ความประทับใจแรก การเดินทางสู่โรงพยาบาลสอง


ความประทับใจแรกในการเดินทางสู่โรงพยาบาลสอง

ความประทับใจแรก


โดย นักศึกษาแพทย์แผนไทยประยุกต์ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
น.ส มัตติกา เครือคำอ้าย
                

            แผนที่

              การเดินทางสู่โรงพยาบาลสองครั้งแรกของนักศึกษาสาวแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงทั้ง 4 คน เป็นการมาเยือน อำเภอสอง จังหวัดแพร่ เป็นครั้งเเรก เรามาเพื่อฝึกงานในรายวิชาฝึกบูรณาการประสบการณ์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ เรา ทั้ง 4 สาวไม่ทราบเลยว่า อำเภอสอง  อยู่ ณ ที่แห่งใดของจังหวัดแพร่  เเละทำไมอำเภอสอง จึงชื่อว่า อำเภอสอง  เฮ้อ! และไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่า พวกเราจะต้องเผชิญกับสิ่งใดในอนาคตอันใกล้ที่จะมาถึง เมื่อรถกระยะสีแดงคันหนึ่งป้ายทะเบียนเชียงรายแบกสำภาระรวมถึงชีวิต 4 สาวผ่าน ถนนสาย อำเภองาว มุ่งหน้าสู่อำเภอสอง

อำเภองาว ไปอำเภอสอง

       พวกเรานั่งรถกระบะสีเเดง ซึ่งไม่มีเเม้กระทั่งเเอร์ ไม่มีกระจกหน้าต่าง นอกจากนี้เรายังพบอีกว่าประตูรถฝั่งซ้ายมือของคนขับรถ ไม่มีปุ๋มล็อกรถ ( - -!) พวกเราทั่ง 4 สาว ภาวนามาตลอดทางเเละในที่สุด รถกระบะคันสีเเดง มันก็พาพวกเรามาถึงยังหน้าโรงพยาบาลสองครั้งแรก

 

        ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "สงสัยป้ายโรงพยาบาลที่เห็นคงไม่ใช่ป้ายไม้นี้ แต่เป็นป้ายสีเขียวถัดไป" - -! เราเลยต่างคิดกันว่า " สงสัยโรงพยาบาลสอง จะอยู่ในซอย แต่ก็คงไม่เลย ทันทีที่สายตาของเราทั้ง 4 คนเห็นรถพยาบาลคันหนึ่ง กำลังขับขี่ออกมาจากป้ายไม้ที่เราเห็น เราเลยทราบแล้วว่า ออ! ^ ^! นี่คือ "โรงพยาบาลสองจริงจริง" โรงพยาบาลนี้แปลกเหมือนกันที่ด้านหน้าโรงพยาบาลดูเป็นพื้นที่แคบซึ่งแตกต่างจาก โรงพยาบาลอื่นที่ด้านหน้าโรงพยาบาลเป็นพื้นที่กว้าง

พระเพื่อนพระเเพง

                                                         
              หลังจากยืนอยู่หน้าโรงพยาบาลสองได้ไม่นานพวกเราทั้ง 4 คนจึงเดินเข้าไปข้างในโรงพยาบาลทันที และเป็นครั้งแรกที่ เราทุกคนได้เห็นสถานที่ฝึกงาน นั่นก็คือ "ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทย โรงพยาบาลสอง" ซึ่งมีสวนสมุนไพรอยู่ด้านข้าง ภายในอาคารแผนไทยนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นสมุนไพรที่หอบสดชื่นลันจวนใจ เป็นยิ่งหนัก พี่พี่เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างขมักเขม้น ยิ่มแย้มแจ่มใส และ ดูพวกเค้ามีความสุขกับงานที่ทำอยู่ในศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแผนไทยนี้ (ใจพวกเราเริ่มเต้น เป็นจังหวะ เเล้วเริ่ม ลัวขึ้นๆ)

             

              หลังจากที่พวกเราทั้ง สี่ คน เชยชมอยู่กับสถานที่ฝึกงานแล้วนั้น พวกเราจึงเดินทางต่อไปยังที่พัก (ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจารย์พี่เลี้ยง บอกพวกเรา ว่า "ที่พักอยู่ไกลจากโรงพยาบาลประมาณ 5 กิโลเมตร" ^ ^!)แต่ไม่เลย โรงพยาบาลสองอยู่ห่างจากที่พัก ไม่ถึง 800 เมตร   - -+ เฮ้อ ! เมื่อดูจากสภาพบ้านแล้วในความคิดของเราทั้ง 4 คน มีความเห็นว่ามันคงลำบากมากแน่ๆ เลย  ชีวิตการฝึกงานของพวกเราทั้ง 4 คน แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ตาม พวกเราทั้ง สี่ คน ก็ต้องอยู่ให้ได้ มันคือประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่งในชีวิตการฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาสาขาวิชาการเเพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยเเม่ฟ้าหลวง ชั้นปีที่ 4 เทอม สุด ท้าย เพราะว่าอีกไม่กี่เดือน พวกเรา ก็จะไม่มีประสบการณือันล้ำค่าเหล่านี่ อีกเเล้ว

               ที่พักของพวกเราดูเป็นบ้านหลังใหญ่ ลักษณะบ้านพักเป็นบ้านไม้สองชั้น รั้วทั้งสี่ด้านล้อมด้วย สังกะสี ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ที่ลมพัดหรือสุนัขวิ่งชน สังกะสี ก็จะมีเสียงดังขึ้น ดังขึ้น แต่ด้วยความแปลกที่เรา จึงต้องปรับตัวกันมากเลยที่เดียว

               ครั้งแรกที่บ้านพักแห่งนี้เราไม่รู้จักใครเลยนอกจากพี่เลี้ยง
พี่เลี้ยงของเราก็คือพี่ตาล ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่จบจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลสอง พี่เลี้ยงสุดสวยคนนี้จัดการหาที่พัก ช่วยจัดหาของใช้ที่จำเป็นให้เป็นอย่างดี  นอกจากอาจารย์พี่เลี้ยงแล้ว ป้าเจ้าของบ้านเช่า ยังหาที่นอน หมอน มุ่งและเสื่อ มาให้พวกเรา รวมถึงคุณยายใจดีที่อยู่ข้างบ้าน ท่านคอยคอยหยิบยื่นแบ่งปันอาหารมาให้พวกเราได้กินกัน อีกทั้งยังให้เราได้ยืมจักรยานเพื่อปั่นไปตลาดและไปทำงานในโรงพยาบาลอีกด้วย อีกทั้งยังมีพี่เจ้าหน้าที่ ที่อาศัยอยู่ในระแวกหมู่บ้านเดียวกันรวมถึง พี่จ้าหน้าที่แผนไทย ทั้งพี่ทิพย์ พี่คำมาย พี่พร ซึ่งต่างแวะเวียนมาหาไม่ขาดสาย พวกเค้า คอยถาม สารทุกข์สุขดิบ อยู่เสมอ    

              พวกเรารู้จักวัดพรธาตุพระลอ ด้วยความซุกซนของอาจารย์ตาล เเละพี่ทิพย์ ที่ขับรถมอเตอร์ไซด์ ส่วนตัว นำทางเราไปหา ท่านผู้ใหญ่บ้าน บ้านลอง เพื่อเเนะนำให้รู้จักพวกเราทั้งสี่คน โดยบังเอิญ พี่ทิพย์พาเราเข้าออก เข้าและออก วนไปวนมาหลายรอบ จนในที่สุดมาถึง วัดพระธาตุพระลอ จนได้ โดยที่พวกเรา ทั้งสี่สาว รวมอาจารย์ตาลไม่รู้เลยว่า เรามาถึงได้อย่างไร  ^ ^!

 

พระฑาตุพระลอ

                             เมืองสองเป็นเมืองที่สงบ หมู่บ้านที่เราไปอยู่นี้ชื่อหมู่บ้าน "บ้านลอง" แต่ไม่ว่าหมู่บ้านใดก็ตามที่อยู่ชุมชนใกล้เคียงกัน จะรู้จักกันเกือบทุกบ้าน ผู้คนรักใคร่กันดีมีน้ำใจให้แก่กัน เมื่อเราทั้ง 4 คนมาเยือนเหมือนเป็นคนต่างถิ่นเข้ามาอยู่ใหม่ อีกทั้งยังเป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์ จึงอาจมีปัญหาเล็กๆน้อยๆบ้าง 


                ครั้งหนึ่งเราทั้ง 4 ต่างเกิดความหวาดระแวงเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากหลังบ้าน เมื่อเวลา ตี 2 กว่า เราต่างตื่นกลัวกัน อีกทั้งแถวหมู่บ้านเหล่านั้นมีวัยรุ่นผ่านไปมาบ่อยๆ ทำให้พวกเราคิดไปไกลมากมาย

           รุ่งเช้าเราเลยทำเรื่องเข้าจนได้ ทั้งพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่อยู่แถวบ้านเช่าของเรา พี่เลี้ยงของเราและเจ้าของบ้านเช่าต่างเป็นห่วงและแวะเวียนมาดูอยู่ตลอดไม่ ขาดสาย ไม่ว่าเราจะปั่นจักรยานไปทางไหน ก็ต่างเป็นห่วงเราไม่อยากให้เรากลับบ้านเช่าค่ำ กลัวหลงซอยเพราะซอยมีเยอะมาก เมืองสองนอกจากจะเป็นเมืองที่เงียบสงบแล้ว ตอนเย็นมาจะเห็นผู้คนบ้านใกล้ เรือนเคียงเรียกกันรับประทานอาหารเย็นด้วยกันหลังรับประทานอาหารเย็นก็จะมานั่งพูดคุยกันสนุกสนาน เป็นภาพที่หน้าประทับใจที่ไม่สามารถพบเจอได้ในเมือนใหญ่ ความมีน้ำใจของชาวอำเภอสอง ทำให้เป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างมากทำให้เราทั้ง 4 คน จดจำไปไม่รู้ลืม 

 




 ----------- ขอ ขอบคุณ พี่ๆ เจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลสอง ทุกคน---------------

หมายเลขบันทึก: 333812เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2010 12:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • เอ้าพี่ๆงานแผนไทย รับคมชมหน่อยค่ะ

น้องๆ เค้ามีความพยายาม ค่ะ บางครั้งพวกเค้ามีความคิดเป็นเด็กๆ เเต่มีควาามตั้งใจเเละ ความน่ารักในตัวของพวกน้องๆ  จะคิดหรือจะทำ นั่นคือ ความเป็นธรรมชาติที่เเฝงไปด้วยรอยยิ้มเเละ ความจริงใจ

ดีใจนะที่น้องๆรู้สึกดี หวังว่าแผนไทย ,รพ.สองจะอยู่ในใจน้องๆตลอดไป

P"pang

คิดถึงน้องทุกคน น่ารักมากกค่ะ รพสองยินดีต้นรับทุกครค่ะ/ pattarin_om

ยิ่งได้มาอ่านกระทู้ของพี่ๆแล้วยิ่งอยากเข้ามาเรียนมากๆค่ะตอนนี้

หนูก็สอบเข้าได้แล้วดีใจมากค่ะ

แพทย์แผนไทยปลายด้ามขวาน

รับความรู้สึกของแพทย์แผนไทยเมืองเหนือได้ทันทีเมื่อเริ่มอ่าน ดีใจกับแพทย์แผนไทยรุ่นใหม่ๆด้วยเนอะมีดีกรีห้อยท้านกันทุกแห่งหน เหลือแต่แพทย์แผนไทยแก่ๆเก่าๆที่ยังเฝ้าคัมภีร์อยู่ รอวันที่จะมีผู้เข้าใจจริงๆถึงรากเหง้าของแผนไทย เวลานี้แผนไทยแตกทัพหมดแล้วเพราะไปนำเอาแพทย์ทางเลือกอื่นๆเข้ามาผสมผสาน เรียกว่าของตัวเองก็ยังไม่ถึงแก่นดันไปเอาของคนอื่นมาผสมอีกอีก ๑๐ ปีแพทย์แผนไทยคงจะเพี้ยนไปมากกว่านี้อีก แล้วพวกเราจะเหลืออะไรที่จะคุยหรือสอนลูกหลานให้รู้จักแพทย์แผนไทยหรือแผนโบราณเดิม หมอดีหมอเก่งมีทั่วแผ่นดินแต่ล้วนตายหมดแล้วจากความเป็นไท ช่วยกันเนอะหมู่เฮาน้องพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท