วันที่ 2 - 3 มิ.ย.49 ผมไปร่วมสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ศูนย์วิจัยวัฒนธรรมร่วมภูมิภาคเพื่อการพัฒนาประเทศในเชิงมนุษยศาสตร์ : ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เพื่อจัดทำแผนที่วัฒนธรรม 4 ภูมิภาค" จัดโดยคณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาปรัชญาและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จัดที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์
ผมเบี้ยวการประชุมหลายประชุมเพื่อไปร่วมการสัมมนานี้ เพราะมองว่าน่าจะใช้ KM ในการทำเครือข่ายแผนที่วัฒนธรรมได้
หวังไปทำงาน salesman ขาย KM ให้แก่นักมนุษยศาสตร์ว่างั้นเถอะ
ผมมมองว่า KM จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การทำแผนที่วัฒนธรรมของไทยง่ายขึ้น เพราะในการใช้ KM เราใช้สมมติฐานว่าสิ่งที่เราต้องการให้เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว หรือกล่าวให้ชัดมี "ชิ้นส่วน" หรือมี "หน่ออ่อน" อยู่แล้ว KM จะเป็นเครื่องมือที่เข้าไปช่วย "รดน้ำพรวนดิน" เพื่อให้หน่ออ่อนได้เติบโตแข็งแรง หรือมองอีกแบบหนึ่งเข้าไปจัดสภาพแวดล้อมหรือบรรยากาศให้ "ชิ้นส่วน" เข้ามาประกอบภาพกันเข้า เป็นแผนที่วัฒนธรรมตามที่ผู้มาร่วมสัมมนาประมาณ 200 ร่วมกันฝัน
ผมเรียน ศ. ดร. ปราณี กุลละวณิชย์ ผู้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับ "ศูนย์วิจัยวัฒนธรรม" ว่าจริง ๆ แล้วที่ท่านเสนอเป็นรูปแบบของ "เครือข่าย" ไม่ใช่ "ศูนย์" คือจะต้องใช้รูปแบบการจัดการที่เรียกว่า distributive หรือกระจายอำนาจการดำเนินการ ไม่ใช่ centralized หรือรวมศูนย์
จากซ้ายไปขวา ศ. ดร. ปรัชา ช้างขวัญยืน ประธานสภาวิจัยแห่งชาติสาขาปรัชญา ฯพณฯ องคมนตรี ศ. ดร. เกษม วัฒนชัย ประธานเปิดงาน ศ. นพ. ประเวศ วะสี ผู้บรรยายพิเศษ
ผู้ร่วมอภิปรายเรื่องแนวทางการวิจัยด้านวัฒนธรรมเพื่อการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
วิจารณ์ พานิช
3 มิ.ย.49
สนใจและน่าศึกษามากคะ ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมสัมมนา อาจารย์พอจะกรุณารดนำหน่อเล็กๆให้เพิ่มเซลสมองได้มั้ยคะ โดยเฉพาะประเด็นแนวทางการวิจัยด้านวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาประเทศ เพราะทำงานใกล้รากหญ้าที่มีความต้องการให้รากหญ้าเข้มแข็งคะ