บทเพลงแห่งความรัก สะท้อนผ่านระบบประสาทไปช้าๆ
หยิบฉวยไม่ได้แต่ทิ่มแทงใจ
บทเพลงแห่งรัก ทำให้เราต่างปกปิดความจริงที่อยากบอก
เพียงเพราะกลัวการปฏิเสธ กลัวเธอคิดว่าฉันปฏิเสธ และก็กลัวเธอปฏิเสธ
ในบทเพลงเดียวกัน ฉันยกมือลูบหัวตัวเองเบาๆ ซักซ้อมการปลอบประโลม และคิดหาคำดีๆ กลั่นกรอง เพื่อจะบอกความจริงแก่เธอ
ฉันจะบอกเธออย่างไร ยากยิ่งกว่าฉันจะบอกอะไรเธอ
ศิลปะการพูดเป็นการเรียนรู้ทางสังคมที่ปิดกั้นอิสระของจิตวิญญาณ ทำให้ขลาดกลัวต่อการถูกทอดทิ้ง และวิ่งหนีหลักความจริงของความไม่มี
ศิลปะการพูดทำให้บางครั้งเราก็ต่างเข้าใจกันผิดเพราะคำที่เลือกมาอย่างอ่อนหวานนั้นเอง
...
แล้วฉันควรจะบอกเธออย่างไรดี...รีรอ และลังเล...อย่างขลาดเขินและหวาดหวั่น จนลืมสิ่งที่ควรเป็น..
แทนคำ
ถ้าดวงตาพูดได้
เธอจะได้ยินในสิ่งที่ไม่อาจเอ่ยคำ
ถ้าถ้อยคำ...สามารถพูดแทนดวงใจ
ฉันคงไม่ต้องใช้ดวงตา
แก้ว ลายทอง
แปลกจัง...ที่อ่านบทความแล้วทำให้คิดไปมากมาย...
ถ้าดวงใจฉันพูดได้...ฉันคงบอกว่าให้ลืมมันเถอะ
ถ้าบทเพลงแห่งรัก...ทำให้เธอทุกใจถึงเพียงนี้