วันศุกร์ที่ 12 – เสาร์ที่ 13 ก.พ. 53 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ผมเดินทางมาที่อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรีครับ ผมมาร่วมกิจกรรมกับ อ.แมน ปุโรทกานนท์และ อ.แพร่พรรณ เหมวรรณ จากคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร(วิทยาลัยเขตนครปฐม) อ.แมน และ อ.แพร่พรรณมีงานอบรมแกนนำชุมชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน “โครงการพัฒนาเครื่องมือและชุดการเรียนรู้เพื่อการวิเคราะห์ชุมชนท้องถิ่นในระดับตำบลและภูมินิเวศวัฒนธรรม” โครงการนี้เป็นโครงการความร่วมมือของสถาบันที่ผมทำงานกับภาคีวิชาการในการพัฒนาเครื่องมือการทำงานของชุมชนเพื่อเสริมพลังของชุมชนอีกแนวทางหนึ่งหรืออีกรูปแบบหนึ่งโดยเน้นกระบวนการจัดทำแผนที่ - แผนผังทรัพยากรอย่างมีส่วนร่วมเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรในระดับท้องถิ่น ภูมินิเวศวัฒนธรรมครับ
เมื่อวานตอนเย็นผมเจอคนรู้จักที่นี่เขาทักผมว่า
อาจารย์ค่ะในช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจารย์ไม่ได้อยู่ทำกิจกรรมประเพณีไหว้กับครอบครัวหรือค่ะ
ผมตอบไปว่าผมไม่ได้มีบรรพบุรุษเป็นคนจีนครับ แต่เด็กๆและคนในครอบครัวที่บ้านราชบุรีพวกเขาก็มีกิจกรรมตามประเพณีไหว้กันตามปกติ ทุกปีผมก็อยู่ร่วมงานด้วย หากแต่ปีนี้มีภารกิจจึงไม่ได้อยู่ร่วมด้วยครับ
เธอบอกผมว่าเธอเองก็ไม่ได้มีบรรพบุรุษเป็นคนจีนเลย หากแต่ช่วงนี้เป็นเทศกาลที่มีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในช่วงปฏิบัติพิธีกรรมตามประเพณีไหว้กัน เธอเลยได้ร่วมจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลนี้ไปกับเขาด้วย
“การมีศรัทธาต่อ บรรพบุรุษ เทพเทวดา ฟ้า ดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลวงเป็นเรื่องที่เราทุกคนทำได้ค่ะอาจารย์ ไม่จำเป็นว่าเราต้องมีบรรพบุรุษเป็นคนจีน อยู่ที่เรานั้นมีศรัทธา เรามีความเชื่อในสิ่งเหล่านี้หรือไม่”
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงรุ่งเช้านี้ผมอยู่ในที่พักในพื้นที่ที่ติดกับ“อุทยานทับลาน_เขาใหญ่” พื้นที่ที่เชื่อกันว่าเป็นย่านที่มีโอโชนที่ดีที่สุดของบ้านเรา เมื่อคืนและตอนตื่นนอนตอนเช้า ผมมาครุ่นคิดใคร่ครวญอยู่กับคำทักของคนรู้จักที่ปราจีนบุรีที่ว่า “อยู่ที่เรานั้นมีศรัทธา เรามีความเชื่อในสิ่งเหล่านี้หรือไม่” คำถามที่ผมถามตัวเองอย่างใคร่ครวญครุ่นคิดคำนึงจึงมีอยู่ว่า “แล้วตัวเราเชื่อในสิ่งเหล่านี้จริงๆหรือไม่”
ผมหยิบหนังสือ “จดหมายถึงวาเนสสา(ลูกสาว)” มาอ่านในช่วงเช้าในท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ“อุทยานทับลาน_เขาใหญ่” หนังสือเล่มนี้เป็นของ เจเรมี เฮย์เวิร์ด(คนนี้เป็นนักวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ควอนตั้มชั้นนำของโลก) ที่คุณเป็ด_พิภพ อุดมอิทธิพงศ์แปล(คนรู้จักคุ้นเคยกัน ไม่ได้พบกันมานานแล้วสบายดีอยู่หรือเปล่า) เป็นหนังสือที่ผมได้มาเมื่อครั้งไปร่วมสัมมนา"ภูฐาน ดินแดนแห่งความสุขในสังคมโลกยุคใหม่"ของคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯร่วมกับSchool for Wellbeing และสำนักพิมพ์สวนเงินมีมา เมื่อ30 ม.ค.53ที่ผ่านมา เมื่ออ่านจบทำให้ผมได้คำตอบจากการใคร่ครวญครุ่นคิดคำนึงมาตั้งแต่เมื่อคืนอย่างชัดเจนเลยครับ นี่คือส่วนหนึ่งในคำตอบนั้น
