คติธรรมของ หลวงพ่อสด ให้บริจาคทานเรื่อยไป ให้บำรุงปัญญาเขาเรื่อยไป


อยู่ที่ไหน ให้ทานบริจาคเรื่อยไป ไม่ทำอะไรก็สอนหนังสือ สงเคราะห์กุลบุตร

สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่รักทุกๆ ท่าน

เล่าสู่กันฟังก่อนนะครับว่า ช่วงนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง? ช่วงนี้ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงปิดเทอมแล้ว งานสอนช่วงนี้ไม่มี แต่จะมีก็ได้งานสอนบุคคลทั่วไป อย่างเช่น การอบรมหลักสูตร 18 กาย ใน 8 ชั่วโมง ที่จะจัด ณ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ สถานที่ก็คื “บ้านภัทรมณี” หมู่บ้านเสริมมิตร ถนนนวมินทร์ 68 ซ.8-7 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ท่านใดที่อยากทบทวนวิชา หรืออยากจะฝึก เชิญสมัครและ อ่านเพิ่มเติม>>

ช่วงนี้ผมก็ทำงานทางโลกเต็มเวลา งานของผมเป็นงานการทำ E-Marketing ซึ่งมีอุปกรณ์ก็คือ คอมพิวเตอร์  อินเตอร์เนต และหัวสมอง ซึ่งสามารถย้ายไปทำงานที่ไหนก็ได้ ทำให้สะดวกในการทำงาน ซึ่งผมชอบการทำงานในลักษณะนี้มากที่สุด และก็เป็นเป้าหมายหนึ่งที่ผมได้หวังเอาไว้ และก็เป็นความจริง นี่คือ สิ่งที่เราเลือกได้ครับ ชีวิตเรามีเวลานิดเดียวเองครับ ผมชอบชีวิตที่อิสระ ที่สามารถทำอะไรก็ได้ที่เราอยากจะทำ  และผมก็เลือกที่จะทำตามที่ผมต้องการ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่คนทั่วๆ ไปไม่่ค่อยได้เดินกัน แม้จะเหงาบ้าง แต่เชื่อว่า ในระยะยาวแล้ว คุ้มค่าครับ

ก่อนอื่นผมขอยกเอาคติธรรมของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จากหนังสือ “คติธรรม คตินิยม การดำเนินชีวิตของหลวงพ่อวัดปากน้ำ” มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เชิญอ่านกันเลยนะครับ

 

2. ให้บริจาคทานเรื่อยไป ให้บำรุงปัญญาเขาเรื่อยไป

“อยู่ที่ไหน ให้ทานบริจาคเรื่อยไป ไม่ทำอะไรก็สอนหนังสือ สงเคราะห์กุลบุตร”

นี่คือคำสอนของหลวงพ่อ ความหมายก็ชัดอยู่ในตัวแล้ว ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้เสมอไป ผู้รับก็ยินดี ผู้ให้ก็สบายใจ หลวงพ่อท่านมีลาภมาก ไม่ว่าท่านจะไปอยู่ที่ไหน มักจะมีผู้คนเอาสิ่งของมาถวาย ท่านรับแล้วท่านก็ให้ต่อ ท่านบอกว่าเจ้าของทานเขาได้บุญ 2 ต่อ

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ถ้าว่าง คือ ไม่มีงานทำ หลวงพ่อจะสอนหนังสือเด็ก ๆ ท่านบอกว่า ได้ปัญญาบารมี สมัยที่หลวงพ่อเป็นพระลูกวัด หลวงพ่อเอากุฏิของหลวงพ่อเป็นโรงเรียน พอพระนักเรียนกลับ หลวงพ่อก็ใช้เป็นที่นอน ขึ้นชื่อว่าการศึกษาแล้ว หลวงพ่อให้ทั้งนั้น จะเอาอะไรขอให้บอก ไม่มีค่าจ้างครู หลวงพ่อจัดหา ไม่มีครู หลวงพ่อไปเป็นครูให้ เมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำใหม่ ๆ สมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนประถมศึกษา หลวงพ่อตั้งโรงเรียนของวัดขึ้น ให้ประชาชนส่งลูกหลายมาเรียนฟรี หลวงพ่อรับเป็นเจ้าภาพค่าจ้างครู ต่อมารัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษา รัฐบาลเข้ามารับกิจการโรงเรียนไป หลวงพ่อก็เลยหมดภาระแต่วันนั้น

เรื่องนี้ เป็นประวัติที่งดงามที่สุด คงไม่ได้ยินได้ฟังที่ไหนอีกแล้ว วิสัยของโพธิสัตว์ก็อย่างนี้ ไม่อยู่เฉยทำประโยชน์เรื่อยไป อย่างเราทำไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เป็นโพธิสัตว์ เราจะยอมเอากุฏิของเราไปเป็นโรงเรียนหรือ แน่นอนเราไม่ยอม เพราะเราก็ต้องการความสบายส่วนตัว ไม่ว่าใคร ไม่ยอมทั้งนั้น

