สร้างผู้นำในการพัฒนากระบวนการและนวัตกรรมในการทำงาน


วันนี้ผมได้ไปร่วมกิจกรรมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ทางหน่วย OD ได้จัดขึ้นเพื่อมุ่งหวังที่จะสร้างผู้นำในเรื่องการพัฒนากระบวนการและสร้างนวัตกรรมในการทำงานขึ้นในวลัยลักษณ์ งานนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 40 คน ซึ่งในการทำกิจกรรมของ OD ครั้งนี้ก็เป็นไปตามแผนงานของการใช้ KM ในการสร้างความเข้มแข็งในการทำงาน โดยการพัฒนาคน พัฒนางาน และองค์กรในที่สุด หลังจากที่เราได้ให้ความรู้ในเรื่อง KM แล้ว และทุกคนในวลัยลักษณ์ได้มีการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และสร้างความรู้สึกที่รักองค์กร และพร้อมที่จะทำงานเพื่อองค์กรของเรา เมื่อรู้ว่าหากพวกเราร่วมกันทำงานให้องค์กรของเรามีความสุข พวกเราทุกคนก็จะมีความสุขด้วยอย่างแน่นอน สถานการณ์ประมาณ 1 ปี หลังจากที่พวกเราได้มีการเรียนรู้ KM การพัฒนาการทำงานการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของพวกเราชาววลัยลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงานสนับสนุน นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ทุกเรื่องมีความร่วมมือเกิดขึ้น มีความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีการร่วมไม้ร่วมมือกันมากขึ้น ผมเองได้เฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา และก็รู้สึกได้เลยว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ หากทิศทางการพัฒนา KM ของวลัยลักษณ์เรา สามารถที่จะเดินต่อไปบนเส้นทาง KM Walailak Way อย่างต่อเนื่องแล้ว ผมเชื่อเหลือเกินว่า วลัยลักษณ์เราจะมีความเป็นเลิศในทุก ๆ ด้านได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงานสนับสนุน ซึ่งในสถาบันการศึกษาอื่น ๆ มักจะประสบปัญหาอย่างมาก แต่ที่วลัยลักษณ์ถือได้ว่ามีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ไม่เป็นสองรองใครทีเดียวครับ ผมคิดว่าไม่ช้าเราจะมีมือหนึ่งในการทำงาน ในหลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ คนมากขึ่น นั่นคือเป้าหมายของเราในระยะนี้ ผมเองก็อยากจะได้โอกาสนี้ ขอชื่นชมคนทำงานที่ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ที่พวกเราชาววลัยลักษณ์ ควรที่จะให้กำลังใจและสนับสนุน เพราะถือว่ามีคุณลักษณะของความเป็นผู้นำในการพัฒนาการทำงานและกระบวนการทำงานที่ดีมาก ก็คือ คุณประไพ แห่งชุมชนคน eoffice และคุณจรวยพร แห่งชุมชนคน 5 ส ร่วมกับโครงการสถานที่ทำงานหน้าอยู่ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีอีกหลายคนนะครับที่ผมยังไม่ได้เอยชื่อ ที่รอคิวขึ้นเป็นผู้นำอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคิดว่าเร็วนี้ผมคงจะได้มีโอกาสชื่นชมนะครับ นอกจากนี้แผนงานของ OD ในระยะต่อไปก็คงจะเป็นการเข้าไปร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ เช่นสถาบันวิจัยฯ ส่วนส่งเสริมวิชาการ เพื่อสร้างกิจกรรมพัฒนาคน ในสายวิชาการ โดยนำแนวคิดของ KM เข้าไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนา ถ้าอย่างไรก็ตามผมเองก็อยากจะขอความร่วมมือมายังพวกเราสายวิชาการด้วยว่า หากมีกิจกรรมดี ๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ก็อยากจะเชิญชวนพวกเราในการสนับสนุนกันมาก ๆ นะครับ เพื่อวลัยลักษณ์ของเรา
หมายเลขบันทึก: 33205เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2006 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะอาจารย์   มีเพื่อน ๆ  ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ลปรร.เรื่อง "เทคนิคการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงาน"  ที่วัดนากุน  เมื่อวันที่ 7-8  มิถุนายน  ที่ผ่านมา  กลับมาเล่าให้ฟังเหมือนกันค่ะ  คนที่กลับมาเล่าบอกว่าชอบกิจกรรมที่ OD จัดในครั้งนี้มาก เพราะเป็นการแลกเปลี่ยนกันภายใต้โจทย์ หรือ บรรยากาศของชาววลัยลักษณ์ด้วยกันเอง การ ลปรร.จึงค่อนข้างจะได้แนวทางชัดเจนเข้าใจปัญหาและคิดหาวิธีแก้ไข วิธีการทำงานด้วยกันค่ะ   การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันแบบสบาย ๆ  แต่ได้สาระ   เพราะวิทยากรก็เป็นพี่ ๆ ของพวกเราที่มากด้วยประสบการณ์และมีความปรารถนาดีต่อองค์กร  จึงถ่ายทอดเทคนิคกันแบบไม่มี  กั๊ก  กันเลยค่ะ    เปี๊ยกขอชื่นชมและยกนิ้วให้เพื่อน ๆ ในหน่วย  “OD” นะค่ะ  ที่ตั้งหัวข้อประเด็นการ ลปรร. ได้ดีมาก  และ รู้จักเลือกสถานที่ที่สงบ ร่มรื่น ให้ผู้เข้าร่วม กิจกรรมได้มีโอกาสได้ผ่อนคลาย  ได้งาน  และได้ร่วมทำบุญกันด้วยค่ะ    เปี๊ยกคิดว่าเพื่อน ๆ  ชาววลัยลักษณ์ที่เข้าร่วม ลปรร. ครั้งนี้  ได้กำไรชีวิต กันทุกคน  ประการแรกที่ได้คือ   ได้เทคนิคต่าง ๆ  มาพัฒนากระบวนการทำงานของตน จากการได้ร่วม ลปรร.กับทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์การทำงาน   วิธีคิด  วิธีการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงานซึ่งถือว่าผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมได้มาเต็ม ๆ  เพราะทั้งผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนรวมทั้งทีมวิทยากรก็เป็นคนวลัยลักษณ์  ที่เข้าใจสภาพแวดล้อมในการทำงานของเราเอง  มองเห็นปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไขกันดี มองเห็นว่าเราจะไปทิศทางไหนถึงจะบรรลุเป้าหมาย   เพราะฉะนั้นการที่เราได้มีโอกาสไปร่วม ลปรร.ในประเด็นนี้กันถือว่าเป็นการพัฒนาคนที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้เกิดขึ้นในองค์กรของเราได้ค่ะ     ประการที่สองคือ ได้มิตร เพิ่มขึ้นแม้ว่าเราจะอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่การได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติด้วยกันมีน้อยมาก  ถือเป็นโอกาสดีที่ได้รู้จักกันมากขึ้น  สนิทใจกันมากขึ้น  เชื่อใจกันแล้วกล้าที่จะเปิดใจรับฟังความเห็นของคนอื่น และกล้าแสดงความคิดเห็นของตนเอง   สร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง  ส่งผลให้การประสานงานต่าง ๆ  ดีขึ้น  เพราะ มิตรย่อมให้ความร่วมมือ  เมื่อมิตร ทำสิ่งที่ดี ใช่มั๊ยค่ะ   ประการต่อมาคือ   ได้ร่วมบุญ    เพราะโอกาสที่จะตั้งใจเดินเข้าวัดไปทำบุญของคนทำงานมีน้อยมาก  ในวันนั้นก็ถือว่า ได้ร่วมงาน และร่วมบุญ กันถ้วนหน้า  เพราะกลับมา มวล.กันอย่างเบิกบานใจ  น่าตาสดชื่นเชียวค่ะ ก็ดีใจกับทุกคนที่ได้ไปร่วมกิจกรรมนี้นะค่ะ  ส่วนตัวก้อเสียดายโอกาสที่ไปร่วมไม่ได้เพราะติดภาระกิจ  แต่คิดว่าคงจะได้อ่านที่พวกเรามาเขียนเล่ากันในเร็ว ๆ นี้แน่นอนค่ะ

                วันนี้มีสิ่งที่อยากจะบอกผ่านทางนี้อีกอย่างหนึ่งคือ ขอบคุณอาจารย์สมนึก (คุณเอื้อของชาว มวล.) ที่ให้ กำลังใจมาตลอด   ให้โอกาสได้ทำงานเพื่อมวล.    และให้การสนับสนุนในทุก ๆ ด้านเพื่อให้ระบบ  eOffice ออกมาดีที่สุดสำหรับชาว มวล.  และที่สำคัญช่วยผลักดันให้ผลสำเร็จจากการทำงานของพวกเราทุกคนนำพา วลัยลักษณ์สู่สากล ตามเป้าหมายที่มุ่งมั่นกันไว้ว่าจะไปให้ถึงร่วมกัน      ถึงวันนี้แม้นว่า  ระบบ eOffice ของวลัยลักษณ์เพิ่งเริ่มก้าวแรก   แต่อยากจะขอบอกในฐานะคนที่ทำตรงนี้ว่า  ถ้าไม่มีอาจารย์   ไม่มี  KM   ไม่มีเพื่อนร่วมงานที่ดีอย่างศูนย์คอมพิวเตอร์ และไม่มีความร่วมมือจากเพื่อน ๆ  ในชุมชนคนทำ eOffice และทีมงานพี่ น้อง ๆ ในส่วนสารบรรณฯ โอกาสที่จะย่างก้าวแรกให้ได้อย่างวันนี้ก็ยากมาก ๆ  ค่ะอาจารย์     เพราะหากเราใช้วีธีการเดิม ๆ ที่หลายหน่วยงานทำอยู่(เราเองเคยทำมาแล้วเหมือนกัน)  คือ คิดระบบขึ้นมาแล้วสั่งคนในองค์กรให้ทำตามฝ่ายเดียว (ความสัมพันธ์แนวดิ่ง : ระบบสั่งการ) ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงาน  ทำตามกันไปแบบเดิม ๆ ไม่ได้พัฒนาปรับปรุงแนวปฏิบัติกันเลย  จะเปลี่ยนสักครั้งก็เปลี่ยนจากส่วนกลางออกไป  การพัฒนาคน พัฒนางานก็จะไม่มีบรรยากาศในการทำงานก้อไม่ดี  คนทำงานไม่มีความสุข  ไม่ได้รับการยอมรับและความร่วมมือ  แต่เมื่อพวกเราได้ไปเรียนรู้กระบวนการ KM  เรียนรู้ความสำคัญของความสัมพันธ์ฉันมิตรของคนทำงาน ที่ทำงานภายใต้ระบบเดียวกับเรา (ความสัมพันธ์แนบราบ : มิตรภาพ  เพื่อนช่วยเพื่อน)  เรียนรู้คุณค่าความสามารถของเพื่อนร่วมงานในแต่ละด้าน  และได้เรียนรู้ว่าการที่เราจะแก้ไขปัญหาการทำงานงาน  หรือการพัฒนาระบบงานเราควรจะรวมตัวกันเพื่อ ลปรร.กันในเรื่องที่เราสนใจร่วมกัน (COPs)  และเมื่อรวมตัวกันแล้วต้องตั้งเป้าหมายของกลุ่มร่วมกัน และร่วมกันขับเคลื่อนด้วยกระบวนการทำงานต่าง ๆ เพื่อให้เป้าหมายของเราสำเร็จ   " ทำให้ eOffice ย่างก้าวแรกในมวล.ได้เท่าวันนี้   และคงไม่ยากเกินไปที่จะสร้างระบบeOfficeให้ Smart ที่ชาว มวล.จะได้ร่วมภูมิใจ "   ในมุมมองของเปี๊ยกที่เป็นผู้ประสานงานของ ชุมชนคนทำ eOffice มองว่าบรรยากาศในการทำงานแบบนี้ดีมาก ๆ  ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไข  เปี๊ยกเป็นเพียงคนประสานงานในฐานะที่ดูแลผังแม่บทระบบ eOffice เท่านั้นเองค่ะอาจารย์     เปี๊ยกได้พบความมหัศจรรย์ในตัวเพื่อนของเราในชุมชนคนทำ eOffice มากมาย  ทุกคนที่ได้พูดคุย  เปิดใจ  มีความสามารถ  มีความคิดดี  มีความมุ่งมั่น  และอดทนในการแก้ไขปัญหาและตั้งใจที่จะขยายงาน eOffice ต่อไปยังบุคคลอื่น ๆ ภายในหน่วยงานที่ตนดูแลอยู่  จึงขอให้กำลังใจเพื่อน ๆ ชุมชนคนทำ eOffice ทุกคนด้วยนะค่ะ  ตอนนี้ชาวชุมชนคนทำ eOffice ในหน่วยงานต่าง ๆ  หลายหน่วยงานแล้วนะค่ะอาจารย์ ที่ จัดประชุมปรับรูปแบบวิธีการทำงานกันใหม่  เพื่อลดกระดาษและเพิ่มประสิทธิภาพงาน  เรียกว่า จัดสำนักงานใหม่กันเลยทีเดียว  เป็น  สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์   โดยความดูแลของเพื่อน ชุมชนคนทำ eoffice ร่วมกับผู้บริหารของหน่วยงานนั้น   และเขาจะประสานมาทางผู้ประสานงานชุมชน (สบอ.และศค.) อยู่ตลอดเวลาบอกมาทั้งแนวปฏิบัติที่ดี และปัญหาที่เกิดขึ้นและต้องการให้ช่วยปรับปรุงแก้ไขค่ะ  และที่น่ารักมากก้อคือ เพื่อน ๆ ต่างหน่วยงาน ที่นั่งทำงานในตึกเดียวกันจะช่วยกันค่ะ ใครเก่งแล้วก้อบอกเพื่อนต่อ     ถือว่าบรรยากาศการทำงานโดยรวมดีมากค่ะ  ฟังจากน้ำเสียงและดูหน้าตาเมื่อเจอกันแล้วถึงแม้นว่าระบบงานจะยังไม่เข้าที่เข้าทางและเขาต้องเหนื่อยกับการอธิบายบอกต่อพนักงานอื่น ๆ ในหน่วยงานในเรื่องการทำงาน ใน eOffice  ทุกคนในชุมชนคนทำ eOffice ที่เปี๊ยกเจอก็มีความสุขและใจสู้ค่ะ   ซึ่งเปี๊ยกคิดว่ากำลังใจที่ดีที่สุด อีกอย่างหนึ่งที่ นอกเหนือจากคุณเอื้อ ให้แล้ว   ชาวชุมชนคนทำ eOffice  อยากได้มาก ๆ   ก้อคือ  ความร่วมมือจากเพื่อน ๆ ชาวมวล.ทุกคนค่ะ

สวัสดีคะ อาจารย์...วันนี้ได้รับโอกาสดีที่ได้ไปสนับสนุนกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับชุมชนคนพัสดุ ในการกำหนด TOR และ Spec ที่มีคุณภาพ กระบวนการในกิจกรรมวันนี้ได้นำกระบวนการจัดการความรู้มาใช้ โดยใช้เทคนิกการเล่าเรื่องมาใช้แลกเปลี่ยนเรียนรู้...ตนเองได้รับรู้ถึงศักยภาพของเพื่อนๆ ชุมชนคนพัสดุ (เพื่อนๆ จากส่วนอาคาร ศูนย์คอม ศูนย์เครื่อมือฯ ส่วนพัสดุ ศูนย์บรรณสารฯ) ที่มีเทคนิก แนวทางการจัดทำ TOR Spec ที่แพรวพราว เนื่องจากประสบการณ์แต่ละคนโชกโชนมาก ทำให้สมาชิกที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทึ่งในศักยภาพซึ่งกันและกัน เข้าใจความยากลำบากในการจัดทำ TOR และ Spec เรียนรู้เทคนิกการจัดทำ TOR และ Spec จากประสบการณ์ ซึ่งเราไม่สามารถหาฟังและเรียนรู้จากที่ใดได้...สอดคล้องกับคำพูดที่อาจารย์บอกไว้ข้างต้นว่า "KM จะสร้างความเข้มแข็งในการทำงาน"
และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสให้กับตนเองในการร่วมประชุม "พบปะนักวิจัยใหม่" ที่จัดโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยกับ สกว. สกอ. เพื่อได้สัมผัส เรียนรู้ถึงแนวทางการทำวิจัยในมหาวิทยาลัย การพบปะนักวิจัยใหม่ในครั้งนี้มีนักวิจัยที่เป็นทั้งอาจารย์ในมหาวิทยาลัยและภายนอกจำนวนมาที่มาเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมที่เข้าร่วมครั้งนี้เป็นความพยายามที่จะหาแนวทางช่องทางที่จะขับเคลื่อนให้เกิดบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านงานวิจัยเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย และการได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้ทำให้ตนเองได้เรียนรู้ข้อดีของการทำวิจัย...
1. ประโยชน์ของการศึกษาวิจัยจะส่งผลดีต่อนักศึกษาที่จะเรียนสิ่งใหม่ๆทันเหตุการณ์และเหมาะสมกับสภาพแวดล้องของท้องถิ่นในปัจจุบัน ส่งผลดีต่อชุมชนและประเทศชาติ
2. การทำงานวิจัยที่ดีและมีประโยชน์จำเป็นต้องมีการปรึกษา หารือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากหลายมุมมอง ทำให้ความคิดได้รับการกลั่นกรอง
ทำให้เมเกิดแรงบันดาลใจที่อยากสร้างสรรค์สิ่งดี อยากให้มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันการศึกษามีบรรยากาศทางวิชาการมากขึ้น...เมทราบว่าอาจารย์เรามีความสามารถมากมาย ได้รับรางวัลมากมาย หากได้มีการทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันคงจะเกิดอะไรดีๆ มีประโยชน์อีกมากแน่ๆ
... เมื่อประชุมเสร็จ ...สิ่งที่ฝันไว้ก็เริ่มมีหนทาง เนื่องจากได้มีโอกาสให้พูดคุยกับ ดร.พิมพ์ผกา ฮาดิง ซึ่งรู้จักกัน ทักทายพูดคุยกันตามประสาคนไม่ค่อยได้เจอทำให้เมทราบว่า... เรามีความปรารถนาที่คล้ายกันคืออยากให้เกิดบรรยากาศการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านงานวิจัยในสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเมรู้สึกตื่นเต้น เพราะเริ่มมีชองทางและ Cheer Up อย่างออกนอกหน้า และยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่อาจารย์ขอไปปรึกษาเพื่อนอาจารย์ในสำนักวิชาดูก่อนและจะติดต่อกลับมาอีกครั้งคะ....ดีใจมากคะและคืบหน้าอย่างไรจะเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับอาจารย์อีกนะคะ...ขอบคุณคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท