คิดไปไกล ความกลัว และอุปสรรคในการขอ


Appreciative Inquiry : อุปสรรคในการขอ ( Don't Judge too Quickly... We Won't )

สวัสดีครับ... พ่อแม่พี่น้องชาว G2K ทุกท่าน ^^

ใจหายใจคว่ำกันเลยทีเดียว เว็บล่มซะหลายชั่วโมง

นึกว่าวันนี้จะอดเขียนเรื่องราวดีๆ แบ่งปันชาว G2K ซะแล้ว

เพื่อเป็นการไม่เสียเวลามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ก่อนอื่นเลยผมอยากให้ทุกท่าน

ชม Clip ตัวนี้ก่อนครับ ความยาวประมาณ 4 นาทีกว่าๆ ว่าแล้วก็คลิกชมได้ด้านล่างครับ ^^



เป็นอย่างไรกันบ้างครับ
... ฮา ใช้ได้เลยนะผมว่า... หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าให้ดูทำไม... นั้นซิเนอะ ผมจะให้ดูทำไม ^^

ถ้าท่านผู้อ่านสังเกตดีๆนะครับ โฆษณาที่ผ่านสายตาท่านไปจะมีคำว่า "Don't Judge too Quickly... We Won't"

แปลเป็นไทยได้ว่า "อย่าตัดสินเร็วเกินไป... เราไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด" ประโยคนี้ละครับ คือสิ่งที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้

มีอยู่เคสหนึ่งครับที่ผมเคยได้ยินมา เป็นเคสของ Sale ขายประกันระดับเก๋าเกมส์ท่านหนึ่ง... เขาเล่าให้ฟังว่า

"ทำไมพักหลังมานี้... ถึงขายประกันไม่ค่อยได้เหมือนตอนเข้ามาใหม่ๆเลย ที่จริงประสบการณ์มากขึ้น น่าจะขาย

ได้ง่ายขึ้นซิ" คำถามนี้ ...กลายเป็นปัญหาโลกแตก... ของ Sale เก่งๆไปซะแล้วครับ เพราะอยู่ดีๆยอดขายตกซะงั้น



ถ้าลองมองย้อนกลับไปสมัยที่เขาเป็น Sale ใหม่ๆ ผมเชื่อว่า ความคิดของเขาจะแบบ "Blue Sky Thinking" เรียกง่ายๆว่า ท้องฟ้าสดใส

เขาคงไม่รู้หรอกครับว่าลูกค้าท่านไหน จะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าของเขา แต่พวกเขาจะไม่มีความคิดที่ว่า "เขาจะขายไม่ได้" อยู่ในหัวเลย

ต่างกันกับ Sale ที่มีประสบการณ์สูงๆครับ ขายมาเยอะ บางทีแค่มองหน้า ยังไม่ทันได้เข้าไปเสนอขายเลย ก็คิดเอาเองซะแล้ว

ว่าเราคงปิดการขายกับลูกค้ารายนี้ไม่ได้ บางทีคุยไปได้ 2-3 คำก็คิดแล้วว่าคงขายไม่ได้ เลยไม่ตั้งใจเสนอขายต่อซะอย่างงั้น

ซึ่งนี้ละครับคือ "การตัดสินเร็วเกินไป ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าลูกค้าเป็นอย่างไร" ส่งผลให้ Sale เก๋าๆ ปิดการขายลำบาก ยอดขายตก



ถ้าโยงมาเรื่อง "จิตวิทยาการขอ" การตัดสินเร็วเกินไปนี้ มันคือ "อุปสรรคในการขอ" ดีๆนี้เองครับ

หลายๆคนกลัวที่จะขอ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าในใจเราได้ติดสินไปแล้วว่า "คงไม่ได้หรอก"

ซึ่งนี้คือปัญหาระดับชาติที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของใครหลายๆคน โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งถ้าเรากำจัดหรือลดสิ่งนี้ลงได้

ผมเชื่อเหลือเกินครับว่า "เราจะกล้าขอในสิ่งที่ใจต้องการ"อย่างแน่นอน ผมอย่างให้ทุกท่านคิดอย่างงี้ครับ

"ถ้าไม่กล้าขอ เราจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่ต้องการ ขอได้ก็ดีไป ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ได้ลอง"... จริงไหมครับ ^^



เป็นอย่างไรกันบ้างครับ.. กับ "อุปสรรคในการขอ" ในเคสนี้ การตัดสินอะไรเร็วเกินไป มักจะสร้างความคิดในแง่ลบเสมอครับ

และเมื่อในใจคุณคิดแบบนั้นไปแล้ว คุณจะ "ไม่กล้าขอในสิ่งที่ต้องการ" แน่นอน เพราะฉะนั้นอย่างเพิ่งตัดสินอะไรไวจนเกินไป

ขอให้คิดแบบ Blue Sky ไว้ครับ... ลุยไปเลย คิดไว้เสมอว่า "ถ้าไม่ลองขอ ก็ไม่มีวันได้" ถ้าคิดได้แบบนี้ คุณก็จะสามารถ

เอาชนะอุปสรรคในการขอ อย่างในเคสนี้ได้แล้วละครับ... ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ แล้วคุณจะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ ^^



แล้วคุณละคิดยังไง ^^

 

ท่านที่สนใจบทความที่เกี่ยวกับการเอาชนะอุปสรรคในการขอ และหนัง

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>>AI-จิตวิทยาการขอจากหนัง และอุปสรรคในการขอ<<<

หมายเลขบันทึก: 341028เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2010 00:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

"ถ้าไม่ลองขอ ก็ไม่มีวันได้" ถูกต้องที่สุดคะ ถ้ามีแต่ความกลัวอยุ่ในใจ ก็ไม่มีทางทำอะไรสำเร็จได้

คล้ายกับเป็น จิตวิทยา อย่างหนึ่ง... เหมือนกับการบอกตัวเองทุกวันว่าชั้นเก่ง ชั้นทำได้ วันนึ่งคุณจะทำได้จริงๆ

แต่เมื่อไหรที่คุณบอกกับตัวเองว่า ชั้นไม่เก่ง..ทำไม่ได้ คุณไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนคะ

โดยส่วนตัวจะขอก่อนซะส่วนใหญ่ เว้นแต่กับอะไรบางอย่างหรือกับคนบางคนที่มั่นใจสุด ๆ ว่า ถึงขอให้ตายยังไงก็ไม่มีทางได้ก็จะไม่ขอ เพราะเสียเวลา เสียหน้า ฯลฯ ก็เลยคิดว่าเซลล์ขายประกันสุดเก๋าเค๊าอาจจะยอดตกเนื่องจากมีประสบการณ์มากเลยเริ่มมองออกว่าใครน่าจะซื้อ หรือไม่น่าจะซื้อประกัน เพราะกว่าจะถึงวันนี้คงผ่านการขายคนมาหลายประเภทจนอาจจะถึงขนาดที่รู้ได้ว่าไม่ควรเสียเวลากับคนบางจำพวกรึป่าว ??? ฝากไว้ให้ลองคิดอีกมุมอ่ะ :)

อีกนิดนึง ๆ ดูคลิปแล้วรู้สึกว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น อย่าตัดสินอะไรตั้งแต่แรก ประมาณนั้นอ่ะ

ขอบคุณที่แวะมาครับ

สิ่งที่อยากจะบอกก็นี้เลยครับ "อย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น อย่าตัดสินอะไรตั้งแต่แรก"

ซึ่งนี้คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นเองทั้งนั้น แล้วที่ร้ายไปกว่านั้นมันมักจะออกมาในแง่ลบเสมอ

จึงเป็นอุปสรรคสำคัญเลยครับ ที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะขอ/ทำอะไร

ใช่ค่ะ อย่าด่วนตัดสินใจอะไรเร็วเกินไป จริงๆลูกค้าคนนั้นอาจจะกำลังสนใจสินค้า บริการของคุณอยู่ก็ได้ค่ะ เขาอาจจะแค่ยังต้องการอะไรที่โดนใจอีกหน่อยเอง พยายามต่อไปๆ

น่าสนใจและสร้างสรรค์ดีมากเลยค่ะ ชอบค่ะ เห็นด้วยว่าเราไม่ควรด่วนสรุปอะไรจากสิ่งที่เห็น แต่ในความเป็นจริงมันก็อดไม่ได้นะคะที่จะเชื่ออย่างนั้น เหมือนอย่างที่เขาว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น แล้วถ้าตาเห็นเองยังเชื่อไม่ได้ ทีนี้จะทำยังไงต่อดีคะ ช่วยบอกที

ขอบคุณมากครับที่แวะมาคุณนก

ตาเห็นก็ยังเชื่อไม่ได้ เราเลยต้อง"ลอง" เข้าไปสอบถามดูก่อนครับ อันนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ^^

มีอีกวิธีครับคุณนก คือเราอาจจะต้องศึกษากลุ่มลูกค้าว่าประวัติเขาเป็นมายังไง

เหมือนกับทำการศึกษาเขาก่อนหนะครับ อาศัยหลักว่า "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง"

อันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ตัดสินอะไรเพียงเพราะสายตาอย่างเดียวครับ แต่นี้เรารู้จักกลุ่มเป้าหมายเราด้วย

ก็น่าจะช่วยได้นะครับ เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็น ความสำเร็จในการปิดการขายไปอีกขั้น ^^

ดูแล้วฮามากครับ ได้แง่คิดมากเลย ทำให้เราเป็นคนใจเย็นนิ่ง คล้ายกับดั่งขงเบ้งรับมือกองทัพเรือโจโฉที่กังตั๋ง ถ้าเป็นคนใจร้อนด่วนสรุปอะไรง่ายๆ ก็คงแพ้สงครามให้โจโฉไปแล้ว ทำให้เราต้องดูท่าทีและสถานการณ์ไปสักครู่เพื่อประกอบการตัดสินใจ

จากคนขายประกันกับลูกค้า ดูท่าทางลูกค้าคงต้องการให้คนขายเอาอกเอาใจซะหน่อยเผื่อจะได้ใจอ่อนซื้อ เป้นธรรมดามนุษย์เราทุกคนต้องการให้คนอื่นมาเอาอกเอาใจอยู่แล้ว

บางครั้งการกล้าขอ กล้าพูดของเราก็นำสิ่งและโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตได้เหมือนกันนะจ๊ะ บ่อยครั้งที่พี่มักจะขอ โดยเฉพาะต่อราคาจ๊ะ มักจะได้ตามที่ขอด้วยแต่เพื่อนที่ไม่กล้าขอก็จะได้ของที่เหมือนกันในราคาที่แพงกว่า ถ้าเราขอแล้วเค้าไม่ให้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ดังนั้น กล้าๆ ไว้ ดีกว่านะจ๊ะ :-)

ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากนะครับ

ใช้แล้วครับ ขอให้กล้าที่จะขอแค่นั้นเองครับ อย่างพึ่งตัดสินอะไรเร็วเกินไป เพียงแค่เห็นด้วยสายตา ^^

ตามมาอ่านจ้า

คลิปฮาดีอ่ะ อิอิ

เห็นด้วยจ้า อย่าเพิ่งด่วนสรุปในสิ่งที่เห็น การเรียนรู้ในสิ่งนั้นๆ ก็น่าจะช่วยให้เราสรุปได้ไม่พลาดมากนัก ^^

งานนี้ "ความกล้าขอ" เป็นพระเอกช่ายป่าวคะน้องเอิร์ท

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท