ชีวิตที่พอพียง : ๙๕๙. เที่ยวเชียงรายกับคณะ สคส. (๒)



           วันที่ ๑๑ ก.พ. ๕๓ ได้ยินเสียงไก่ขันเจื้อยแจ้วตั้งแต่ยังไม่ตีสาม   เป็นเสียงไก่ขันที่ไพเราะจับใจ เพราะไม่ได้ยินเสียงไก่ขันชัดเจนเช่นนี้มานานแล้ว   ที่บ้านปากเกร็ดของผมก็ได้ยิน แต่เสียงมาจากไกลๆ ไม่ชัดเจน   

          ผมออกวิ่งตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง    ทางวิ่งขึ้นเขา   ดังนั้นระยะทางจึงไม่มาก แต่ก็ได้ออกกำลังทดสอบหัวใจอย่างแรง   ที่ได้ประโยชน์มากคือได้สัมผัสอากาศเย็นสบาย และได้ยินเสียงนกร้องไพเราะมาก   นกปรอดหัวโขน (ทางเหนือเรียกนกพิดชะรี ตามเสียงร้อง  ทางใต้เรียกนกกรงหัวจุก ตามรูปร่างและการนิยมจับมาเลี้ยง) ที่พระตำหนักดอยตุงนี้ร้องเสียงไพเราะกว่านกที่อื่นๆ  

          หลังอาหารเช้าที่ครัวตำหนักที่เดิม ซึ่งก็อร่อยเช่นเคย   เราเช้าชมพระตำหนักดอยตุง   สวนแม่ฟ้าหลวง   หอแห่งแรงบันดาลใจ   วัดพระธาตุดอยตุง   ได้ไหว้พระ ถ่ายรูปดอกไม้สวยๆ วิวสวยๆ กันจุใจ   แล้วกลับไปกินอาหารเที่ยงที่ครัวตำหนักที่เดิม   รวม ๓ มื้อ อร่อยทุกมื้อ   มื้อนี้ผมได้กินหลนแหนมเป็นครั้งแรกในชีวิต

          บ่ายเราแวะเยี่ยมโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี เป็นการทำงานหนึ่งในสองอย่างของการเดินทางพักผ่อนหย่อนใจร่วมกันครั้งนี้   โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเป้าหมายของโครงการครูเพื่อศิษย์ ผ่านทาง ครูบอสส์ ที่ได้เข้าร่วม Workshop OM Planning ที่ สคส. ไปจัดกระบวนการให้กับภาคีเครือข่ายของ สสส.

          เราตกใจมากที่โรงเรียนนี้มีอาคารสถานที่ใหม่เอี่ยมสวยงามขนาดนี้   เห็นได้ชัดเจนว่าโรงเรียนนี้ได้รับประโยชน์จากการเป็นเครือข่ายโรงเรียนในอุปการะของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง

          เดิมโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน   ตั้งขึ้นให้การศึกษาแก่เด็กชาวเขา    และเวลานี้นักเรียน ๙๙% ก็เป็นเด็กชาวเขา   แต่แต่งตัวเรียบร้อยสวยงาม   เวลานี้มีทั้งช่วงชั้นอนุบาล ประถม และมัธยม รวมนักเรียน ๕๕๐ คน   ผมติดใจเรื่องเล่าของ อ. นวลจันทร์ ที่เอาใจใส่ดูแลเด็กวัยรุ่น   และติดใจคำบอกเล่าของ ผอ. สุพิช ไชยมงคล ผอ. อีกโรงเรียนหนึ่ง และเป็นประธานกลุ่มพัฒนาการศึกษาดอยตุงฯ ที่บอกว่าเด็กชั้น ม. ต้นดูแลยากกว่าเด็ก ม. ปลาย   เพราะเด็ก ม. ปลาย เริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว 

          ชั้นอนุบาล สอนแบบ มอนเตสเซอรี่  มี อ. ขวัญจิตเป็นผู้รู้ด้านนี้

          ผมหาทางทำให้การประชุมเป็นบรรยากาศกันเอง   ไม่ใช่บรรยากาศมาตรวจเยี่ยมของผู้ใหญ่   และหาทางชักชวนกันคุยเรื่องเด็ก   ทำให้รู้ว่าโรงเรียนนี้ในช่วงชั้นมัธยมเน้นการเรียนอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย    เด็กที่จบ ม. ๖ เพียงครึ่งเดียวที่เรียนต่อ   ส่วนใหญ่ต้องการเรียนสายอาชีพ

          ใช้เวลาคุยทำความรู้จักกันประมาณ ๑ ช.ม. เราก็ลา ผอ. ศุภโชค ปิยะสันติ์ และคณะครู ออกเดินทางต่อ   โดยมีแผนคร่าวๆ ว่าน่าจะขอให้ทางมูลนิธิดอยตุงจัดประชุม ลปรร. ครูเพื่อศิษย์ให้แก่เครือข่ายนี้   โดยทาง มสส. และ สคส. ร่วมมือมาเป็นวิทยากรฝึก “คุณอำนวย” ให้   “ครูเพื่อศิษย์” เด่นๆ ในเครือข่ายจะได้รับเชิญไปร่วมวงอื่นต่อไป

          ผมกลับมาค้น อินเทอร์เน็ตที่บ้าน พบเรื่องราวของกลุ่มโรงเรียนในเขตพัฒนาดอยตุง ที่นี่   ทำให้เห็นโอกาสเอาโครงการครูเพื่อศิษย์เข้าไปเชื่อมโยงกับโครงการที่มีอยู่แล้ว    

          เดินทางต่อไปเที่ยวท่าขี้เหล็ก   ผมไปหาแว่นตากันแดดแบบ clip on ติดเข้ากับแว่นสายตาอันที่ใช้ประจำ   หาไม่ได้   ลงท้ายได้ดีวีดีมา ๓ แผ่นราคารวม ๑๐๐ บาท   แผ่นหนึ่งเป็นดีวีดีเพลง ไมเคิล แจ๊คสัน This Is It ที่เมื่อเอามาเปิดชมด้วยคอมพิวเตอร์ ฟังด้วยหูฟัง สาวน้อยบอกว่าราคา ๕๐๐ ก็จะซื้อ  

          คนที่มีลูกดูจะสนุกกับการซื้อของเล่นเด็ก   และนักซื้อซีดีหนังหรือเพลงก็ดูจะสนุกสนานมาก

          ที่นี่มีคนสะพายถาดตะกร้าขายถ่านไฟฉาย ยาไวอะกร้า บุหรี่ ไฟฉาย หนังโป๊ ฯลฯ เดินเร่ขายชวนซื้อทั่วไป   ผมคุยกับคนขายบางคนเขาบอกว่าวันเสาร์อาทิตย์มีคนขายกลุ่มนี้มีถึง ๔๐๐ คน   ไก๊ด์บอกว่าของที่ขายเป็นของปลอมทั้งนั้น   เช่นยาไวอะกร้าก็เป็นแป้ง

          บ่าย ๔ โมงเศษๆ เราออกเดินทางต่อ ไป อ. เชียงแสน ไปเข้าพักโรงแรม Serene at Chiangrai (www.serenechiangrai.com) ที่ บริเวณสบรวก ตรงสามเหลี่ยมทองคำ   โรงแรมนี้อยู่ติดริมโขง วิวสวยมาก   ผมได้พักห้อง ๓๑๔ นอนชมวิวแม่น้ำ ตอนบ่ายมีเรือล่องโขงขวักไขว่   ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นเกาะใหญ่กลางแม่น้ำโขง มีกาสิโนจีนมาตั้งรองรับนักพนันไทยถึง ๒ โรง 

          หลังอาหารเย็น เราประชุม retreat กัน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งคุยกันเรื่องงานในอนาคต   ได้ประเด็นสำคัญๆ สำหรับเอาไปดำเนินการต่อ   ผมมีความสุขมากที่ได้เห็นความมั่นคง และลู่ทางก้าวหน้าทำประโยชน์แก่สังคมไม่หยุดยั้งของ สคส.    ได้เห็นความเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิด เห็น collective wisdom ของชาว สคส.   ที่เห็นโอกาสทำงานสร้างสรรค์สังคมเรียนรู้ สังคมอุดมปัญญา ในแนวทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

 

วิจารณ์ พานิช
๑๒ ก.พ. ๕๓
เชียงแสน
ปรับปรุง ๑๔ ก.พ. ๕๓

บรรยากาศของต้นน้ำ ล็อดจ์ ยามเช้าตรู่


 

พระตำหนักดอยตุง


 

ภาพงามเพราะแดดช่วย


 

สวนแม่ฟ้าหลวงงดงามยิ่งในฤดูหนาว


 

เบอร์รี่่ในสวนแม่ฟ้าหลวง


 

คติเตือนใจจากหอแห่งแรงบันดาลใจ


 

หมายเลขบันทึก: 342699เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2010 09:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท