ทุกคนรู้ดีว่า การโมโหโกรธเป็นสิ่งไม่ดี แต่ก็ยังระงับไม่อยู่
เกิดการโมโหจนได้ เมื่อใครทำอะไรไม่ถูกใจหรือคิดเห็นไม่เหมือนเรา
พุทธศาสนา..ได้แนะทางปฏิบัติ ๗ ขั้นตอน ระงับความโกรธดังนี้
๑.ตั้งสติ เมื่อมีเหตุเข้ามากระทบ ควบคุมอารมณ์ อดทนเมื่อต้องเผชิญ
กับเหตุการณ์ที่ไม่พึงต้องการ
๒.เมื่อรู้สึกโกรธ ให้ปลุกสติรู้ตัวทันที ให้ปรับเปลี่ยนความสนใจ ถ้าเป็นไปได้จงย้ายตัวเอง เลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่สร้างความโกรธ เพื่อตัดภาวะปัจจัยที่จะเข้ามากระทบออกไปให้ไกลตัว
๓.ให้นึกเสมอว่า”ความโกรธเป็นศัตรูร้ายทำลายตัวเอง”คนที่โกรธง่าย อารมณ์เสียตลอดเวลา จะมีหน้าตาบึ้งตึงขุ่นมัว เสื่อมสุขภาพจิตไม่เป็นที่รักของใคร มีแต่คนอยากหลีกลี้หนีหาย ถ้าเราเป็นคนโกรธง่าย ก็มีแต่ทำลายบุคลิกภาพตัวเอง
๔.แผ่เมตตาให้แก่คนที่โกรธเรา นึกถึงใจเขาใจเรา ให้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์มีทั้งดีและเสีย ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ให้คิดเสียว่าที่เขาโกรธ เพราะเขามีทุกข์ที่ต้องการระบายออกเขาหาคนช่วยเยียวยาอาการ
๕.เตือนตนเองเสมอ “อย่าโกรธตอบ” ถ้าโกรธตอบเท่ากับเราเดินเข้าไปติดกับดักทางอารมณ์ ช่วยขยายเหตุการณ์ให้รุนแรงและยืดยาวขึ้น ยิ่งโกรธตอบยิ่งเสียหาย เปรียบดังแสงที่ตกกระทบบนกระจกเงานับร้อยบาน ที่สะท้อนไปสะท้อนมาจนไม่มีสิ้นสุด
๖.หลีกเลี่ยงการพบปะกับคนที่ขี้โมโห โกรธง่าย การอยู่ใกล้เหมือนเรามีเชื้อไฟที่คุกรุ่นข้างกายตลอดเวลา จะทำให้เราเคยชินกลายเป็นคนโกรธง่ายไปด้วย
๗.อย่าแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีแต่เพื่อนร่วมโลก ร่วมทุกข์ร่วมสุข มนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์สังคม รวมกันเพื่ออยู่ เพื่อสร้างสรรค์ มิใช่เพื่อทำลาย นี่คือเป้าประสงค์ของการมีชีวิตอย่างมีคุณค่า
“เหตุแท้อยู่ตรงไหนถ้าดับไม่ได้ความป่วนและทุกข์ก็ยังอยู่”
ขอทุกคนทุกท่านจงมีความสุข ความร่มเย็นในชีวิต..ธรรมรักษา
ไม่มีความเห็น