วันก่อนผ่านไปทางวัดราชนัดดาฯ เห็นโลหะปราสาท อดที่จะภาคภูมิใจในความงดงาม
ไม่ได้ จึงได้ไปหาข้อมูลมาเพื่อให้ทราบความเป็นมา ของโลหะปราสาท
โลหะปราสาท หนึ่งเดียวในโลก |
ปราสาทที่มียอดเป็นโลหะ ปัจจุบันมีแห่งเดียวในโลก
โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว)
โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2389
เพื่อพระราชทานให้พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี
|
นับว่าเป็นโบราณสถานล้ำค่าของไทย
ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโลหะปราสาทเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในโลก
คำว่า "โลหะปราสาท" Lohaprasada เป็นชื่อดั้งเดิมของอินเดีย เรียกมาแต่ครั้งพุทธกาล
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงประทานความหมายว่า "ตึกที่มียอดเป็นโลหะ"
ตามตำนานกล่าวว่า โลหะปราสาทแห่งแรกนั้นนางวิสาขาฯได้สร้างถวายพระพุทธเจ้า
ที่บุพพาราม ประเทศอินเดียโน้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 382
พระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในลังกาเป็นองค์ที่ 2
ปัจจุบันทั้ง 2 แห่งคงเหลือแต่ซากเสาปักอยู่
|
|
โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามฯ นี้ ถือว่าเป็นแห่งที่ 3 ของโลก
ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ได้โปรดให้ช่างเดินทางไปดูแบบที่ประเทศลังกา
โดยนำเค้าเดิมมาเป็นแบบ แล้วปรับปรุงให้เป็นศิลปกรรมแบบไทย
โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาททั้งหมด 37 ยอด
หมายถึงหลักธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ
ชั้น 7 เป็นยอดปราสาทสำหรับประดิษฐาน พระบรมธาตุ
|
|
นับตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโลหะปราสาทในรัชกาลที่ 3
เป็นต้นมายังไม่เคยก่อสร้างได้แล้วเสร็จบริบูรณ์เลย
จนถึงรัชกาลปัจจุบันได้เริ่มมีการบูรณะครั้งแรก เมื่อปี 2506
แล้ววันนี้เนื่องในโอกาสที่ยอดบนสุดของโลหะปราสาทได้สร้างเสร็จแล้ว
(ยังคงเหลืออีก 36 ยอดที่ยังไม่เสร็จนะ)
ทางวัดเลยจัดการสมโภชยกพุ่มข้าวบิณฑ์ขึ้นประดิษฐานบนยอด
ในวันที่ 31 มีนาคม 2543
โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯแทนพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธี
และจัดให้มีงานสมโภชในวันที่ 31 มี.ค. - 6 เม.ย. 2543
โลหะปราสาทแห่งนี้ถือว่าเป็นมรดกของชาวไทย
และพวกเราในยุคนี้น่าจะภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสเห็นความสำเร็จสมดังพระราชประสงค์
ของพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 3
ใครยังไม่เคยเห็นก็หาโอกาสมาดูได้ที่วัดราชนัดดารามวรวิหาร
ข้อมูล และภาพ บางส่วน เรียบเรียงจากหนังสือ วัดราชนัดรารามวรวิหาร
พิมพ์โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2539
ขอบคุณที่ให้ความรู้