บัญชีกลางจับมือ ป.ป.ท. ทำ MOU ดำเนินการเอาจริงทุจริตเบิกค่ายา


การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล

     กรมบัญชีกลางลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในภาครัฐ  (ป.ป.ท.)  กำหนดมาตรการเข้ม กับผู้มีพฤติกรรมทุจริตการเบิกค่ารักษาพยาบาล 

      นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยคุณภิญโญ ทองชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ในวันนี้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และการปราบปรามการทุจริตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียเงินงบประมาณแผ่นดินด้วยเหตุแห่งการทุจริต จึงได้ประสานความร่วมมือระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ คือ

             1. กรมบัญชีกลาง อนุญาตให้สำนักงาน ป.ป.ท. เข้าดูหรือใช้ข้อมูลการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล  เพื่อประโยชน์ในการติดตามธุรกรรมทางด้านการเงินที่อาจส่อไปในทางทุจริต และ/หรือส่งข้อมูลการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้กับ ป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

             2. สำนักงาน  ป.ป.ท.  จะติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้สิทธิในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ส่อไปในทางทุจริต เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และวางแผนคดี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้สิทธิที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตและเข้าข่ายการกระทำความผิดอาญา รวมทั้งดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของ ป.ป.ท.กรณี เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2551

             3. สำนักงาน ป.ป.ท. จะตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวนพัสดุยาที่มีปริมาณการจัดซื้อ เป็นจำนวนมากอันมีลักษณะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชน และดำเนินการตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551

             4. กรมบัญชีกลาง และสำนักงาน ป.ป.ท. จะดำเนินการร่วมกันจัดทำข้อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการบังคับที่เป็นรูปธรรม

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ กล่าวเพิ่มเติม  การดำเนินการในลักษณะนี้จะเป็นมาตรการหนึ่งที่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลได้ เพราะที่ผ่านมาเป็นการตรวจสอบเมื่อพบการทุจริตแล้วจึงจะมีการดำเนินการทางคดี   ซึ่งการร่วมมือกับ ป.ป.ท.จะเป็นการป้องปรามได้ระดับหนึ่งอย่างน้อยผู้ที่มีเจตนาจะได้รู้สึกเกรงกลัวไม่กล้ากระทำ และ  จะมีการตรวจสอบ ติดตามและประสานงานกับบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งสัญญาณก่อนที่จะส่งผลเสียหายต่องบประมาณของรัฐ  

             นอกจากนี้ จะได้เสนอมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณด้านการรักษาพยาบาล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมุ่งเน้นการเสริมสร้างสุขภาพให้มากขึ้นเพื่อลดภาระงบประมาณและบุคลากรมีสุขภาพพลานามัย  ที่สมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่งขึ้น  นายพงษ์ภาณุ กล่าวตอนท้าย

หมายเลขบันทึก: 347978เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2010 14:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 18:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท