จากความเมตตาของครูที่ให้หนูปรับกิจวัตรประจำวันใหม่ และท่านเนย้ำเรื่องการเขียนบันทึกใน G2K ให้เป็นเวลาไม่ใช่ตามอารมณ์
เช้านี้หนูทำกิจวัตรในตนเองครบพร้อมแล้ว มีเวลาเหลือพอให้ตนเอง หนูหันไปที่ชั้นหนังสือพระหยิบ อุปลมณี ซึ่งเป็นหนังสือที่ครูท่านมอบให้หนูมา ยกมือขึ้นกราบแล้วก็เปิดขึ้นมาอ่าน ซึ่งหน้าที่หนูเปิดเจอเป็นเรื่องของการปฏิบัติตามวินัยของพระ และข้อวัตรต่าง ๆ ว่ามีอานิสงฆ์อย่างไร หนูอ่านด้วยความรู้สึกซาบซึ้งและจดจ่อ คำสอนที่หลวงพ่อชา ท่านเมตตาในหนังสือเล่มนี้ เป็นเหมือนแสงแห่งกำลังใจ ฉายมาให้อิ่มเอม
ทำให้หนูทบทวนในใจตนเอง ถึงการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ที่ผ่านมากระพร่องกระแพร่งเพราะหนูสะเปะสะปะ ไม่มุ่งมั่นตั้งใจในตนเอง ทำตามอามรมณ์ โดยไม่คำนึงถึง กิจวัตรที่ตนตั้งไว้
สองสามวันมานี้ ใจหนูคำนึง ทบทวน ตรวจสอบ หาแนวทาง ปรับปรุงแก้ไข กิจวัตรและการปฏิบัติตามกิจวัตรของตนเองตลอด เหมือนหนูมีหลักในใจตนเอง คือ กิจวัตรประจำวัน ซึ่งการเขียนบันทึกใน G2K หนูขอโอกาสครูเขียนตอน ตีห้าถึงหกโมงเช้า ตอนเที่ยงถึงบ่ายโมง และสามทุ่มถึงสี่ทุ่ม ครูท่านเมตตาบอกว่า ให้ลองดูแล้วยืดหยุ่นได้
หนูสังเกตว่า พอถึงเวลาหนูจะเคลื่อนตนเองมาเริ่มเขียนบันทึก หรือ ไม่ก็ตอบข้อคิดเห็น หลาย ๆ ครั้ง เกิดเวลาไป บ้าง หนูก็ระลึกว่า เกินเวลาแล้ว ให้รู้ตัวว่าใช้เวลาเขียนบันทึกเกินเวลา ซึ่งเป็นความต่อเนื่องของการเขียนบันทึก พอเสร็จ หนูก็วางแล้วก็ไปทำภารกิจอื่นต่อ
ทำให้นึกย้อนถึงก่อนหน้านี้ หนูใช้เวลากับ G2Kนานมาก ๆ ค่ะ แทบจะทั้งวัน เคยนั่งเขียนบันทึก อ่านบันทึก ตอบบันทึกเป็นวัน ๆ ก็มี ทำให้ภารกิจอย่างอื่นของหนูถูกละเลย แล้วบางทีก็เสียงาน
บางวันก็รู้สึกไม่อยากเขียนขึ้นมาเฉย ๆ เพราะโดนความเบื่อหน่ายครอบงำ แล้วตามด้วยความคิดด้านลบ
ตอนนี้หนูเข้าใจแล้วว่า ทำไมครูท่านจึงบอกหนูว่า ให้มีกิจวัตรของตนเองเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เป็นเช่นนี้เอง ปฏิบัติแล้ว ทำตามแล้วใจสบายขึ้นค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ใจหนูไม่สบายเพราะคิดเอาเองว่า ถูกขังด้วยข้อกำหนดทางกิจวัตรที่วางไว้ แต่ตอนนี้ ใจหนูเชื่อมั่นว่า กิจวัตร เป็นวินัย ที่ใช้ในการคุมครอบใจ ให้พร้อมสำหรับการงาน และการภาวนา
กราบขอบพระคุณครูค่ะ
ข้อคิดของหนู สะกิดใจป้ามาก