ยาหอม
สรรพสมุนไพรจากภูมิปัญญา…ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้
คงปฏิเสธได้ยากว่า
ภาพลักษณ์ของ ยาหอม ในความรู้สึกของคนยุคนี้ คือ " ความแก่ ชรา
โบร่ำโบราณ "
แต่ทราบไหมว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกแห่งความเก่าเก็บนี้
กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าแห่งภูมิปัญญา
ของคนรุ่นก่อนที่สั่งสมมาตั้งแต่สมัยอยุธยามาจนกระทั่งปัจจุบัน
ปัจจุบันเรามียาหอมมากกว่า 500
ตำรับ ซึ่งแต่ละตำรับประกอบไปด้วยสมุนไพรมากมายหลายสิบชนิด อาทิ
"ขิง ดีปลี สะค้าน ช้าพลู
เจตมูลเพลิงแดง แห้วหมู เทียน กระวาน กานพลู จันทร์ เปราะ เกสรบัวหลวง
ฯลฯ
โดยสันนิษฐานกันว่าที่มาของชื่อยาหอมนี้น่าจะมาจากกลิ่นของสมุนไพรในตำรับ
ยา เช่น จันทน์เทศ จันทน์แดง จันทร์ขาว ดอกพิกุล บุนนาค สารภี
ใบพิมเสน เกสรบัวน้ำ เปราะหอม " เป็นต้น
ในส่วนของสรรพคุณ
นอกจากยาหอมจะช่วยแก้อาการปวดดมึนศีรษะ เป็นลม วิงเวียน หน้ามืด
ใจสั่น อย่างที่ เรารู้ๆ กันแล้ว ยังช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย
เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ ปวดศีรษะข้างเดียว ความดันโลหิตต่ำ รวมทั้ง
บำรุงประสาทและบำรุงหัวใจอีกด้วย ที่สำคัญคือ
ปัจจุบันมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ถึง สรรพคุณต่างๆ
ของยาหอมมีส่งผลต่อระบบต่างๆ ในร่างกายของเราด้วย
สรรพคุณที่วิทยาศาสตร์…พิสูจน์ได้
โครงการวิจัยวิธีการเตรียมสารสกัดและการควบคุมคุณภาพทางกายภาพและเคมีของ
ตำรับยาหอม เป็นหนึ่งใน
โครงการบูรณาการนำร่องงานวิจัยด้านการพัฒนาสมุนไพร
ที่ได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเมื่อ ปี 2546 –2547
ที่ รศ.พร้อมจิต ศรลัมพ์ แห่งภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า “ข้อมูลศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์นี้
น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการดึงศักยภาพของตำรับยาแผนโบราณให้
กลับเข้ามาอยู่ในกระแสสังคมอีกครั้ง
และเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาและการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนได้
จึงได้คิด ทำวิจัยนี้ขึ้นมา โดยมี รศ.ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์
เป็นหัวหน้าโครงการ และได้เลือกทำการศึกษาเปรียบเทียบ ตำรับยาหอม 3
ตำรับคือ ยาหอมนวโกฐ ยาหอมอินทรจักร
ซึ่งเป็นยาในชื่อบัญชียาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ของกระทรวงสาธารณสุข 2
ตำรับ มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบกว่า 50 ชนิด และยาหอมของภาคเอกชน 1
ตำรับ ซึ่งยาหอมทั้ง 3
ตำรับนี้จะมีสมุนไพรที่ทับซ้อนกันอยู่ประมาณ 40 ชนิด
วิธีการวิจัยก็คือ เตรียมสารสกัดของ สมุนไพรแต่ละตัวออกมาก่อน
ซึ่งการสกัดที่ดีจะได้สารที่ออกฤทธิ์ที่เข้มข้น
สามารถกำจัดเชื้อโรคที่ปนเปื้อน และ สามารถนำไปทดสอบกับสัตว์ทดลองได้
จากนั้นจึงนำไปทดสอบสรรพคุณทางเภสัชวิทยา“
โดยผลจากการวิจัย ครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าสารสกัดยาหอมทั้ง 3
ตำรับนี้มีฤทธิ์ต่อระบบต่างๆ ในร่างกายเรา คือ
• ยาหอมมีฤทธิต่อหัวใจ
คือสามารถเพิ่มความแรงการบีบตัวของหัวใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสกัดยาหอม
อินทร- จักร
•
มีฤทธิ์เพิ่มความดันโลหิต
โดยเฉพาะในขนาด 4 กรัมผงยาหอม/กิโลกรัม มีฤทธิ์เพิ่มความดันเลือด
systolic, diastolic และความดันเลือดเฉลี่ย
โดยมีผลต่อความดันเลือด systolic มากกว่า ความดันเลือด diastolic และ
ความดันเลือดเฉลี่ย
• มีฤทธิ์ต่ออัตราการไหลเวียนในหลอดเลือดสมอง
พบว่า หลอดเลือดเล็กที่ไปเลี้ยงสมองขยายตัว และปริมาณ
เลือดที่ไปเลี้ยงสมองเพิ่มขึ้น
• มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง
หรือส่งผลต่อการนอนหลับ ได้ โดยสารสกัดยาหอมของเอกชนและ
อินทจักรมีฤทธิ์กดต่อระบบประสาทส่วนกลางเมื่อให้สัตว์ทดลองได้รับเฉพาะแต่
สารสกัด แต่ถ้าให้สารสกัดยาหอม ทั้ง 2 ชนิดนี้ร่วมกับ entobarbital
ซึ่งเป็นยานอนหลับ จะพบว่าสารสกัดทั้งสองชนิดทำให้ระยะเวลาการออกฤทธิ์
ของยานอนหลับยาวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในขณะสารสกัดยาหอมนวโกฐมีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง มากกว่า 2
ชนิดแรก
• ฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร
สารสกัดยาหอมนวโกฐจะมีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรดของกระเพาะอาหาร
ซึ่งพบว่า
"ยาหอมนวโกฐมีผลยับยั้งการหดตัวของลำไส้เล็กได้มากกว่าอีก 2 ตำรับ
"
• ฤทธิ์แก้อาการคลื่นไส้/อาเจียน
สารสกัดยาหอมอินทรจักรสามารถต้านการอาเจียนได้
จากผลการวิจัยนี้จะเห็นว่ายา "หอมแต่ละตำรับ แม้จะให้ผลโดยรวมคล้ายกัน
แต่มีน้ำหนักในสรรพคุณต่างๆ ที่ ต่างกัน ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้
เช่น ยาหอมนวโกฐทำให้หลับสบาย แก้ปวดท้องได้ดีกว่า ขณะที่ยาหอมอินทร-
จักรแก้คลื่นไส้ได้ดีกว่า "
นอกจากนี้
ในงานวิจัยนี้ยังได้ทดสอบความเป็นพิษของยาหอมทั้ง 3
ชนิดด้วยว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผลที่ได้ไม่พบ
ว่ามีผลต่ออัตราการเจริญเติบโต ค่าเคมีของเลือด
รวมทั้งการทำงานของระบบตับและไตของของหนูที่ทำการทดลอง…ซึ่งนั่นหมายถึงความ
ปลอดภัยในการใช้นั่นเอง
อย่าง ไรก็ตาม
แม้คุณค่าที่ซุกซ่อนอยู่ในตำรับยาหอมจะได้รับการพิสูจน์ด้วยวิธีทางวิทยา
ศาสตร์แล้วว่าส่งผลต่อการระบบต่างๆ ในร่างกายเราอย่างไร
แต่การที่ยาหอมจะกลับมามีที่อยู่ที่ยืนในสังคมไทยได้มากน้อยแค่ไหนนั้นก็
ขึ้นอยู่กับคุณ ๆ แล้วละค่ะ
ตอนนี้ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเเผนไทย โรงพยาบาลสอง อำเภอสอง
จังหวัดเเพร่ ไ้ด้ผลิต ยาหอมนวโกฐ
ซึ่งเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักเเห่งชาติ ขึ้นมาเพื่อรองรับการรักษา
ผู้ป่วย ในงานผู้ป่วยใน เเละผู้ป่วยนอก
เอกสารอ้างอิง:
โดย
กองบรรณาธิการจดหมายข่าวเพื่อนธรรมชาติ ฉบับพิเศษ 2 เมษายน-มิถุนายน
2552