พญากาเผือกผัวเมียคู่หนึ่งทำรังอยู่บนต้นไม้ใกล้แม่น้ำมีไข่อยู่ 5 ใบ วันหนึ่งกาทั้งสองก็ทิ้งรังไว้ ออกไปหากิน ขณะนั้นเกิดพายุฝนมา พัดรังร่วงลงไปลงแม่น้ำ กาทั้งสองกลับมาไม่เห็นรังก็พากันเสียใจ จึงกลั้นใจตาย ไปเกิดเป็นท้าวกาติกาพรหมบนสวรรค์ ส่วนไข่ทั้ง 5 ก็ถูกแม่น้ำพัดไป ขณะนั้นมีไก่ตัวหนึ่งมากินน้ำในแม่น้ำเห็นไข่หนึ่งใบก็คาบเอาไปฟักเอาไว้จนแตกเป็นตัว ต่อมาพญานาคก็มาเจอะไข่ 1 ใบก็ไปฟักเลี้ยงไว้ และเต่าก็ได้ไข่ 1 ใบก็เลี้ยงไว้เหมือนกัน วัวตัวหนึ่งมาเจอไข่ 1 ใบก็ไปเลี้ยงไว้ และราชสีห์ก็ได้เอาไปเลี้ยงไว้ 1 ใบ เวลาล่วงเลยไป ไข่ทั้ง 5 ใบนั้นกลายเป็นผู้ชาย 5 คน
วันหนึ่งได้มาพบกันโดยบังเอิญ ก็ซักถามพูดคุยกันว่าพ่อแม่เป็นใคร อยู่ที่ไหน ชายทั้ง 5 ก็รู้ว่าพวกตัวเองนี้ทำไมมีพ่อแม่เป็นสัตว์เดรัจฉาน กลับไปบ้านจึงถามความจริง ก็รู้ว่าไม่ใช่เป็นแม่ที่แท้จริงและไม่รู้ว่าใครเป็นแม่ที่แท้จริง เมื่อทั้ง 5 คนรู้ดังนั้นจึงมาปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรเราจึงจะได้พบพ่อแม่ที่แท้จริงของพวกเรา จึงได้ทำพิธีบวงสรวงบนบาลศาลกล่าว ถ้าใครเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงให้บอกเล่า จึงร้อนถึงบิดามารดาที่เกิดเป็นท้าวกาติกาพรหม จึงได้บอกชายทั้ง 5 ว่า ต่อไปถ้าจะบูชาคุณบิดามารดา ถึงกลางเดือน 12 แล้วก็ให้ลอยกระทงทำไม้จิงกา มีธูปเทียน มีดอกไม้ลอยใส่กระทงไปด้วย ต่อมาคนเราจึงได้ลอยกระทงกันจนถึงปัจจุบัน
ผู้เล่า : นายทรัพย์ เสือมา อ.ลาดยาว 12 มกราคม 2528
สวัสดีครับคุณหมอกบ
ชอบมากครับ ประวัติศาสตร์จากปากคำบอกเล่า มีความต่างและน่าสนใจจากหน้าหนังสือเป็นอบ่างมาก ยิ่งจากชาวบ้านผู้ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ด้วยแล้ว หากไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร นับวันก็ยิ่งจะสูญหาย
ขอบคุณที่นำสิ่งดี ๆ มาฝาก และเป็นกำลังใจให้เขียนมาก ๆ ครับ
ขอรับกำลังใจจากคุณ วาทิน ศานติ์ สันติ ค่ะ แต่ได้สัญญากับตัวเองไว้ว่า มีเวลาเมื่อไหร่จะมาบันทึกเก็บไว้ทันที เพราะตั้งใจไว้อย่างนั้นค่ะ