เมื่อกำหนดภาวนา สติจะดี เมื่อตัวขันติตามมา ตัววิริยะตามมา
ทำให้ขยันเดิน ขยันนั่ง ขยันกำหนดภาวนาอยู่ตลอดเวลานั้น
คือ สภาวะญาณก็จะเกิดขึ้นง่ายและไว
จะเห็นชัดเจนตั้งแต่นามรูป
ตั้งแต่ปฐมฌานคือ ฌานที่ ๑
เราจะเห็นรูปเห็นนาม แยกรูปแยก นามอย่างชัดเจน
เราเห็นการเคลื่อนไหวคู้เข้า เหยียดออก เป็นรูปเป็นนามทั้งหมดทั้งสิ้น
ไม่มีสภาวะอะไรเกิดขึ้น มีแต่รูปกับนามที่แยกกันอยู่
อารมณ์ที่พองคือรูป มันเกิดกับรูปกับนาม โลกทั้งโลกมีแต่รูปกับนามนั้น
ถ้ามันหนุนเนื่องกันอย่างนี้ คือ สภาวธรรมที่เกิดขึ้น
องค์ญาณที่เกิดขึ้นก็จะเป็นญาณตามลำดับ
ตั้งแต่ญาณที่ ๑ ญาณที่ ๒ ญาณที่ ๓ จนถึง ญาณ ๑๖ แห่งการกำหนดชัดเจน
โดยจิตอยู่ในกาย มันเกิดสภาวะอะไร ก็กำหนดพิจารณาตรงนั้น
มันแยกรูปแยกนาม แยกแล้วเกิดปัญญาหรือไม่
หากเกิดปัญญาจะเห็นชัดเจน เราเรียกว่า วิปัสสนาญาณ
แต่ส่วนหนึ่งเรียกว่าวิปัสสนาฌาน คือเมื่อนั่งสมาธิแล้ว มีสมาธิมากขึ้น
สมาธิแก่กล้าเป็นอัปปนาสมาธิ
เอาตัววิปัสสนาฌาน ไปกำหนดสภาวธรรมเอากำลังฌาน
ไปพิจารณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้น
พอกำหนดชัดเจน ตรงนี้เรียกว่า วิปัสสนาญาณ อีกขั้นหนึ่ง
ขอบคุณค่ะที่เมตตาให้กำลังใจในการเผยแผ่ธรรม
ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านนะคะ
ขอบคุณมากคะที่ได้รับความรู้เกี่ยวกับการปฎิบัติธรรมสนใจมากคะ