ที่ได้ยกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนี้ถือว่า เล็กน้อย บางท่านอาจจะได้อ่านแล้ว ยังไงก็ถือว่าเป็นการทบทวนความรู้ของเราให้แน่นยิ่งขึ้นนะครับ

เพื่อนๆ จะเห็นว่า ในสมัยของหลวงพ่อ หลวงพ่อใช้กุฎิของท่าน เป็นโรงเรียน เป็นห้องเรียน เอาไว้สอนหนังสือ แม้ว่าไม่มีโรงเรียน หลวงพ่อก็หามาได้ ไม่จำเป็นต้องทำให้ใหญ่โตแต่ประการใด หรือไม่ต้องรอให้พร้อมก่อน หลวงพ่อท่าน ทำเท่าที่มี มีแค่ไหนก็ทำแค่นั้น แต่ก็ทำ เมื่อทำ ก็คือเริ่มก้าวเดิน เมื่อก้าวที่หนึ่งได้เริ่ม ก้าวต่อๆ ไปก็จะตามมา

ปัญหาของเราส่วนมากก็คือ ไม่ยอมก้าวสักที

เมื่อไม่มีก้าวที่หนึ่ง ก็ย่อมไม่มีก้าวที่สอง

ดังนั้น การเริ่มต้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่เมื่อได้เริ่มแล้ว อะไรต่างๆ ก็จะตามมาเอง ไม่ต้องรอให้พร้อมก่อน มีแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น ทำอย่างพอเพียง อย่าทำเกินตัว

ผมขอยกตัวอย่างของ คุณอา “ศักดิ์” เจ้าของบ้าน ภัทรมณี ที่ได้เอาบ้านของตัวท่านเองมาเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แม้ว่า จะสามารถได้ในปริมาณน้อย แต่ก็ได้ทำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว สร้างคนให้เป็นวิชาธรรมกาย ในระดับ 18 กายกันมากมาย

ท่านใช้บ้านของท่าน เป็นแหล่งเพาะบ่ม เป็นแหล่งสร้างโพธิสัตว์ได้มากมาย ถือว่า ท่านได้เดินตามคำสอนของพลวงพ่อวัดปากน้ำ และไม่ใช่เพียงแต่พูดเท่านั้น แต่ท่านยังได้ทำอีกด้วย

นี่แหละครับ “มีแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น”

ไม่ต้องรอให้มีบ้านใหญ่โต หรือไม่ต้องรอให้มีคนมาก่อน หรือไม่ต้องรอให้ ฯลฯ มีแ่ค่ไหน ก็ทำแค่นั้น ดีกว่าอยู่เฉยๆ

เพื่อนๆ เห็นโอกาสในการสร้างบารมีไหมครับว่ามันมีมากมายเหลือเกิน ลองมาคิดต่อซิว่า เราจะสร้างบารมี หรือ ทำความดีอะไรได้บ้าง?

บางทีไม่ต้องมาก แค่คิดดีเพิ่มขึ้นวันล่ะครั้ง ก็ถือว่า เป็นการทำความดี แล้วหละครับ

ขอยกเอาคำกล่าวที่คุณดนัย จันทร์เจ้าฉายได้กล่าวบ่อยๆ ว่า “อย่าดูถูกความดี แม้เพียงเล็กน้อย”

ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขทุกคนครับ ไว้เจอกันใหม่ในบันทึุกฉบับต่อไป สวัสดีครับ

ที่มา http://trainers.wisdominside.org

หมายเลขบันทึก: 345439เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2010 00:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2012 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

*** แวะมาชื่นชม

*** ชีวิตเรามีเวลานิดเดียวเองครับ ผมชอบชีวิตที่อิสระ ที่สามารถทำอะไรก็ได้

*** ให้บริจาคทานเรื่อยไป ให้บำรุงปัญญาเขาเรื่อยไป

“อยู่ที่ไหน ให้ทานบริจาคเรื่อยไป ไม่ทำอะไรก็สอนหนังสือ สงเคราะห์กุลบุตร” นี่คือการปฎิบัตธรรมเท่าที่ดิฉันพอทำได้ แม้ไม่ยิ่งใหญ่แต่ก็มีความสุข

*** ขอบคุณสิ่งดีๆที่ ธรรศ ธนบรมัตถ์ มีให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

ยินดีครับอาจารย์ จริงครับ อย่าดูถูกความดี แม้เพียงเล็กน้อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท