การปลูกข้าวโพดฝักอ่อนของชาวบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี


การปลูกข้าวโพดฝักอ่อนของชาวบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

 บุคคลให้ข้อมูล

นางวารินทร์  เรืองวงษ์ 

บ้านเลขที่   95  หมู่ 6  ตำบลบ้านใหม่คลองเคียน  อำเภอบ้านไร่   จังหวัดอุทัยธานี

จำนวนเนื้อที่ปลูก  4  ไร่   (4  แปลง  แปลงละ  1  ไร่)

เบอร์โทรศัพท์   081-  3855902

 ความเป็นมา

                โครงการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนเป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และบริษัท แอกโกร – ออน (ประเทศไทย)  จำกัด ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่อำเภอบ้านไร่ ทดลองปลูกข้าวโพดฝักอ่อน โดยนางวารินทร์  เรืองวงษ์  ได้เข้าร่วมโครงการ โดยได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการจากการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน  ใช้ต้นทุนต่ำ  มีระยะเวลาในการปลูกสั้น ไม่ค่อยมีแมลง และศัตรูพืช  ดูแลง่าย  และเห็นเกษตรกรรายอื่นๆ ที่ทดลองปลูกก่อนหน้านี้  เช่นนายวิชัย  ขุมเพชร  พบว่า ได้ผลผลิตที่ดี และมีกำไร  โดยช่วงแรกทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านไร่  กับเจ้าหน้าที่ทางบริษัท แอกโกร – ออน  จะมาดูแลให้คำแนะนำตั้งแต่การเตรียมที่  การปลูก  การดูแล  การเก็บผลผลิต  ร่วมถึงรับผลผลิตที่ได้โดยไม่ต้องหาตลาดเอง  เมื่อพิจารณาแล้วคิดว่าคงได้กำไรดีกว่าการทำนาและปลูกผัก  ซึ่งเมื่อก่อน ต้องคอยดูแล โรคแมลงมาก ต้องฉีดยา  สุขภาพก็ไม่ค่อยดี ผลผลิตที่ได้ไม่ค่อยดี  บางครั้งขาดทุน  จึงตัดสินใจมาทดลองปลูกข้าวโพดฝักอ่อน  ซึ่ง ณ ปัจจุบันได้เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนมาได้  1  ปี         ได้กำไรดีกว่าปลูกผัก  มีเงินเก็บ  แต่ก็ยังปลูกข้าว  ปลูกผัก  เอาไว้กินบ้าง โดยแบ่งพื้นที่เท่าที่เราจะทำไหวสำหรับ  ปลูกข้าวโพด  คิดว่า ข้าวโพดฝักอ่อนก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรที่สนใจ

 การปลูก และการจัดการแปลง

ขั้นตอนการปลูก

1.  ไถ  1  รอบ  ตากแดดไว้  3  วัน  จากนั้นไถแปร อีก   1 รอบ   หว่านปุ๋ยอินทรีย์  รองพื้น  ประมาณ  2  ลูก /ไร่

2.  ไถยกร่อง  ห่างประมาณ  70  เซนติเมตร

3.  หยอดพันธุ์ข้าวโพด  ตามร่อง 2 แถว  โดยใช้รถหยอด  หลุมละไม่เกิน  2 เมล็ด (1ไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 5 กก.)

4.  หลังจากหยอดพันธุ์ข้าวโพด ให้น้ำทันที จะทำให้ข้าวโพดสามารถงอกได้ดี  แต่หากไม่มีเวลาสามารถให้น้ำหลัง     จากวันที่ หยอดได้  หลังจากนั้นให้น้ำ โดยสังเกตที่ร่องมันถ้าแห้งมากก็ให้น้ำสักครั้ง ซึ่งประมาณ  15 วันครั้ง

5.  ฉีดยาคุมหญ้าหลังจากที่ให้น้ำ เพื่อป้องกันวัชพืชขึ้นคลุมต้นข้าวโพดที่งอกใหม่

6.  เมื่อข้าวโพดมีอายุ ประมาณ  15  วัน  ใส่ปุ๋ย สูตร  15 – 15 – 15  ซึ่งเกษตรกรแนะนำว่า จะทำให้ต้นข้าวโพดเขียวนาน

7.  เมื่อข้าวโพดมีอายุ ประมาณ 40  วัน  ใส่ปุ๋ยยูเรีย  โดยให้น้ำก่อน 1  วัน  แล้วใส่ปุ๋ยตามร่อง

8.  เมื่อข้าวโพดมีอายุ ประมาณ 45  วัน  เริ่มถอดยอดดอกข้าวโพดออกเพื่อไม่ให้ข้าวโพดผสมเกสร  และต้องคอยเก็บยอดดอกออกต่ออีก ประมาณ 3  วัน เนื่องจากจะมีต้นที่ออกยอดดอกช้า

9.  ข้าวโพดอายุ  50  วัน  สามารถเริ่มเก็บฝักได้ โดยสังเกตฝักข้าวโพดที่โค้งงอ มีไหมสีเข้มยาวคลุมฝักข้าวโพดประมาณ   1 ฝ่ามือ   ข้าวโพด 1 ต้นจะออกฝักประมาณ 3 – 4   ฝัก  ใช้เวลาเก็บข้าวโพดประมาณ  1  อาทิตย์

 การจัดการแปลง

                การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน  ควรแบ่งเป็นแปลงเล็ก ประมาณ 1-2  ไร่ / แปลง เพื่อให้สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง  และเก็บเกี่ยวให้ทันกับผลผลิตที่ออก  ซึ่งอายุข้าวโพดฝักอ่อนตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ  50  วัน  หากให้ดีควรปลูกให้มีระยะห่างประมาณ  15  วัน  แปลงข้าวโพดฝักอ่อนของนางวารินทร์    เรืองวงษ์  แบ่งเป็น  4  แปลง แปลงแรก  ข้าวโพดอายุ  5  วัน  แปลงที่  2  อายุ  20  วัน   แปลงที่  3  อายุ  30  วัน  และแปลงที่  4  อายุ  40  วัน  และบริเวณใกล้แปลงปลูกมีสระน้ำ  ไว้สำหรับสูบน้ำใส่แปลงข้าวโพดฝักอ่อน  หากเว้นระยะการปลูกสั้น  จะจัดการแปลงยากต้องเหนื่อยเวลาให้น้ำ  และจะดูแลไม่ทั่วถึง

ต้นทุนการผลิต (บาท/ไร่) 

1.  ค่าไถ  2  รอบ     400         บาท

2.  ค่ายกร่อง           200         บาท

3.  เมล็ดพันธุ์          545         บาท

4.  ค่าหยอดเมล็ดพันธุ์      150         บาท       

5.  ค่าปุ๋ยรองพื้น   (ปุ๋ยคอก) ไม่ได้ซื้อ

6.  ปุ๋ยเคมี   15 – 15 – 15   420  บาท   25  กก./ไร่

     ยูเรีย       300         บาท   25  กก./ไร่

7.  ยาคุม          46         บาท       

8.  ค่าแรง        ใช้แรงงานในครัวเรือน

          รวม        2,061            บาท

 ผลผลิตที่ได้

                1.  ข้าวโพดฝักอ่อนประมาณ   400-500  กก./ ไร่  ราคากิโลกรัมละ  18 บาท   เป็นเงิน    8,100  บาท

                2.  ยอดดอกข้าวโพดประมาณ  800  กก./ไร่   ราคากิโลกรัมละ    0.80  บาท  เป็นเงิน  640  บาท

                3.  เปลือกและไหมข้าวโพดประมาณ  1,300  กก./ไร่ราคากิโลกรัมละ    0.80  บาท  เป็นเงิน   1,040 บาท

                4.  ต้นข้าวโพดประมาณ  5,000  กก./ไร่ ราคากิโลกรัมละ    0.80  บาท  เป็นเงิน     4,000     บาท

                                                รวมเป็นเงิน   13,780          บาท

                                                 กำไรสุทธิ      11,719          บาท

*  หมายเหตุ   ยอดดอก  เปลือก  ไหม  และต้นข้าวโพด  มีคนมารับซื้อเพื่อไปเลี้ยงสัตว์

ข้อดีของการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน

การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน  มีข้อดีที่ไม่ต้องดูแลรักษามาก ไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง เนื่องจากไม่ค่อยมีแมลงมารบกวน  มีระยะเวลาการปลูกถึงเก็บเกี่ยวสั้น  สามารถผลิตได้หลายรอบในรอบ  1  ปี   หากจัดการแปลงได้ดี จะสามารถปลูกได้ทั้งปี และมีตลาดรองรับแน่นอน  ไม่ต้องหาตลาด

 

 

                                            ถอดองค์ความรู้โดย : นางสาวอัฉจรา กริ่งเกษมศรี

                                                        นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ

                                                                       สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านไร่

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 345512เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2010 12:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท