สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนูกลับบ้านตอนเช้าวันเสาร์แม่เตรียมของให้หนูไปวัด สาย ๆ หนูลงมาช่วยดูแลร้าน ให้พี่สาว เย็น ๆ หนูก็เข้าไปปฏฺบัติภาวนาที่วัด รุ่งเช้าขับรถมารับแม่ไปจังหันเช้า สาย ๆ ก็ทำกิจวัตรตนเอง
ในการกลับบ้านของหนูทุกครั้งเป็นความตั้งใจไปทำหน้าที่ของลูกอย่างที่ครูท่านแนะนำให้ฝึกฝน หน้าที่ของลูกสำหรับหนูคือ ทานข้าวกับแม่ ไปไหนมาไหนกับคนในครอบครัว หรือบางทีก็ทำหน้าที่ตามแต่ แต่ละคนไหว่วาน หนูรู้สึกโล่งสบายทุกครั้งที่กลับบ้าน เป็นบรรยากาศของญาติ เด็ก ๆ ล้อมหน้าล้อมหลัง แสดงถึงความใส ๆ เบิกบานของจิตใจที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้
เพราะหนูตั้งใจชัดเจนที่จะเอาใจใส่คนรอบข้าง อย่างที่ครูบ่มเพาะฝึกฝนให้ สำหรับหนูเองแล้ว สบาย ๆ อะไรก็ได้ ชีวิตที่เคยสงบ เงียบ ณ เมืองนนท์ พอกลับมาที่นี่เหมือนมาเติมพลังแห่งความเบิกบานและความรัก พอใกล้จะถึงเวลากลับหลังจากหนูเก็บร้านช่วยแม่ ท่านพูดกับหนูประโยคสั้น ๆว่า
“ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เสื้อผ้าแม่เตรียมและเก็บเข้ามาไว้ให้แล้ว”
ตอนฟังหนูก็รู้ประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ถามสิ่งใด แต่พอเดินมาถึงราวตากในบ้าน หนูเห็นชุดที่หนูใส่มาเมื่อวันเสาร์ถูกซักและตากอย่างเรียบร้อย พร้อมใช้งาน หนูซาบซึ้งใจ ในความเอาใจใส่ของแม่เสมอมาค่ะ และครั้งนี้ก็เหมือนกัน ขณะที่หนู ใช้ชีวิตปกติ ด้วยในใจที่พึ่งระลึกกับตนเองว่า
“ฝึกฝนการทำเพื่อผู้อื่น เธอได้รับจากผู้อื่นมามากแล้ว”
แม่หนูท่านก็มาดูแลหนูอยู่ห่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แม่ทำให้นั้นยิ่งใหญ่เสมอค่ะ ความรักของท่านงดงามมาก หนูจึงหยิบชุดนี้ขึ้นมาอย่างตั้งใจ อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็ใส่ชุดนี้กลับไปร่วมทานอาหารเย็นกับแม่และครอบครัว พอแม่ท่านเห็น ก็เพียงมองแล้วยิ้ม ๆ แต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด แต่ก็สัมผัสได้ว่า ท่านรักและห่วงใย เพราะท่านอยู่ในใจหนูตลอดเวลา หนูรักแม่ค่ะ
สักนิด..ที่ลูกรู้
คุณแม่ก็ภูมิใจค่ะ
มีวันดีดี แบบวันนี้ ให้สม่ำเสมอนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ -ป้าอี๊ด-
แม่ท่านเป็นต้นแบบแห่งการดูแลและเอาใจใส่คนรอบข้าง จนที่บ้านยกให้เป็น "พยาบาลประจำครอบครัวเลยค่ะ"
(^_^)
ขอบพระคุณค่ะที่มาเติมความรู้สึกดี ดี
แวะกลับมาอ่านที่ตอบ..ขอบคุณค่ะ