“....การเฉลิมฉลองและพิธีกรรมเป็นส่วนสำคัญของชีวิต และมีความจำเป็นเช่นเดียวกับการมีอาหาร ประเพณีเป็นการปฏิบัติตามระเบียบของธรรมชาติ ทำให้ชีวิตมนุษย์สอดคล้องตามปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ และเชื่อมโยงมนุษย์กับจิตวิญญาณของธรรมชาติ จิตวิญญาณเช่นนั้นจะปรากฏและมีชีวิตขึ้นในระหว่างการทำพิธีกรรม ดังเช่นชาวจีนโบราณกล่าวว่า ธรรมชาติสร้างให้เกิดประเพณีและมนุษย์ปฏิบัติตามประเพณี การเฉลิมฉลองจึงเป็นไปเพื่อชีวิต เป็นการไหลของกระแสความปิติสุขตามธรรมชาติ เป็นการฟื้นฟูความปิติเป็นการเน้นย้ำความสำคัญของความสุขเช่นนั้น การรู้สึกถึงความดีงามและความปิติในตัวเราเอง ทำให้สามารถรู้สึกถึงความดีงามในตัวผู้อื่นและรู้สึกถึงจักรวาลอันไร้ขอบเขตซึ่งมีเราเป็นส่วนหนึ่งด้วย...........
....โลกของเราจึงเป็นวงจรที่ไม่รู้จบอันงดงามของการส่งความรู้สึก – พลัง – การรับรู้หรือความเผื่อแผ่
ขอแต่เราอย่าได้จำกัดโลกของเราจนแคบเกินไป อาจมีบางสิ่งนอกเหนือจากที่ตาเราเห็น ภูตผี เทพยดา เทวดา นางฟ้า ตราลา เราอาจเรียกสิ่งเหล่านี้อย่างไรก็ได้ และบางครั้งเราอาจเราจะรู้จักสิ่งเหล่านี้ได้ ถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะเปิดหัวใจ ที่จะปิดการรับรู้ด้วยความรู้สึก และเชื้อเชิญสิ่งเหล่านี้เข้ามาในชีวิต.....ขอให้เราได้เฉลิมฉลองกับความไพศาล ความมีชีวิตชีวา ความดีงามของโลกเถิด ขอเราได้เชื้อเชิญ เซินยี่ ก้อนหิน และเทพยดา(รวมทั้งปีศาจด้วยถ้าพวกเรากล้าพอ) และใครก็ตามมาร่วมเฉลิมฉลองกับเรา นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสังคมที่ดีงาม”
.........
เช้านี้ในที่พักในพื้นที่ติดกับ“อุทยานทับลาน_เขาใหญ่”ในช่วงเทศกาลวันไหว้ เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองและร่วมพิธีกรรมในครั้งนี้ ผมจึงได้ร่วมเฉลิมฉลองและร่วมพิธีกรรมด้วยฝึกการปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนวปฏิบัติของ เจเรมี เฮย์เวิร์ดในหนังสือ “จดหมายถึงวาเนสสา(ลูกสาว)” อย่างเปิดใจเต็มเปลี่ยม
เจเรมี เฮย์เวิร์ดมีคำแนะนำวิธีการได้ร่วมเฉลิมฉลองและร่วมพิธีกรรมในแบบที่เรียกว่า “การบ่มเพาะพลังแห่งเมตตา”หรือ “การบ่มเพาะมิตรไมตรี”และการฝึกการปฏิบัติตามแบบ “ทองเลน” ของธิเบตครับ
"ซิงเจียอยู่อี่ ซิงนี้ฮวดใช้ "
ครับในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ผมขอร่วมเฉลิมฉลองและร่วมพิธีกรรมในโอกาสนี้ด้วยครับ
สวัสดีค่ะ
"ซิงเจียอยู่อี่ ซิงนี้ฮวดใช้ "ครับคุณครูคิม
สวัสดีครับ เฮงเฮง