เจเจ
เจเจ http://www.hi5.com/friend/profile/displaySameProfile.do?userid=175773721 jj chansakul

Present Simple Tense - It's so Simple!


Present Simple Tense - It's so Simple!

Present Simple Tense - It's so Simple!

posted on 25 Oct 2007 00:12 by streetenglish

 

 

มาแล้วจ้า ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เขียนเรื่องไวยากรณ์กับเขาบ้าง หลังจากเกริ่นเรื่อง Tense ไป

ก็มาถึงคราว Tense ที่ง่ายที่สุด และจำเป็นต้องเขียนก่อนเพื่อน นั้นก็คือ....

"Present Simple"......... Simple แปลว่า "'ง่าย" และมันก็ง่ายจริงๆ
ก็มาดูโครงสร้างของรูปมันก่อน

 

  Subject + Verb 1  

 

Subject คือประธานของประโยค
Verb 1 คือ กริยาแท้ ที่ไม่มีการผันใดๆ
และต้องเติม s หรือ es หากประธานเป็นเอกพจน์ ยกเว้น I, You

 

ทีนี้เราจะใช้ Tense แบบนี้เมื่อไหร่กัน เราจะใช้ในสถานการณ์เวลาเราจะพูดถึง...

1. พูดถึง การกระทำ ที่เป็นกิจวัตรประจำวัน หรือประเพณีนิยม เช่น
I get up at 10 o'clock every Saturday.
ฉันตื่นนอน 10 โมงตรงทุกวันเสาร์ (เป็นกิจวัคร เพราะตื่นเช้า จนเป็นนิสัย (เช้าตรงไหน))

Most Japanese drink green tea.
คนญี่ปุ่นส่วนมากชอบดื่มชาเขียว (อันนี้เป็นประเพณีนิยม)

 

2. พูดถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ (ส่วนมากมี adverb ที่แสดวความถี่ เช่น always, often, usually, sometimes, rarely, everyday, once month, และอื่นๆ) เช่น
He always goes to work very early.
เข้าไปทำงานแต่เช้าเสมอ

We often have lunch at school.
เราทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนบ่อยๆ

 

3. เหตุการณ์ที่เป็นจริงเสมอ (กฏตายตัว) เช่น
The earth goes around the sun.
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์

Water boils at 100 degree celcius.
น้ำเดือดที่จุด 100 องศาเซลเซียส

 

4. เหตุการณ์ที่เป็นจริงในขณะที่พูด เช่น
I have two million baht in my pocket now
ฉันมีเงินสองล้านบาทอยู่ในกระเป๋า

He drives a bus
เขาขับรถเมล์ (หมายถึงเขาทำงานเป็นคนขับนะ ไม่จำเป็นต้องกำลังขับในตอนนั้น)

 

5. แสดงกริยาที่เป็นนามธรรม ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ เช่น
I love cheesecake
ฉันรักชีสเค้ก

She knows me so well
เธอรู้จักฉันดี

This car belongs to John
รถนี้เป็นของ John

*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*

หวังว่าอ่านกันแล้วพอเข้าใจกันนะครับ เพราะเรื่องนี้ง่ายที่สุดแล้วหละ (หวังว่าผู้อ่านจะคิดเช่นนั้นด้วย)
ผมจะขออธิบายรูปประโยคแบบบอกเล่า ปฏิเสธ และคำถามของ Tense นี้กันบ้าง

บอกเล่า...
ที่กล่าวมาในข้างต้นก็เป็นบอกเล่าทั้งหมดและครับ คือ
Subject + Verb 1 แต่ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ ยกเว้น I, You จะต้องมีการเติม s หรือ es นะครับ
ส่วนพหูพจน์ ไม่ต้องไปเติมที่กริยาใดๆ เช่น...
I play tennis everyday.
Ploy always goes to work at 7 o'clock.

คำถาม...
เราจะใช้ Do และ Does มาเป็นกริยาช่วยเราครับ โดยเติมหน้าประโยคเลย (Does ใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์เท่านั้น ที่เหลือใช้ Do )
และโน้ตนิดนึงว่า s หรือ es นั้น มันเป็นโรคขี้กลัว พวกกริยาช่วยด้วยครับ ฉะนั้น verb ที่เคยเติม s ก็จะตัดออกไป เช่น...
Do you play tennis everyday?
Does Ploy always go to work at 7 o'clock?

ปฏิเสธ...
ยังเป็น Do และ Does ที่มาช่วยเราอีกครั้ง แต่เพิ่ม not มาด้วยเป็น Do not (Don't) หรือ Does not (Doesn't) โดยเอาไปไว้ระหว่าง ประธาน กับกริยา เช่น...
I don't play tennis everyday.
Ploy does not always go to work at 7 o'clock.

 

เฮ้อจบกันไปซะทีกับ Tense ง่ายที่สุด (ผู้เขียนรู้สึกโล่งใจ ที่เสร็จไป 1 ตัวจากทั้งหมด 12 ซักที)
คนที่รออ่าน Perfect ก็จงรอลุ้นกันต่อไป ว่าเมื่อไหร่ผมจะเขียน(ซะทีว่ะ) เพราะไม่ได้เขียนติดๆกันแน่

 

ปล. (ยาวหน่อย)

อาจจะไม่ได้มาอัพถี่ๆ บอกเผื่อเอาไว้ก่อนนะครับเพราะไม่แน่ใจ ก็เพราะว่าช่วงนี้ยุ่งมากกับธุรกิจตัวเอง


แต่ว่าก็จะมารีบอัพเรี่อง Tense ที่ง่ายที่สุดก่อน
ถึงหลายคนจะรอ อ่านเรื่อง Perfect มากกว่า แต่คงต้องรอไปก่อน เพราะจะเขียนเรียงกัน เอาเป็น simple ให้หมดทั้งสาม แล้วต่อด้วย continuous อีกสาม (หก Tense แระกว่าจะถึงคิว Perfect) หรือมีอีกทางเลือกหนึ่ง คือเขียนแต่ Present tense ให้หมดก่อน ก็จะรอเพียงแค่ 2 Tense คือ Simple(เอนทรี่นี้) Continuous (Tense หน้า) แล้วก็จะถึงคิว Perfect เลย ........เอาแบบไหนดีครับ ให้เลือกเอา

คำสำคัญ (Tags): #present simple tense - its so simple!
หมายเลขบันทึก: 345511เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2010 12:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 15:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท