เมื่อวานมีนัดกลุ่มย่อยไปช่วยอ.จี๋เขียนเอกสารประกอบการขอกำหนดสาขา การประกอบโรคศิลปะใหม่ สาขาสังคมสงเคราะห์คลีนิค นัดกัน 9.30น.ที่ห้องประชุมชั้น4 คณะสังคมสงเคราะห์ มธ.
เวลา 7.30 น.จากบางพลี สมุทรปราการ ไปท่าพระจันทร์ช่วงที่มีม็อบอยู่ราชดำเนิน จะไปอย่างไรดีให้ประยัดและทันเวลาเป็นโจทย์ที่ถามแท็กซี่ที่จอดหน้ามหาวิทยาลัย ว่าแล้วโชเฟ่อร์ก็ไปส่งที่ BTS อ่อนนุช แล้วแนะนำว่าไปลงที่ท่าเรือสาทร ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาไปขึ้นท่าน้ำรพ.ศิริราช
พอลงเรือด่วนท่องเจ้าพระยาได้บรรยากาศลมโชยเย็นฉ่ำก็เบียดไล่ความอึดอัด ขัดแย้งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเมืองได้ แถมชื่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางแม่น้ำเจ้าพระยาตื่นเต้นไม่แพ้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชี้ชวนกันดูวัดและศาลเจ้าริมน้ำ
การไม่ได้ใช้เส้นทางเรือด่วนมานานหนักหนาแล้วได้มาเห็นในครั้งนี้จึงรู้สึกว่าวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาของเราช่างสวยงามและมีชีวิตชีวา มีการบูรณะตกแต่ง วัดและอาคารเก่าให้ดูโดดเด่น บางตึกก็ไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน เช่น ตึกไปรสะนี ใกล้สะพานพระพุทธยอดฟ้า พอผ่านวัดอรุณราชวรารามแม้จะไม่เห็นสีกระเบื้องเบญจรงค์สะท้อนแสงแดดเหมือนก่อนเก่าแต่องค์พระปรางยังคงความสง่างามอยู่ริมเจ้าพระยาเสมอ
กำลังเพลินกินลมชมวิวก็ถึงท่าศิริราชตอน 10.00 น.สายแล้วรีบจ้ำข้ามฟากไปประชุม พอเข้าประชุมก็กำลังคุยกันเรื่องนิยามความหมายของสังคมสงเคราะห์คลีนิค และขอบเขตที่ชัดเจน ขอยกตัวอย่างความหมายที่เราพูดถึงกันว่า
สังคมสงเคราะห์คลีนิคหมายถึง การปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ในการแก้ไข ป้องกัน ความผิดปกติทางสังคม อารมณ์ จิตใจ รวมทั้งการช่วยเหลือความเจ็บป่วยทางจิตของผู้ใช้บริการและพัฒนาความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในสังคมให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ
ที่ประชุมมีการพูดคุยเขียนกันอีกหลายประเด็นเช่น ความเป็นมาของสังคมสงเคราะห์คลีนิคในเมืองไทย ความจำเป็นของการขอกำหนดสาขาการประกอบโรคศิลปะใหม่ สาขาสังคมสงเคราะห์คลีนิค เราก็ร่างกันคร่าวๆไว้เพื่อนำไปสู่การนำเสนอความคิดเห็นจากที่ประชุมใหญ่ในวันที่ 21 เมษา 53 ที่ธรรมศาสตร์ ไม่รู้ว่าถึงวันนั้นจะยังต้องใช้เส้นทางชมวิวเจ้าพระยามาประชุมอีกหรือไม่
ไม่มีความเห็น