บรูไน


ได้อะไรบ้างจากบรูไน

จริงๆ บอกตรงๆ นะคะ ...ตั้งแต่แรก ที่รู้จักบรูไน ในความร่ำรวย มหาเศรษฐี ...เราก็วาดภาพในใจไว้ระดับหนึ่ง...แต่พอลงเครื่องที่สนามบินของบรูไน ..ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ....เพราะทุกอย่างธรรมดามากๆ พอเข้าไปในเมือง....ระหว่างทาง...ขับรถไป ดูสภาพทั่วไป ....ของเมือง .....ไม่ได้ชี้บ่งถึงความร่ำรวยอย่างแท้จริงของสภาพประชาชนของบรูไนเลย...มันน่าแปลกไหมละคะ...ลองคิดดูซิคะ...ขณะเดียวกัน....ถ้าเห็นมัสยิด ...พระราชวัง...หรืออะไรก็แล้วแต่ มันจะหรูหราเป็นจุดๆ .....มันเหมือนเป็นสิ่งที่อัลเลาะห์เรียกมันว่า ...บาเซร์..เพราะเขาใช้เงินในสิ่งที่เราเรียกว่าเป็นการฟุ่มเฟือยมากๆ...การเลี้ยงประชาชนของเขาดีมากๆ ...แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นลักษณะของการป้อน....เหมือนกับเราเลี้ยงลูกกันส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ...เพราะ ทรัพย์สมบัตินั้น ถึงจะมากแค่ไหน ก็มีวันหมด ...แล้วถ้ามันหมดละ ...คิดหรือไม่ ว่าลูกหลานเขาจะอยู่อย่างไร...น่าสงสารนะคะ เหมือนกับเป็นการทำร้ายลูกหลานของเราเอง..โดยไม่ได้เจตนา....

ระหว่างทุกๆ ไม่เกิน 3 กม. จะมีมัสยิด 1 หลัง ...เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ตลอดเวลา ...ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ก็เหมือนกัน ...เขาจะไม่ปิดแอร์กันเลย ....น่าเสียดาย พลังงานคะ...

มันสะท้อนอะไรออกมาจากมุสลิมบ้างคะ...อันแรกที่ดิฉันมองคือ...ความไม่มีวิสัยทัศน์ของผู้นำ...การให้สิ่งที่ยั่งยืน กับสังคมหรือชุมชนที่ตัวเองดูแล...มันสำคัญมากนะคะ...มันไม่ใช่วัตถุที่มนุษย์เราแสวงหา...แต่เราถึงฝึกให้มองแต่วัตถุ...ต้องมีรถคันใหญ่ๆ...หรูๆ ...ยี่ห้อดังๆ ....ใช่เรามีได้ ...แต่ปัจจัยพื้นฐาน ...ต้องมีก่อน ...และใช้เงินในแนวทางของอัลเลาะห์ต้องสมบูรณ์ก่อน...แล้วสังคมเราจะดีเอง ....ที่สำคัญ เรามีคำตอบให้กับอัลเลาะห์ในวันอาคิเราะห์คะ.....

  อย่างมัสยิดที่เขาทำโดมด้วยทองคำแท้ๆ และหินอ่อนภายในมาจากอิตาลี...

คำสำคัญ (Tags): #บรูไนดารุสสลาม
หมายเลขบันทึก: 344799เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2010 16:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อ่านบันทึกนี้ของผุสดีแล้วนึกถึงคำๆหนึ่งที่ผมย้ำกับนักศึกษาบ่อยมาก

คือ.. จะถามเขาว่ามาเรียนทำไม 

  • เพื่อได้ปริญญาบัตร์
  • เพื่อได้ประกาศนียบัตร์ (ป.บัณฑิต)
  • จบแล้วเพื่อให้มีงานทำ มีกิน อยู่อย่างมีความสุข  กระนั้นหรือ

ถ้าเขาคิดเช่นนี้ ผมขอให้เขาคิดใหม่ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเรา คือ การอยู่อย่างถาวร ไม่ใช่ หกสิบปี เจ็ดสิบปี แล้วจากไปอย่างพวกเราทุกวันนี้

ขอบคุณอาจารย์มากคะ...สำหรับความเห็นดีๆ เราต้องฝึกให้พวกเขาคิดอย่างที่อาจารย์ว่าคะ....คนเราไม่ใช่มองแค่สั้นๆ แต่ต้องมองให้ไกล..ค่อยๆ ฝึกไปคะ....นั้นแหละ คือสิ่งที่เขาเรียกกันว่าวิสัยทัศน์

วัตถุติดตัวเราไปไม่ได้ ความดีเท่านั้นที่จะตามเราไปทุกหนแห่ง

สวัสดีคะ คุณ thawin จริงๆ ด้วยคะ...แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนส่วนใหญ่ ก็ใฝ่หาแต่วัตถุ...กัน...นี่แหละคือความจริงของโลกคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท