“จากนี้ไปฉันคงไม่ได้เจอนายอีกแล้วเพื่อนรัก แต่ฉันจะกลับมาเยี่ยม มาหานายทุกวันเลย” หนอนผอมรำพึงถึงเพื่อนรักที่จากไป
นับแต่วันนั้นหนอนผอมก็เฝ้าแวะเวียนมาหาร่างของหนอนอ้วนทุกวัน และร่างของหนอนผอมก็เริ่มอ้วนขึ้นทุกวัน จนบัดนี้มันก็อ้วนและมีขนาดเท่าเพื่อนของมันแล้ว
กระทั่งวันหนึ่ง เรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น หนอนผอมเริ่มสังเกตว่าภายในถุงสีขาว ๆ ที่คลุมเพื่อนของมันอยู่นั้น เริ่มขยับได้ทีละเล็กละน้อย จากช้า ๆ และเริ่มเร็วขึ้น จนในที่สุดก็มีผีเสื้อตัวหนึ่งโผล่หัวออกมาจากถุงสีขาวนั้น และโผบินออกไปสู่อากาศอย่างงดงาม ปีกของมันสีน้ำเงินระยิบระยับยามต้องแสงตะวัน นั่นก็แสดงว่าหนอนอ้วนฟื้นแล้ว อีกทั้งยังแปรเปลี่ยนร่างของตนไปเป็นสัตว์ที่งามกว่าหนอนมากมายนัก
“ไชโย! นายฟื้นแล้ว นายฟื้นกลับมาหาฉันแล้ว” หนอนผอมตะโกนร้องก้องด้วยความดีใจ
“นายจำฉันได้ไหม ฉันเจ้าอ้วนไง ตอนนี้ฉันเกิดใหม่มาเป็นผีเสื้อแล้วนะ” อดีตหนอนอ้วน กระพือปีกทักทายเพื่อนด้วยความเบิกบานที่ตนมีร่างใหม่เป็นสัตว์แสนงามเช่นนี้
“ยินดีด้วยนะที่นายฟื้นแล้ว โอ้โห ! นายสวยมากจริง ๆ ตอนนี้นะฉันอ้วนเหมือนนายเลย เห็นไหม” อดีตหนอนผอมขยับตัวอันอุ้ยอ้ายไปมา
หลังจากนั้นไม่นานอดีตหนอนผอมก็เริ่มมีอาการเหมือนอย่างที่เพื่อนมันเคยเป็น คือปวดตัวจนแทบจะปริแตกออก แต่ว่าวันกลับไม่ปริปากบ่นเลย ด้วยรู้ดีว่าตนกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อในไม่ช้า
“นายปวดตัวบ้างรึเปล่าน่ะ เจ้าผอม” ผีเสื้อถามด้วยความห่วงใย
“ปวดสิ และปวดมาก ๆ เลยแหละ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อแบบนาย แล้วเราจะอยู่ด้วยกันอีก นายคอยฉันก่อนนะ เจอกันใหม่ในร่างผีเสื้อนะ ลาก่อน” อดีตหนอนผอมสั่งลาผีเสื้อเป็นครั้งสุดท้าย
เวลาผ่านไปไม่นาน ในที่สุดหนอนผอมก็กลายเป็นผีเสื้อแสนงามดังเช่นเพื่อนของมัน ทั้งสองโบยบินไปด้วยกันอย่างเสรี กระพือปีกแสนงามเคียงคู่กันตลอดไป
เห็นมั้ยละคะว่า เพียงแค่นิทานที่ออกจะดูเด็ก ๆ เรื่องนี้ก็สอนเราได้ด้วยความคิดที่ไม่เด็กเลยว่า “ถ้าหากเราสามารถผ่านช่วงวิกฤติอันทุกข์ทนที่สุดด้วยการปรับตัวของเราได้ ผลที่ย่อมได้รับคือความสำเร็จอันงดงาม” ถ้าหากเปรียบการปรับตัวในช่วงวิกฤตินั้นก็คงเหมือนกับ “ฟ้าหลังฝนย่อมงดงาม” นั่นแหละค่ะ ที่มีแต่ความสดใสและชื่นฉ่ำใจจากท้องฟ้า
แล้วคุณทราบมั้ยคะว่า ก่อนที่เราจะปรับตัวให้อดทนต่ออุปสรรคได้นั้น เราต้องใช้อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เราปรับตัวได้ สิ่งนั้นคือ “ใจ” กำลังใจที่ยิ่งใหญ่จะทำให้เรายืนหยัดอย่างอดทนได้ ก่อนที่เราจะปรับตัวก็ต้องเริ่มจากปรับใจก่อนใช่มั้ยคะ และใจที่ปรับมาดีแล้ว ต้องเป็นใจที่เปิดกว้าง ใจขยาย พร้อมจะรองรับสิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตนได้เสมอ
หากเปรียบกับการรองรับของใจแล้วก็เหมือนกับแก้ว 3 ใบ คือ
ใบที่หนึ่งคว่ำ ใบที่สองตะแคง และใบที่สามหงายขึ้น หากถามว่าแก้วใบไหนรับน้ำได้มากกว่ากัน คนต้องตอบว่า แก้วใบที่หงายขึ้น ทั้งนี้เพราะแก้วทั้งสามใบก็เหมือนกับใจคนที่พร้อมจะรับสิ่งดีต่าง ๆ ด้วยการเปิดใจได้หรือไม่
แก้วคว่ำเปรียบเหมือนคนที่ไม่เปิดใจรับอะไรเลย
แก้วตะแคงเปรียบเหมือนคนที่พอจะรับได้บ้าง แต่ไม่เต็มที่นัก
ส่วนแก้วหงายเปรียบเหมือนคนที่พร้อมรับสิ่งดี ๆ ได้อย่างเต็มที่
แล้วคุณล่ะคะ อยากให้ใจของคุณเป็นแก้วประเภทไหน ?
ทุกสิ่งสำเร็จหรือไม่สำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุปสรรคที่มีในงาน แต่มันขึ้นอยู่กับใจของผู้ทำต่างหาก ดังนั้นถ้าหากทำอะไรให้มั่นใจแล้วทำไปเลย ความสำเร็จก็จะบังเกิดขึ้นกับทุกคนแน่นอนค่ะ
เขียนไปเขียนมาหน้ากระดาษหมดลงพอดี เราเขียนได้ยาวขนาดนี้เชียวหรือนี่ จันทร์เจ้าก็ขอให้ทุกคนปรับตัวและปรับใจให้เปิดกว้างเพื่อความสำเร็จของคุณเองค่ะ
“ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมนับว่าไกล ความสำเร็จอยู่ที่ใจไม่ต้องเอื้อม” พบกันในเรื่องต่อไปค่ะ สวัสดีค่ะ
เรียบเรียงโดย ปัฐมานันท์ (พระจันทร์ทรงกลด)
ไม่ต้อง งงนะคะ จันทร์เจ้าเป็นนามปากกาเดิมค่ะ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพระจันทร์ทรงกลดแล้ว ไม่อยากให้ซ้ำกับวารสารเดิม
“ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อมนับว่าไกล ความสำเร็จอยู่ที่ใจไม่ต้องเอื้อม” เยี่ยมครับ ขอบคุณมากครับ
หนูขอลอกไปทำเป็นการบ้านส่งครูหน่อยนะคะ
แวะมาส่งต่อกำลังใจ
และขอบคุณบันทึกที่ให้กำลังใจ
และคติสอนใจของคุณ ปัฐมานันท์ คะ
ไม่มีความสำเร็จใด ได้มาโดยง่าย
หากแต่ต้องใช้ความอดทน เปิดรับสิ่งใหม่ๆ
เพื่อก้าวไป และก้าวไกลอย่างมั่นคงคะ
หนูอยากเป็นแก้วใสใสค่ะพี่แอม
จากน้องแอม
อิอิ