ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน
นาย ทรงวุฒิ พัฒแก้ว ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน พัฒแก้ว

จดหมายเปิดผนึก ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด


เนื่องด้วยวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้เข้าไปตรวจและพบว่า โรงงานดังกล่าวจัดเป็นโรงงานจำพวกที่ ๓ ได้ตั้งโรงงานโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๒ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ อันเป็นความผิดตามมาตรา ๕๐ และได้มีหนังสือแจ้งให้ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.พี.โอ อะโกรอินดัสตรี้ส์ จำกัด ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยหยุดการก่อสร้างตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยมีหนังสือแจ้งไปตั้งแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ตามหนังสือราชการจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชเลขที่ นศ ๐๐๒๘(๓)/๒๖๙

จดหมายเปิดผนึก ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด

กรณี โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม – โครงการผลิตไฟฟ้าจากของเสีย

– โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม(ไฟฟ้าชีวมวล)

หมู่ที่ ๔ ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

วันที่ ๑๗ ก.พ. ๕๒ ณ ที่ว่าการอำเภอสิชล และ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

 

            ในพื้นที่ อ.สิชล โดยเฉพาะ ต.ทุ่งปรัง ถูกกำหนดจากรัฐบาลให้เป็นเขตจัดตั้งนิคมอุสาหกรรม ซึ่งในปัจจุบันมีการต่อสู้และขัดแย้งอย่างหนักมาตลอดเวลา ๑ ปี ในการพยายามเข้ามาในรูปแบบของโครงการต่างๆ แต่ขณะนี้ทางรัฐบาลเองยังไม่มีความชัดเจนในการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้การนิคมอุตสาหกรรมจะพยายามผลักดันมาตลอดเนื่องจากต้องหาพื้นที่รองรับการขยายตัวจากมาบตาพุด

            จากพื้นที่ ต.ทุ่งปรังนี้เอง ส่งผลให้มีบริษัทพยายามเข้ามาจัดตั้งอุตสาหกรรมขึ้นก่อน โดยจัดทำเป็นโครงการเล็กๆ เพื่อหลีกเลี่ยงทางกฎหมายในการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ดังนั้น โครงการในลักษณะนี้จะมาในลักษณะโครงการเล็กๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะว่ารัฐบาลเองมีความพยายามผลักดันมาตั้งแต่ต้น

            ในพื้นที่ ต.ทุ่งปรัง ตามคำชี้แจงของผังเมืองจังหวัด กำหนดให้เป็น พื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม ไม่มีผังเมืองรองรับอุตสาหกรรมข้างต้นแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการยืนยันชัดเจน จาก สส.ในพื้นที่ ผังเมืองจังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน

การเข้ามาของบริษัท จึงเป็นการเข้ามาแบบไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ต้น โดยประชาชนในพื้นที่รับรู้เฉพาะกลุ่มเพียงคนไม่กี่คน และมีการเปิดเวทีเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีการจัดซื้อที่ดินเรียบร้อยแล้ว และมีการปรับสภาพพื้นที่ล่วงหน้าไปก่อน ทั้งนี้ยังไม่มีการอนุญาตแต่อย่างใด

สำหรับโครงการจะเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ประมาณ ๒๐๗ ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ ๔ ต.ทุ่งปรัง ประชาชนไม่กี่คนรับทราบเพียงว่า เป็นโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน แต่จากเอกสาร ยังมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (โรงไฟฟ้าชีวมวล)  โรงไฟฟ้าพลังงานงานความร้อนร่วม โครงการนี้จึงน่าจะมีการหมกเหม็ด ลักไก่และไม่ชอบมาพากล อีกทั้งยังขาดความโปร่งใสในกระบวนการมีส่วนร่วม

อีกทั้งอยู่ๆอุตสาหกรรมจังหวัด มีหนังสือให้ปิดประกาศการคัดค้านภายใน ๑๕ วัน ซึ่งเมื่อประชาชนรับทราบ ต่างตกใจและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ลักษณะแก้มลิง รองรับน้ำเมื่อเกิดฝนตกหนัก ดังนั้นด้วยสภาพของพื้นที่แล้วไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการก่อสร้างโรงงานดังกล่าว

            เนื่องด้วยวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้เข้าไปตรวจและพบว่า โรงงานดังกล่าวจัดเป็นโรงงานจำพวกที่ ๓ ได้ตั้งโรงงานโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๒ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ อันเป็นความผิดตามมาตรา ๕๐ และได้มีหนังสือแจ้งให้ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.พี.โอ อะโกรอินดัสตรี้ส์ จำกัด ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยหยุดการก่อสร้างตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยมีหนังสือแจ้งไปตั้งแต่วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ตามหนังสือราชการจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชเลขที่ นศ ๐๐๒๘(๓)/๒๖๙

            เนื่องด้วย กิจการโรงงานดังกล่าว พบการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย อีกทั้งการดำเนินการก่อสร้างโรงงานดังกล่าว ได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก  และกระบวนการรับฟังความเห็นเป็นไปอย่างเร่งรีบและรวบรัด เป็นต้นว่า อุตสาหกรรมจังหวัดได้ขอความอนุเคราะห์หน่วยงานในพื้นที่เพื่อปิดประกาศรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แต่หน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการล่าช้า โดยให้ปิดประกาศตั้งแต่วันที่ ๒๐ ก.พ. ๕๓ – ๔ มี.ค. ๕๓ แต่นายอำเภอมีการเกษียณวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เพื่อให้ปิดประกาศดังกล่าว

          ลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ

วันที่ ๙    ธันวาคม ๕๓           

         ทีมบริษัทเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น

วันที่ ๒๐ มกราคม ๕๓                    

        อุตสาหกรรมจังหวัดแจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่ปิดประกาศรับฟังความเห็น

ประชาชน และให้ยื่นคัดค้านภายใน ๑๕ วัน

วันที่ ๒๖ มกราคม ๕๓                       

        อบต.ทุ่งปรัง มีหนังสือไปยังนายอำเภอสิชลให้ปิดประกาศ

วันที่   ๑  กุมภาพันธ์ ๕๓        

        ประชาชน ๒๐๐ คน ไปยื่นหนังสือคัดค้านยังอุตสาหกรรมจังหวัด และ อบต.ทุ่งปรัง  แต่ทาง อบต.มีหนังสือแจ้งว่าอุตสาหกรรมจังหวัดรับผิดชอบ

วันที่  ๒ กุมภาพันธ์ ๕๓         

      อุตสาหกรรมจังหวัดตรวจสอบพื้นที่ และชี้มูลความผิดโรงงานก่อสร้าง

ก่อนได้รับอนุญาต

วันที่   ๓ กุมภาพันธ์ ๕๓        

       นายอำเภอสิชล  เพิ่งมีคำสั่งแจ้งให้ประชาชนทราบ เหลือเวลา ๑ วัน

วันที่  ๑๑ กุมภาพันธ์ ๕๓        

        ตัวแทนชาวบ้านยื่นหนังสือยังผังเมืองจังหวัด และอุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อเร่งรัดเพราะโรงงานยังไม่หยุดก่อสร้าง

วันที่  ๑๒ กุมภาพันธ์ ๕๓       

        อุตสาหกรรมแจ้งข้อกล่าวหาแก่ทางบริษัท และให้หยุดการก่อสร้าง

จนวันนี้ โรงงานเถื่อน ยังลักไก่ก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และไม่เกรงกลัวกฎหมาย และไม่ฟังเสียงของประชาชน  หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งหมดดำเนินการล่าช้าอย่างไม่ควรจะเป็น

            ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมด ไม่ชอบธรรมและเป็นธรรมในการดำเนินงานมาตั้งแต่ต้น หน่วยงานในพื้นที่ขาดความกระตือรือร้นในการดำเนินการเรื่อง ดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ทางคณะเครือข่ายคัดค้านกิจการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ จึงต้องมีหนังสือขอความเป็นธรรมมายังท่าน และมีข้อเสนอ ดังนี้

            ๑. ขอให้ใช้อำนาจของท่านในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อันควรกระทำได้ ตามหลักการปกครอง ระงับการก่อสร้าง กิจการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ผลิตพลังงานจากก๊าซชีวภาพและจากไอน้ำส่วนที่เหลือจากกระบวนสกัดน้ำมัน  ทันที

            ๒. ผลักดันห้ามอนุญาต ตั้งโรงงาน ดังกล่าวฯ เนื่องจากได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนจำนวนมาก

            ๓. ผลักดันและเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ดำเนินการตามกฎหมายและเสียงเรียกร้องของประชาชน

 

 

คณะเครือข่ายคัดค้าน

กิจการโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ

 

 

 

 

ผู้ประสานงานเครือข่าย

นาง จารึก      โพธิ์ถาวร  โทร 083- 3965691

นาย ทรงวุฒิ   พัฒแก้ว    โทร 083-1032727

 

 

หมายเลขบันทึก: 338361เขียนเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2010 10:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีครับคุณ ทรงวุฒิ และทุกคน มาช้าดีกว่าไม่มานะจริงมัย สำหรับความคิดเห็นเรื่องข้างบนที่ได้อ่าน ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องของผลประโยชน์ของตน และส่วนรวม กระทู้นี้มีมาร่วมหกเดือนเข้าไปแล้ว โดยส่วนตัวเห็นว่าโรงงานก็หยุดดำเนินงานนะไม่รู้ชั่วคราวหรือตลอดไป ให้เป็นไปตามตัวบทกฎหมายแล้วกัน อย่าเห็นเป็นเหมือนกฎหมู่พวกมากลากไปอย่างที่ผ่านมานะ ขอวิงวอน อย่างไรเสียก็คนไทยด้วยกัน ผลประโยชน์ได้ เสีย มันก็เห็นๆกันอยู่ในบ้านเราเมืองเรานี่แหละ ตระหนักให้มากนะพี่น้อง สงสารแต่หญิงเหล็กแห่งบ้านดอนนนท์นี่แหละ(พี่หนุ่ยนะ จารึก โพธ์ถาวร ผู้ใหญ่บ้านหมู่4 ปัจจุบัน) เห็นได้ข่าวว่าขัดแย้งทางความคิดเรื่องนี้กับใครหลายๆคนอยู่ ก็เอาใจช่วยขอให้ความดีความจริงปรากฎ ผลประโยชน์ตกแก่คนดีทุกคนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท