ถุงทอง..ถุงเงิน ..คุณค่าที่เข้ามาในชีวิต


ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป้นอะไรก็ตามที

ในช่วงต้นเดือนตุลาคม ของปีที่ผ่านมา อากาศเริ่มเย็นสบาย เพราะเป็นช่วงที่ย่างเข้าสู่ ฤดูหนาว แม้ว่าอากาศจะไม่หนาวมากนัก แต่ก็รู้สึกเย็นสบาย

บ่ายวันหนึ่ง ในขณะที่แม่ต้อยกำลังนั่งทานข้าวกลางวันแบบสบายๆในวันหยุด  พลันหูได้ยินเสียงคล้ายๆลูกแมวเสียง ร้องมาจากที่ใดที่หนึ่ง

แม่ต้อยถามคุณแม่บ้าน ว่าได้ยินเสียงบ้างไหม?

“ เป็นแมว ที่มีลูกอ่อนคะ  เมื่อเช้านี้ ตายไปแล้วหนึ่งตัว นุ เอาไปทิ้งแล้ว “..

เสียงร้องยังคงต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด  สมาชิกในบ้านทั้งหมดจึงรวมพลกันในการค้นหา ต้นตอของเสียงนั้น

ที่บ้านแม่ต้อย จะมีบ้านแยก หลังหนึ่งสำหรับแม่บ้านและ สำหรับคนที่มาพัก และชั้นสามเป็นที่เก็บของหลายๆอย่าง ที่ไม่ทราบว่าจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน ประเภท  เก้าอี้หวาย ภาพวาด  โคมไฟ เครื่องประดับบ้าน กรอบรูป กระเช้าของขวัญ ทีวี หม้อหุงข้าว ( คือ รกน่าดู นั่นแหละคะ  เป็นสิ่งที่ถูกต้อง)

กว่าที่จะฝ่าฟัน ดงของที่รกรุงรังเข้าไปได้ก็เหงื่อตก  จึงเห็นลูกแมว สองตัว อายุไม่น่าเกิน สามวัน เพราะว่าตายังไม่เปิด นอนร้องเสียงแหบแห้ง คลานไปมาแบบสิ้นหวัง

แม่ต้อยจับใส่ตะกร้า ที่วางแถวนั้น ( เห็นไหมว่า ของที่รก บางครั้งก็มีประโยชน์ นะจ้ะ อิอิ) นำลูกแมวทั้งสองตัวออกมาจากบริเวณ ชั้นสามนั้น

บางครั้ง เมื่อมีเหตุการณ์ ใหม่ๆเกิดขึ้น เราจะคิดไม่ออกว่าควรจะ ตัดสินใจทำอย่างไรต่อไป  เช่นแม่ต้อย เกิดความรู้สึกเมื่อ เห็นแมวกำพร้าสองตัวนี้

“  เลี้ยงไปก่อนนะ  ให้เขาแข็งแรงแล้ว เขาคงอยากกลับหาแม่.. หรือบางทีพรุ่งนี้ แม่แมวคงกลับมาหาลุกเขาเอง..”

แม่ต้อย รีบบอกคุณ พิษณุพร ( ชื่อของคุณแม่บ้านคะ อิอิ คล้องจอง กับ ชื่อแม่ต้อยมากๆ เชียว)

 ก็เกรงว่า ที่บ้านมีหมาแล้วสามตัว มีแมวมาให้เธอทำนุบำรุงอีกสองตัว จะไหวไหม?  ก็ต้องปลอบประโลมเป็นธรรมดา  ฮ่าๆๆ)

แม่ต้อยใช้หลอดเล็กๆ หยอดนมสดใส่ปาก เจ้าเหมียวทั้งสองตัว ทุกๆสองชั่วโมง  คืนนั้นทั้งคืน แม่ต้อยแทบไม่ได้หลับได้นอน

กระบวนการเลี้ยงแมวก็เริ่มต้นในวันถัดมาอย่างรวดเร็ว แทบไม่รู้เนื้อรู้ตัว  มีข้าวของเครื่องใช้ ต่างๆ เช่น เบาะนอน ทรายสำหรับเป็นที่อุจจาระ  ปัสสาวะ นม  ราวกับแม่ต้อยกลับมาเป็นแม่ลูกอ่อนอย่างไร อย่างนั้น

แมวน้อย สองตัว เติบโต ตามวันและคืนที่ผ่านไป  ไม่มีวี่แวว ว่าจะมีแม่แมวมาร้องหาลูกของมันเลย   ทั้งสองตัวเป็นแมวหางกุด สวยน่ารัก มีสามสีคือ ขาว เทา เหลืองทอง

เคยอ่านหนังสือที่ไหนไม่ทราบจำได้ว่า สีของแมวมีความหมาย  เช่น สีขาว คือความสุข  สีเทาคือโชคดี สีเหลืองทอง เป็นโชคลาภ ร่ำรวย  เขาจะให้ความหมายสำหรับแมวทุกๆสี ดีดี ทั้งนั้นคะ

แม่ต้อยจึง ตั้งชื่อแมวทั้งสองตัวนี้ ว่า ถุงทอง  และ  ถุงเงิน ( แอบหวังในใจว่า คงจะทำให้แม่ต้อยร่ำรวยขึ้น มีเงิน มีทองเป็นถุงๆ หลายๆถุง .. หวังมากไป มั้ยเนี่ย..  อิอิ )

คงเป็นสัญชาติญาณของสัตว์ ที่เลี้ยงลุกด้วยนม เมื่อแม่ต้อยให้กินนมแล้ว เจ้าถุงเงิน ที่แม่ต้อยทึกทักเองว่าเป็นน้อง( เพราะวันที่ไปพบครั้งแรก นอนนิ่งเกือบตาย ปล่อยให้เจ้าถุงทอง ร้องสียงดังเพียงตัวเดียว  )   เจ้าถุงเงินนี่ จะเอาหน้าเข้าไปซุกไซร้ และดูดนม พี่สาว คล้ายๆกับว่านี่เป็นอ้อมอกแม่   เจ้าถุงทอง ก็ โอบกอด และเลียตามตัวให้ นอนซบกันไปจนหลับทั้งสองตัว

 

 

ในระยะแรก แม่ต้อย เปิดปลาทูน่า กระป๋องให้ทาน เพราะว่ายังตัวเล็กๆ เมื่อโตขึ้นประมาณ ๑ เดือน แม่ต้อยบอกคุณพิษณุพร ว่าลองไปหาปลาทู( ธรรมดา ) จากตลาดมาให้ทาน ที่จริงแม่ต้อยว่าปลาทู ที่ตลาดนี่มันอร่อยมากๆ  แมวควรจะได้ลองลิ้มรสชาติบ้าง  ฮ่าๆๆ  และ ราคาถูกด้วย

จำได้ว่าในขณะที่แม่ต้อยกำลังทำงานอยู่  คุรแม่บ้านโทรศัพท์ ไปเสียงกระหืดกระหอบ

“ เอ้อ.. เจ้าถุงทอง ท้องเสียคะ  นุพาไปหาหมอแล้ว เขาบอกว่า อาหารเป็นพิษ  คงเป็นปลาทู ที่คุณผู้หญิงสั่งให้ทาน นั่นแหละค่า..”

เอาละสิ ..ความบกพร่องนี้เป็นของแม่ต้อยแต่เพียงผู้เดียว  และตั้งแต่นั้นมา ปลาทู จึงไม่ได้เป็นเมนูของเจ้าถุงทอง ถุงเงินอีกเลย..

 

ที่จริง การมีลูกแมวในบ้านก็เป็นการเรียนรู้ ที่ดีอีกด้านหนึ่งนะคะ แม่ต้อยได้รู้ว่า แม่บ้านของแม่ต้อยนั้น ที่จริงเขาเป็นคนรักสัตว์มากๆ ขนาดที่ไม่ยอมกลับบ้าน เพราะเกรงว่าจะไม่มีใครดูแลแทนในช่วงที่เขาไม่อยู่  นี่แม่ต้อยยังอดที่จะนึกไม่ได้ว่า  เขาดูแล เจ้าเหมียว ดีกว่าดูแลแม่ต้อยเสียอีกนา...

ความขี้อ้อน ความน่ารักของแมว ทำให้เรารู้สึก ผ่อนคลาย และอดที่จะเอ็นดูในพฤติกรรม น่ารักๆของมันไม่ได้ ( แม้ว่าบางครั้ง จะทำให้ข้าวของ แตกหัก เสียหาย ก็ตามที )

แม่ต้อยจะ ตั้งชื่อท่าทาง ของมัน ตามอิริยาบถ เช่น ท่า นางแมวยั่วสวาท  คือนอนกลิ้งเกลือกตัวไปมา พร้อมกับ ชะม้อยตามอง

ท่า นางกวัก คือท่าที่ เขานั่งสองขาหลัง  แล้วสามารถใช้สองขาหน้าจับของเล่นได้เป็นเวลานานๆ  

 ท่า ไม่รู้ไม่ชี้  คือท่าที่เขานั่งหลับตา ไม่สนใจว่าใครจะเรียกหา จะทำเฉยๆ 

ท่า  หวงก้าง คือท่าที่เวลาใครก็ตามจะนั่งทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ เขาจะมักมานั่งบนแป้น ไม่ยอมให้ทำงาน คงกะจะให้เล่นกับเขาเท่านั้นมั้ง

และท่าเรียนรู้  คือท่าที่เขาจะนั่งนิ่ง จ้องมองดูสรรพสิ่งรอบตัวด้วยความสนใจ ไม่กระดุกกระดิกไปไหน

แทบไม่น่าเชื่ออีกเช่นกัน ว่าลูกชายทั้งสองคนของแม่ต้อย ก็มีความสนใจในสมาชิกใหม่ของบ้าน ถึงขนาดไปค้นในอินเทอร์เนต ว่าแมวลักษณะแบบนี้เป็นแมวอะไร?

“ แม่.. ผมว่า มันคล้ายๆ Japanese bob tail นะครับ”

แมวพันธ์ ที่ว่านั้นเป็นสายพันธ์ ที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นมากๆ ราคาตัวละหลายหมื่นบาท เพราะเป็นแมวที่ คนมีความเชื่อว่าเป็นแมวนำโชค  และกลายเป็นสัญลักษณ์ รูปปั้นแมวกวักมือ  ที่เราเห็นจนชินตา ตามร้านขายของทั่วไปนั่นเอง

 อันนี้พันธ์ japanese bob tail คะ

  ส่วนอันนี้ ถุงทอง มีถุงเงิน นอนไกลๆ

 

 

ด้วยความที่แม่ต้อยมีทั้ง หมาและแมว ในบ้าน จึงต้องพยายามที่จะดุแล สัตว์เลี้ยงทั้งสองประเภท ให้ดี เท่าที่เราจะทำได้ แต่บางครั้งก็จะมีเสียง เหน็บแนม จากบรรดาลูกๆ ของแม่ต้อยเอง

“  อย่าสองมาตรฐาน คร้าบบบ.. ซื้อให้แมว อย่าลืมซื้อให้หมาด้วย..”  อ้าว  เป็นงั้นไป

ชักลุกลาม เข้ามาในครัวเรือน แล้วสินะ อิอิ..

แม่ต้อย คิดว่า ความรัก ความเมตตา ต่อทั้งคน ทั้งสัตว์ นี่บางทีเราก็จะได้สิ่งที่กลับมาได้ เช่นเดียวกัน

คงไม่ใช่เงินถุง  เงินถัง  ที่แม่ต้อยอุตส่าห์ ตั้งชื่อหรอก

แต่เป็นความสุขใจ เป็นความเกื้อกูลกัน ได้เรียนรู้ จิตใจของคนในครอบครัว  การฝึกการอยู่ร่วมกันของชีวิตทั้งหลาย

และสุดท้ายคือ แม่ต้อยอยากให้ระลึกเสมอว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรานั้น เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป้นอะไรก็ตามที

สวัสดีคะ

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #แมว
หมายเลขบันทึก: 344313เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2010 18:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สิ่งมีชีวิตทุกชีวิต ถ้าเขายังไม่ตาย

เราก็ต้องดูแลเขาใช่ไหมคะ

ที่บ้านก็มี 1 สาว เป็นแมวสามสีค่ะ ชื่อน้องดาว

 

แอ๊วก็มีแมวชื่อถุงเงิน ถุงทองเหมือนกันค่ะ..แต่มันตายแล้ว..ตอนนี้เหลือสามสาวหนึ่งหนุ่มค่ะ..เป็นแมวจรจัดเก็บมาเลี้ยงค่ะ..สงสารมันแต่มันก็รักเรามากมาย..รักไม่มีเงื่อนไขจริงๆ..

ตัวนี้ค่ะ..ลูกสาวที่คิดถึงที่สุดเพราะตอนนี้แอ๊วย้ายมาอยู่กาฬสินธุ์ไม่ได้เอาเค้ามาด้วย ทั้งคิดถึงและห่วงเค้ามากๆ..เฮ่อ.^^

ชื่อน้องมอมแมมค่ะ..^^

1.

P
สวัสดีคะ
ยินดีที่ได้รู้จักคะ
 น้องดาวน่ารักมากๆคะ มีสีสวยด้วยนะคะ
อาจารย์ ต้องโชคดีมากๆคะ

P

สวัสดีคะ  ครูแอ้วคะ

น่าสงสารนะคะ  เวลาที่เขาจากไป น้องมอมแมม  น่ารักคะ

ฝากถุงทอง ถุงเงิน ของที่บ้านมาให้แทนนะคะ

 

แจ้แมวเหมียวน่ารักจังค่ะ

ตอนนี้เมืองไทยไม่รู้จะเยียวยายังไงค่ะ ไม่สบายใจค่ะ

สบายดีไหมค่ะ

5.

P
สวัสดีคะ น้องวรรณ
พักนี้แม่ต้อยค่อนข้างยุ่งคะ   เพิ่งเสร็จจากการจัดประชุมคะ
ระลึกถึงน้องวรรณเสมอคะ
อย่าเครียดนะคะ ช่วยกันคิดถึง สิ่งที่ดีดี  มีเมตตาต่อกัน
แม่ต้อยถึงมาเขียนเรื่องแมวไงละคะ
คิดถึงคะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท