เวลาสอนภาษาอังกฤษ ต้องมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างครูและนักเรียน
เมื่อครูถาม นักเรียนสามารถตอบสื่อสารกันได้
ทำนองเดียวกัน นักเรียนก็ต้องมีความสามารถถามครูได้เช่นกัน ทุกครั้งที่จัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน นักเรียนมักจะเกิดความสนุกสนาน เสียงดังก็จะเกิดขึ้น อรรถรสของการเรียนจะหดหายไป หากครูผู้สอนดุ และสั่งให้นักเรียนเงียบเสียง
ดังนั้น ครูผู้สอนภาษาอังกฤษทุกท่านโดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษา จะมองข้ามเรื่องนี้ไปเลย จะปล่อยให้เสียงดัง ดังมากยิ่งดี
แสดงว่าครูผู้สอนประสบความสำเร็จ ดังอย่างไร ดังในระดับใด ครูผู้สอนเป็นผู้กำหนดได้ เสียงดังนั้นต้องรบกวนสมาธิของนักเรียนห้องข้างเคียงแน่นอน บางครั้งก็จะเดินมาดู บางที่ก็ถูกครูด้วยกันเดินมามอง แต่สำหรับผู้เขียนหลายครั้งถูกผู้ใหญ่ตำหนิ
แต่ความจริง ผู้เขียนไม่โกรธเลย เพราะความไม่เข้าใจในวิธีการสอนภาษาอังกฤษเองนั่นหล่ะ
วันนี้ดีใจ 3 ครั้งแล้ว ที่บันทึกของตัวเองได้ขึ้นมาเป็นบันทึกสุ่มแสดงครั้งที่ 29
บันทึกนี้เป็นบันทึกเกี่ยวกับเทคนิคการสอน ซึ่งแต่ละบุคคลจะมีเทคนิคเดียวกันแต่รูปแบบของการสอนที่แตกต่างกัน
ความเข้าใจในการสอนภาษาอังกฤษ ย่อมเกิดขึ้นได้กับคนที่ไม่ได้เรียนมาทางการสอนภาษาอังกฤษ
ครูอ้อยมีประสบการณ์ในการอบรมครูแห่งหนึ่ง ครูผู้เข้ารับการอบรมล้วนแล้วแต่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษทั้งสิ้น
แต่มีครูท่านหนึ่งเป็นผู้ชาย ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เมื่อมีคนให้ออกไปพูดสุนทรพจน์ ขอบคุณวิทยากรฝรั่ง
ครูอ้อยปลอบใจและบอกว่า การพูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด เป็นตัวของตัวเองรองลงมา นึกถึงฝรั่งที่เขาพูดภาษาไทยไม่ได้สิคะ
วันนั้น อาจารย์ท่านนั้นมีความมั่นใจพูดตามความที่ท่านอยากจะพูด จบด้วยดี มีสีหน้าที่มีความสุข วิทยากรฝรั่งก็พยักหน้า งึกงึก ว่าเข้าใจ
เจริญพร อาจารย์อ้อย
อาตมากำลังศึกษาอยู่ ที่ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด เรียนคณะศึกษาศาสตร์ เอกอังกฤษ จะขอคำแนะนำจากอาจารย์ในการสอนภาษาในชั้นประถม ขอโครงสร้างแนวการสอน ให้อาจารย์ส่งทาง mail นี้
เจริญพร
พระอดิศักดิ์ วิสุทฺธสีโล