วิจัยเพื่อพัฒนา กฎหมายในการคุ้มครองผู้บริโภค : ศึกษากรณีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า


เริ่มเสียที...งานพัฒนากฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ที่สำคัญต้องใช้ได้จริงๆ

    เตือนใจ เจริญพงษ์

         ขณะนี้สำนักงานกิจการยุติธรรม
        ได้จัดให้มี.....การพัฒนากฎหมายหลายเรื่องที่น่าสนใจ
        โดยเฉพาะเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
......................................................................................................................................
         .......นายวิทยา  สุริยะวงค์
                ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม
                พูดถึงเรื่องนี้ไว้น่าสนใจคะ
         "
                
                 คือ..สำนักงานกิจการยุติธรรมได้จัดทำโครงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนา กฎหมายในการให้ความคุ้มครองผู้บริโภค : ศึกษากรณีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า " งานวิจัยชิ้นนี้จะมีผล ให้มีการปรับปรุงกระบวนการคุ้มครองผู้บริโภค
ที่ต้องชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า "

........................................................................................................................................
                 เรื่องของงานวิจัยที่หน่วยงานราชการทำกัน
                 ก็ต้องตอบโจทย์และสามารถเอาประโยชน์มาใช้ได้จริงๆ
                 เพราะผู้คนในวงการมักพูดและมองงานวิจัยในบ้านเราว่า
                  วิจัยแล้ว...เก็บ
                          .....   คนกลุ่มเดียวกลุ่มเดิมเป็นผู้ทำงานวิจัย (อะไรจะเก่งปานนั้น)
                             .....   โดยเฉพาะอย่างเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย
                            ......งบประมาณบานเบอะ
                            .......แนวคิดเดิมๆ วิจัยแล้ว จัดสัมมนา แล้วประชาพิจารณ์
.........................................................................................................................................
               เมื่อพิจารณาชื่อเรื่อง...
               ก็ต้องบอกว่าใช่เลย สำคัญจริงๆคะ
               คงต้องให้กำลังใจกันและฝากว่าเมื่องานวิจัยชิ้นนี้เสร็จ
               คงตอบคำถามข้างต้นบ้างนะคะ
.........................................................................................................................................
              ได้นำเนื้อหาจากเอกสารการวิจัยบางส่วนมาฝากกันคะ
           ......ภายใต้ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมดังเช่นปัจจุบัน
                 ผู้ประกอบการมีเสรีภาพในการดำเนินธุรกิจ
                 โดยสามารถเลือกรูปแบบ และวิธีการ
                ในการประกอบธุรกิจซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่า
                 จะนำมาซึ่งผลกำไรสูงสุดในการประกอบการ
                 ผู้ประกอบการในปัจจุบันนอกจากจะแข่งขันกัน
                 โดยการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพสินค้า
                 และบริการให้เป็นที่พึงพอใจแก่ผู้บริโภคแล้ว
                 การลดต้นทุนในการผลิตสินค้าและบริการ
                 การเลือกและการพัฒนารูปแบบของธุรกรรม
                 ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ
..........................................................................................................................................
              ....ที่ผู้ประกอบการนำมาปรับใช้เพื่อรักษา
                 และแสวงหาส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้น
                 โดยที่รูปแบบทางธุรกรรมหลายประเภทนั้น
                 ยังไม่มีกฎหมายที่มีประสิทธิภาพเพียงพอมาควบคุม
                หรือกำกับดูแล ในขณะที่ผู้บริโภคเป็นผู้มีอำนาจต่อรองต่ำกว่า
                ผู้ประกอบการอาจใช้อำนาจทางการตลาดที่เหนือกว่าเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
               ในการทำสัญญาหรือธุรกรรมซึ่งอาจมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคเกิดขึ้น
..........................................................................................................................................                    เมื่อธุรกรรมเหล่านั้นยังไม่มีกฎหมายที่มีประสิทธิภาพมารองรับ
                ผู้ประกอบการก็สามารถแสวงหาประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมาย
                อันส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคในสังคม
.........................................................................................................................................
                สัญญาซื้อขายสินค้าหรือสัญญาให้บริการ
               โดยมีการชำระราคาล่วงหน้าเป็นรูปแบบหนึ่งของธุรกรรม
               ซึ่งอาจก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
               เนื่องจากสัญญาลักษณะดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหาหลายประการ
               ซึ่งปัญหาอันเกิดจากสัญญาเช่นว่านั้นเริ่มตั้งแต่ประเด็นการเกิดขึ้นของสัญญา
               ซึ่งปรากฏขึ้นในกรณีที่การเสนอขายของผู้ประกอบการมีลักษณะไม่ชัดเจน
               ว่าเป็นคำเสนอหรือคำเชิญชวนให้ทำคำเสนอ
..........................................................................................................................................              หากการเสนอขายนั้นเป็นเพียงคำเชิญชวนให้ทำคำเสนอ
              การตอบรับการเสนอขายของผู้บริโภค
              จะมีสถานะเป็นเพียงคำเสนอเท่านั้น
              ซึ่งหากผู้ประกอบการไม่ทำคำสนองกลับมา
              ย่อมไม่มีการเกิดขึ้นของสัญญา
.....................................................................................................................................                        กรณีเช่นนี้เท่ากับว่าคำเสนอขายของผู้ประกอบการ
                  ไม่มีความผูกพันที่ผู้ประกอบการจะต้องส่งมอบสินค้าตามคำเสนอขาย
                   ยิ่งไปกว่านั้นหากในกรณีเช่นว่านั้นเป็นกรณี
                  ซึ่งผู้บริโภคต้องทำคำเสนอโดยการชำระราคาล่วงหน้านั้น
                  ย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภค
                  เพราะหากผู้ประกอบการไม่ส่งสินค้า
                  หรือจัดให้มีบริการตามคำเชื้อเชิญให้ทำคำเสนอนั้น
                  ย่อมไม่ถือว่าผู้ประกอบการทำผิดสัญญา
                  เนื่องจากยังไม่มีสัญญาเกิดขึ้น
........................................................................................................................................
                  ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคไม่สามารถฟ้องร้องให้ผู้ประกอบการรับผิด
                  ในฐานผิดสัญญาเพื่อให้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น
                  และยังมีภาระในการต้องเรียกคืนค่าสินค้าและบริการที่ชำระไปล่วงหน้าอีกด้วย
                  หากพิจารณาถึงกรณีที่สัญญาได้เกิดขึ้นแล้วนั้น
                  ผู้บริโภคอาจจะต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่ง
                  กล่าวคือผู้บริโภคจะต้องชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า
                  ก่อนที่จะได้รับสินค้าและบริการ
..........................................................................................................................................                  ซึ่งในภาวะการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่ผู้ประกอบการจะไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ของตน
                  หรือชำระหนี้ของตนไม่ถูกต้องตรงตามสัญญา
                  เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับชำระค่าสินค้าและบริการไปแล้ว
                  ทำให้อำนาจในการต่อรองของผู้บริโภคลดลง
                  เพราะได้ชำระหนี้ต่างตอบแทนฝ่ายตนไปก่อนแล้ว
                   หากภายหลังผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามสัญญา
                           เช่น.....ไม่ส่งมอบสินค้าและบริการตามที่กำหนดไว้ในสัญญา
                          หรือ.....ส่งมอบสินค้าและบริการที่ไม่ตรงตามสัญญาผู้บริโภค
                  ก็ไม่สามารถใช้สิทธิยึดหน่วงราคาค่าสินค้าและบริการในการต่อรองกับผู้ประกอบการได้อีก
                 ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้ประกอบการประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ
                 หรือมีการล้มละลายเกิดขึ้น ผู้บริโภคที่ชำระราคาล่วงหน้าไปแล้ว
              จะประสบความยากลำบากในการได้รับเงินค่าสินค้าและบริการคืนมากยิ่งขึ้น 
             เนื่องจากจะต้องไปแข่งขันขอรับชำระหนี้กับเจ้าหนี้รายอื่นของผู้ประกอบการ 
                ซึ่งผู้บริโภคก็เป็นเพียงเจ้าหนี้สามัญเท่านั้น
                 กรณีเช่นนี้.....จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มีความสำคัญและกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภคอย่างยิ่ง
..........................................................................................................................................
                     นอกจากนี้หากพิจารณาประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่า
           ...........สัญญาซื้อขายสินค้าหรือสัญญาให้บริการโดยมีการชำระราคาล่วงหน้า
                    ในหลายกรณีนั้นถูกจัดทำในลักษณะของสัญญาสำเร็จรูป
                    ซึ่งผู้ประกอบการอันมีอำนาจต่อรองที่สูงกว่านั้น
                    มีแนวโน้มที่จะกำหนดข้อสัญญาที่มีความไม่เป็นธรรมแก่ผู้บริโภค
                    ผู้บริโภคที่เป็นคู่สัญญาในสัญญาซื้อขายสินค้า
                    หรือสัญญาให้บริการโดยมีการชำระราคาล่วงหน้านั้น
                    ย่อมมีความเสี่ยงในการถูกเอารัดเอาเปรียบเป็นอย่างยิ่ง
..........................................................................................................................................
               ในต่างประเทศมีการตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการชำระค่าสินค้า

               และบริการล่วงหน้า ...............
               โดยมีการบัญญัติกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากธุรกรรม
               ที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า และยิ่งไปกว่านั้น
               ในบางประเทศมีการบัญญัติกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากธุรกรรมบางประเภทเป็นการเฉพาะอีกด้วย โดยมีกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีสัญญาที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า
               ซึ่งมีลักษณะดังต่อไปนี้
.........................................................................................................................................
 
        ๑) การคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีสัญญาที่มีการปฏิบัติการชำระหนี้ในอนาคต
          กรณีสัญญาที่มีการปฏิบัติการชำระหนี้ในอนาคต

          (future performance agreement)
          ประเทศต่างๆ ได้มีการกำหนดกลไกการคุ้มครองผู้บริโภค
          จากสัญญาที่มีการปฏิบัติการชำระหนี้ในอนาคตในลักษณะที่ว่าเป็นสัญญา
          ที่ผู้ประกอบการมิได้ทำการชำระหนี้ทั้งหมด
          ในขณะที่ทำสัญญาโดยไม่คำนึงว่าจะต้องเป็นกรณีที่มีการชำระค่าสินค้า
          และบริการล่วงหน้าหรือไม่ แม้กลไกดังกล่าว
          ไม่ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากสัญญา
          ที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้าเป็นการเฉพาะ
          แต่โดยลักษณะของสัญญาที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า
           ย่อมเป็นสัญญาที่มีการปฏิบัติการชำระหนี้ในอนาคตอยู่ด้วยในตัว
          เนื่องจากกรณีที่ผู้บริโภคชำระเงินก่อน
          ผู้บริโภคจะยังไม่ได้รับการปฏิบัติการชำระหนี้ในทันที
          สัญญาที่มีการชำระราคาสินค้าและบริการล่วงหน้า
          จึงได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายเช่นว่านั้นไปในตัว
          กลไกของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีของสัญญาที่มีการปฏิบัติการชำระหนี้ในอนาคตย่อมเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถนำมาปรับใช้แก่การคุ้มครองผู้บริโภค
          กรณีสัญญาที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้าได้
          โดยที่รัฐที่มีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในลักษณะนี้
         เช่น ประเทศแคนาดาในกรณีของมลรัฐ Ontario มลรัฐ Britishcolumbia และประเทศฝรั่งเศส
.........................................................................................................................................
          ๒) การคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีสัญญาที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า
            ในหลายประเทศนั้นมีการสร้างกลไกสำหรับการคุ้มครองผู้บริโภค
           กรณีสัญญาที่มีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้า
           สำหรับธุรกรรมบางประเภทเป็นการเฉพาะ
                    เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาในมลรัฐ Ohio
          มีการคุ้มครองสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการบันเทิงและนันทนาการ
          ที่มีการชำระค่าบริการล่วงหน้าผ่าน Prepaid Entertainment Contracts Actประเทศแคนาดา ในมลรัฐ Ontario มีการคุ้มครองสัญญาเกี่ยวกับบริการที่เกี่ยวกับการพัฒนาบุคคล (Personal Development Services)  ซึ่งมีการชำระค่าบริการล่วงหน้าเป็นการเฉพาะ  ขณะที่มลรัฐ Manitoba มีการคุ้มครองสัญญาบัตรเงินสด (prepaid purchase cards) ไว้เป็นการเฉพาะ
           นอกจากนี้แล้ว ในบางประเทศมีการคุ้มครองผู้บริโภค
           ที่อาจได้รับความเสียหายจากการชำระราคาล่วงหน้า
          โดยการใช้ระบบหลักประกันทางการเงิน
           หรือกองทุนที่ผู้บริโภคสามารถใช้สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
          โดยบังคับเอาจากหลักประกันทางการเงิน หรือกองทุนนั้นโดยตรงอีกด้วย
.........................................................................................................................................
                      สำหรับประเทศไทยการซื้อขายสินค้าและบริการ
          ที่มีการชำระราคาล่วงหน้าเป็นสัญญาอย่าง
          หนึ่งที่จะต้องตกอยู่ภายใต้บังคับของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
          ไม่ว่าจะเป็นบทบัญญัติว่าด้วยนิติกรรมสัญญา
          บทบัญญัติว่าด้วยหน้าที่ของผู้ขายที่จะต้องส่งมอบสินค้าให้ถูกต้องตรงตามสัญญา แต่บทบัญญัติดังกล่าวไม่ได้บัญญัติไปถึงกรณีการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีการชำระราคาล่วงหน้า .................
          แม้ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคอยู่บ้าง
         ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒
          พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๑
          และมีพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑
          อีกทั้งมีกลไกในการช่วยเหลือผู้บริโภคโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค  แต่กฎหมาย หรือกลไกดังกล่าวก็ยังไม่มีบทบัญญัติ
          หรือมาตรการที่จะเข้ามาคุ้มครองผู้บริโภคในกรณีการชำระค่าสินค้าและบริการล่วงหน้าโดยตรง  นอกจากนี้แนวโน้มของการซื้อขายสินค้าและบริการที่มีการชำระราคาล่วงหน้า   มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มปริมาณสูงขึ้น จึงมีความเป็นไปได้
         ว่าปริมาณผู้บริโภคที่จะถูกละเมิดสิทธิก็จะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
.......................................................................................................................................
        ............... ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษา
         ถึงมาตรการทางกฎหมายที่จะเข้ามามีบทบาทในการคุ้มครองผู้บริโภคจากธุรกรรมดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการประกันสิทธิของผู้บริโภคให้มีความสมบูรณ์ต่อไป

.......................................................................................................................................


 



ความเห็น (1)

รบกวนคุณเตือนใจหน่อยนะครับ พอดีพี่มีรายงานที่เค้าประชุมกันฉบับเต็มหรือเปล่าครับ

ผมอยากได้มาทำงานนิพนธ์ครับ ถ้ามีขอความกรุณาส่งมาที่ [email protected] หน่อยนะครับ

ขอบความกรุณาด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท