ่งคือสาเหตุของทุกข์ หลวงปู่ดูลย์ท่านกล่าวไว้ไม่ผิดเลย ทำให้เกิดการปรุงแต่ง ยากมากต่อการกำหนดสภาวธรรมในปัจจุบันธรรมให้ทันได้ เมื่ออ่านแล้ว ย่อมเกิดความรู้สึกชอบใจ ไม่ชอบใจ เฉยๆ
แต่ถ้าอยาก อ่าน ต้องกำหนดๆๆๆๆไปด้วย จนกว่าจะอ่านจบจึงกำหนดรู้หนอที่ลิ้นปี่ เพื่อละความชอบ ไม่ชอบ เฉยๆเสีย ถ้ากำหนดได้อยากอ่านก็อ่านไป หรืออยากดูข่าวก็ดูไป เสียงสักแต่ว่าเสียง เห็นสักแต่ว่าเห็น ละความชอบ ไม่ชอบเสีย เมื่อทำได้จริงๆ จิตจะปล่อยวางได้เองในทุกเรื่องๆ จะไม่ยินดี ไม่ยินร้าย กับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างๆ เพราะรู้ด้วยตนเองแล้วว่าเมื่อมีการเกิดขึ้น ย่อมมีการตั้งอยู่ ในที่สุดต้องดับไปเอง ล้วนเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
การปฏิบัติ ธรรมและสวดมนต์ สามารถช่วยตัวผู้ที่ปฏิบัติธรรมเอง สามารถฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันด้วยตนเองอย่างมีสติ สัมปชัญญะ
ประเทศชาตินั้น ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครองดีแล้วครับ
การสวดมนต์สามารถช่วยได้ ถ้าทุกๆคนในประเทศชาติร่วมกันสวดมนต์ดังๆพร้อมๆกัน โดยไม่ต้องมีสีอะไรอีกต่อไป รู้จักปล่อยวาง และให้อภัยกัน อโหสิกรรม ไม่ต้องควานหาว่าใครถูก ใครผิด เพราะทุกๆวันนี้ทุกๆท่านกำลังชดใช้กรรมอยู่แล้วครับ
สิ่งที่ทำได้ดี ที่สุด แค่ทุกๆท่านร่วมมือร่วมใจกันทำแต่ความดีละชั่ว ประเทศไทยย่อมกลับมาสู่สันติภาพอีกไม่นานเกินรอครับ จะได้เห็นกฏของพระไตรลักษณ์ คือการดับไป การเป็นอนัตตาครับ ขอให้จบลงด้วยดีทุกๆฝ่ายครับ แล้วจะเข้าใจว่า ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่างล้วนเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรมครับ
ลอง พิจารณาด้วยตนเองครับ
จาก....เกษมศักดิ์ ทรัพย์เจริญ ...
..............................................................................................................................................................................................
ความเห็น (2)
สวัสดีค่ะ
- ถูกสอนมาแบบนี้ค่ะ
- ให้เข้าหาพระศาสนา เพราะศาสนาสอนให้ละชั่ว กระทำความดี ทำใจให้ผ่องใส
สวัสดีค่ะ คุณครู Todsapol อ่านบันทึกนี้ทำให้ครูนกย้อนกลับไปยังเวลาหนึ่งที่มีเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมือง...ระหว่างที่เดินทางจากกทม. มาหาดใหญ่ เก้าอี้ถัดไปจากครูนกหนึ่งแถวเป็นเด็กตัวเล็กๆมากับคุณแม่...พอช่วงที่เครื่องใกล้จะลงคุณแม่ก็ชักชวนให้ทำกิจกรรมมากมาย...รวมถึงร้องเพลงโดยลูกจะร้องเป็นหลัก...แม่จะเสริมเป็นช่วงๆ แต่สิ่งที่ตรึงใจครูนกคือเนื้อเพลงที่เด็กร้อง เพลง เราสู้ (เพลงพระราชนิพนธ์ ร.9 ) โดยเฉพาะตอน "ถึงเป็นคนสุดท้ายก็ลองดู บ้านเมืองเราเราต้องรักษา อยากทำลายเชิญมาเราสู้ เกียรติศักดิ์ของเราเราเชิดชู เราสู้ไม่ถอยจนก้าวเดียว"...ครูนกคิดในใจหน้าที่นั่นต้องเป็นของผู้ใหญ่เพื่อตัวน้อยๆที่นั่งร้องเพลงนี้ละ....ตอนนี้ขอแค่สติ เหตุผล และความอดทนขอให้เกิดกับกลุ่มคนที่ทำดีเพื่อชาติค่ะ...ส่วนคนคิดร้ายต่อบ้านเกิดเมืองนอน...เชื่อว่าต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม