พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับกฤษฎีกาเล่ม 121 ตอนพิเศษ 79 ก
วันที่ 23
ธันวาคม 2547โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 24 ธันวาคม
2547
มาตรา 1 การเรียกชื่อ พรบ.นี้ มาตรา 2 ให้ใช้บังคับวันถัดจากประกาศ มาตรา 3 การยกเลิก พรบ. 2523
พ.ศ.
2547
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
"ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา" หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ให้รับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในกระทรวงศึกษาธิการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงอื่น
"ข้าราชการครู" หมายความว่า ผู้ที่ประกอบวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษาของรัฐ
"คณาจารย์" หมายความว่า บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐ
"บุคลากรทางการศึกษา" หมายความว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา รวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดระบวนการเรียนการสอน การนิเทศการบริหารการศึกษา และปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานการศึกษา
"วิชาชีพ" หมายความว่า วิชาชีพครู วิชาชีพบริหารการศึกษา และวิชาชีพบุคลากรทางการศึกษาอื่น
"เขตพื้นที่การศึกษา" หมายความว่า เขตพื้นที่การศึกษาตามประกาศกระทรวง
"หน่วยงานการศึกษา" หมายความว่า……….ออกสอบ
(๑) สถานศึกษา
(๒) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(๓) สำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน
(๓) สำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน
(๔) แหล่งการเรียนรู้ตามประกาศของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
(๕) หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ หรือตามประกาศกระทรวง หรือหน่วยงานที่ ก.ค.ศ. กำหนด
"สถานศึกษา" หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การศึกษาพิเศษ ศูนย์การศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย ศูนย์การเรียน วิทยาลัย วิทยาลัยชุมชน สถาบันหรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและตามประกาศกระทรวง............ออกสอบ อบต.2547
"หัวหน้าส่วนราชการ" หมายความว่า ปลัดกระทรวง เลขาธิการ อธิบดี หรือตำแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่า
มาตรา ๕ บรรดาคำว่า "ข้าราชการพลเรือน" ที่มีอยู่ในกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ และข้อบังคับอื่นใดให้หมายความรวมถึงข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมาย ประกาศ ระเบียบหรือข้อบังคับอื่นใดที่บัญญัติไว้สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะ
หมวด ๑
คณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา ๗
"คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา"
เรียกโดยย่อว่า "ก.ค.ศ."
มีจำนวน 21 คน
เป็นคณะกรรมการระดับนโยบาย
ประกอบด้วย
(๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ
(๒) ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธานกรรมการ
(๓) กรรมการโดยตำแหน่งจำนวนห้าคน ได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคุรุสภา และเลขาธิการ ก.พ. (หมายเหตุ................ไม่มีเลขาธิการสภาการศึกษา)
(๔) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนเจ็ดคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงทางด้านการศึกษา ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านกฎหมาย ด้านการบริหารการจัดการภาครัฐด้านการบริหารองค์กร ด้านการศึกษาพิเศษ และด้านการบริหารธุรกิจ หรือด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านละหนึ่งคน
(๕)
กรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งมาจากการเลือกตั้ง
จำนวนเจ็ดคน
ประกอบด้วย ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวนหนึ่งคน
ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา
หรือผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานการศึกษา
ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด จำนวนหนึ่งคน ผู้แทนข้าราชการครู
จำนวนสี่คน และผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น จำนวนหนึ่งคน
เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการ
และให้เลขาธิการ ก.ค.ศ. แต่งตั้งข้าราชการในสำนักงาน ก.ค.ศ.
เป็นผู้ช่วยเลขานุการไม่เกินสองคน (เลขา ก.ค.ศ.
เป็นเพียงเลขานุการที่ประชุมเท่านั้น ไม่มีสิทธิออกเสียง
มาตรา ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์ และไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
(๓) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(๔) ไม่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
(๕) ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ปรึกษา หรือผู้มีตำแหน่งบริหารในพรรคการเมือง
(๖) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย
มาตรา ๙ กรรมการผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(๑) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและไม่เคยถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาก่อน
(๒) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย
|
มาตรา ๑๐ กรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานทางการศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ |
|
|
(๑) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและไม่เคยถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาก่อน |
|
|
(๒) มีประสบการณ์ด้านการบริหารในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นในหน่วยงานการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปี |
|
|
(๓) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย |
|
|
มาตรา ๑๑ กรรมการผู้แทนข้าราชการครูต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ |
|
|
(๑) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และไม่เคยถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมาก่อน |
|
|
(๒)
มีประสบการณ์ด้านปฏิบัติการสอนในวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าครูชำนาญการหรือเทียบเท่า
หรือมี |
|
|
(๓) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย |
|
|
มาตรา ๑๒ กรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่นต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ |
|
|
(๑) มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี |
|
|
(๒) มีประสบการณ์ด้านสนับสนุนการศึกษา ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ การบริหารการศึกษา และปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าปี |
|
|
(๓) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย |
|
|
มาตรา ๑๓ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
และกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา |
|
|
ถ้ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหรือกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาว่างลง |
|
|
เมื่อครบกำหนดตามวาระ หากยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และเลือกกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ |
|
|
มาตรา ๑๔ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ |
|
|
(๑) ตาย |
|
|
(๒) ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานกรรมการ |
|
|
(๓) เป็นบุคคลล้มละลาย |
|
|
(๔) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ |
|
|
(๕) ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๘ |
|
|
(๖) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำ |
|
|
(๗) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออก |
|
|
มาตรา ๑๕
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ
กรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากร |
|
|
(๑) ตาย |
|
|
(๒) ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานกรรมการ |
|
|
(๓) พ้นจากการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา |
|
|
(๔) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๙ มาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ หรือมาตรา ๑๒ |
|
|
(๕) ถูกถอดถอนโดยรัฐมนตรีตามมติของ ก.ค.ศ.
ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวน |
|
ไม่มีความเห็น