ใกล้ชิดผู้พิพากษา เป็นผลกับคดี


ผมมีเพื่อนเป็นทั้งอัยการและเป็นทั้งผู้พิพากษาเมื่อรู้ว่าย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดก็มักถามไถ่กันว่าเพื่อนเที่ยวที่แนะนำยังอยู่ป่าว อึดอัดป่าว วัตถุเมาไวหมดกี่ขวดแล้วอะไรทำนองนี้

กลับมาตามคำมั่นครับ

(อังคารที่ 26 มกราคม 2553)

เรื่อง

ใกล้ชิดผู้พิพากษา เป็นผลกับคดี

ในวงการยุติธรรมที่ ทิ้งไม่ได้ ขายไม่ขาด คือเพื่อน นักกฎหมายทุกท่านต่างมีเพื่อนเป็นทนาย อัยการ ผู้พิพากษา ตำรวจ

 

โดยปกติผู้พิพากษาเมื่อต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างจังหวัด มักจะคบหากับเพื่อนต่างอาชีพ หรือเพื่อนที่ไม่ใช้ผู้พิพากษาด้วยกันยาก

จะด้วยกฎระเบียบหรือข้อบังคับต่างๆขององค์กรศาลที่จำเป็นต้องปฏิบัติเพื่อความเหมาะสมก็ดี

หรือจะด้วยสังคมในต่างจังหวัดให้ความเคารพนับถือผู้พิพา่กษาก็ดี

ลองมองจากตัวท่านเองก็ได้ถ้ารู้จักกับผู้พิพากษา แล้วท่านวางตัวอย่างไร

ผู้พิพากษาจึงหาเพื่อนได้ยากในต่างจังหวัด ใครๆก็รู้ว่าท่านนี้คือผู้พิพากษา

ผมมีเพื่อนเป็นทั้งอัยการและเป็นทั้งผู้พิพากษาเมื่อรู้ว่าย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดก็มักถามไถ่กันว่าเพื่อนเที่ยวที่แนะนำยังอยู่ป่าว อึดอัดป่าว วัตถุเมาไวหมดกี่ขวดแล้วอะไรทำนองนี้  

คำตอบที่ได้คือ

โคตรเลยเพื่อน. ฮา...

คิดดูชวนมันคุย มันยังตอบครับผม ครับผม ฮา....

แถมมือมันจับเป้ากางเกงตลอดเวลาเลย ฮา....

สงสัยเมียจะสั่งให้ดูแลอย่างดี  ฮา....

เหตุนี้ ผู้พิพากษาเมื่อย้ายไปอยู่จังหวัดใดก็จะมีเพื่อนเป็นทนายความบ้าง อัยการบ้าง ตำรวจบ้างที่จังหวัดนั้น นั้งกินนั้งซดวัตถุเมาไวได้โดยไม่ต้องมีมือกุมเป้ากางเกง วนเวียนไปมาอยู่ในกลุ่ม  น้อยร้ายจะมีเพื่อนนอกกลุ่ม เว้นแต่จะเป็นเพื่อนสมัยเรียน หากรู้ว่าทำมาหารับประทานอยู่ในจังหวัดด้วย ต่างดีใจยิ่งกว่าได้พบพระเจ้า ว้างเป็นนัดซดวัตถุเมาไว ฮา... หรือนัดไปเดินหาลูกกลมๆที่ตัวเองหวดสุดแรง เพราะสำนึกผิดที่ไม่รู้โกรธกันมาแต่ชาติปางใด ฮา....

ที่นี้เข้าเรื่องเสียที่

ประมาณปี 2529 ผมรับคดีข้อพิืพาทเกี่ยวกับที่ดิน คดีหนึ่งซึ่งต้องไปฟ้องคดีที่ต่างจังหวัด หลังจากรวบรวมหลักฐานเสร็จจึงนำคดีไปฟ้องต่อศาลจังหวัดนั้นมีจำเลยรวม 3 ท่านแต่งตั้งทนายความคนเดียวกัน (อิจฉาท่านทนายจำเลยที่รับค่าทนายมากกว่าผม แฮ..) โจทก์มีคนเดียว เมื่อคู่ความทั้งสาม(จำเลย)ยื่นคำให้การเสร็จก็นัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาทตามขั้นตอนแล้วกำหนดวันนัดสืบพยาน เมื่อถึงวันนัดสืบพยาน ท่านทนายจำเลยก็อ้างว่าป่วย มีใบรับรองการป่วยเสร็จ ศาลก็ให้เลื่อนคดีไปโดยนัดวันกันใหม่ ก็เป็นเช่นนี้อยู่สักห้าหกนัดนับระยะเวลาจากวันที่ฟ้องคดีจนถึงวันที่เลื่อนนัดครั้งสุดท้าย 1 ปีกับ 4 เดือนโดยยังไม่มีการสืบพยานแม้แต่ปากเดียว และทุกครั้งลูกความผมต้องไปศาลด้วยทุกครั้งเพราะเป็นพยานปากแรก

จนท่านลูกความผมบ่นว่า

ที่ไม่จ้างทนายทางนี้เพราะรู้ว่าทนายทางนี้ขี้โรคป่วยบ่อย  ฮา....

เมื่อก่อนเคยให้ฟ้องคดีอื่น ใช้ทนายทางนี้ก็เห็นป่วยอยู่ตั้งสองปี ฮา.....

คราวนี้เลยจ้างทนายกรุงเทพ แต่ทนายทางนี้ก็ยังป่วยเป็นปกติ ฮา.....

หลังจากการเลื่อนคดีในนัดสุดท้ายไปประมาณ ยี่สิบกว่าวัน ท่านลูกความผมแจ้งว่า พยานที่ขายที่ดินให้เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายต้องนอนพักอยู่ที่บ้านไปศาลไม่สะดวกจะทำอย่างไรและอาจอยู่ไม่ถึงวันนัด  

ผมจึงยื่นคำร้องขอให้ท่านผู้พิืพากษาไป “เดินเผชิญสืบ”คิด..งง..

เออ...เดินเผชิญสืบนี้มันเยี่ยงใด....

พวกนักกฎหมายชอบมีคำแปลก.....มนุษย์ชาติใดใช้กัน...ฮา

ว่าจะไม่อธิบายกลัวถูกสาปให้ไปเกิด ชาติหน้ายิ่งพูดกันไม่รู้เรื่อง...ฮา...

 

การเดินเผชิญสืบ

หมายถึงการขอให้ท่านผู้พิพากษาไปทำการสืบพยานนอกศาลนั้นเอง คือไปที่ใดก็ได้ตามที่พยานที่เกี่ยวข้องนั้นอยู่หรือตั้งอยู่ คือให้ไปถามไปดูไปรู้ไปเห็นพยานนั้นจริงๆนอกที่ทำการของศาล เช่นกรณีนี้พยานมาศาลไม่ได้เพราะป่วย

นอกจากนี้ยังใช้ได้กับวัตถุพยานนอกจากบุคคล อย่างเช่น มีข้อพิพาทกันเรื่องก่อสร้างอาคารขวางทางน้ำ ทำให้น้ำท่วม อีกฝ่ายบอกไม่ขวางไม่มีน้ำท่วมต่างมีภาพมายืนยันก็อาจขอให้ออกไปดูให้เห็นด้วยตาก่อนจะตัดสินคดีก็ได้

หวังว่าพอเข้าใจแล้วนะ

ที่นี้กรณีพยานปากนี้มีเหตุสองอย่างคือ

หนึ่ง....ป่วยมากไปศาลไม่ได้แน่นอน

สอง....อาจมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันที่ศาลนัดสืบพยาน

ทำอย่างไรหละที่นี้

ผมทำงี้ครบ ขอศาลไปสองขอ อิ.อิ.

ขอแรกคือขอให้ศาลทำการสืบพยายปากนี้ไว้ก่อนถึงวันนัดคดีเป็นกรณีเร่งด่วน อาจสงสัยว่าแล้วทำได้หรือ

ไม่ต้องสงสัย ทำได้ครับ            ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง นักกฎหมายนิยมเรียกสั้นว่า ป.วิแพ่งมาตรานี้ครับ (เอาตามที่แก้ไขปัจจุบัน)

มาตรา 101  

ถ้าบุคคลใดเกรงว่าพยานหลักฐานซึ่งตนอาจต้องอ้างอิงในภายหน้าจะสูญหายหรือยากแก่การนำมา  หรือถ้าคู่ความฝ่ายใดในคดีเกรงว่าพยานหลักฐานซึ่งตนจำนงจะอ้างอิงจะสูญหายเสียก่อนที่จะนำมาสืบหรือเป็นการยากที่จะนำมาสืบในภายหลัง  บุคคลนั้นหรือคู่ความฝ่ายนั้นอาจยื่นคำขอต่อศาลโดยทำเป็นคำร้องขอหรือคำร้องให้ศาลมีคำสั่งสืบพยานหลักฐานนั้นไว้ทันที (ข้อกฎหมายมียาวกว่านี้ซึ่งมี มาตรา 101/1 ด้วยผมบันทึกให้พอเป็นที่เข้าใจ ถ้าต้องการทราบไปเปิดดูตามที่อ้างอิงได้ครับ) 

 

ขอสองคือขอให้ออกไปเผชิญสืบ ก็ตามที่อธิบายไว้แล้วคือขอตาม ป.วิแพ่งมาตรานี้ครับ 

 มาตรา 102   

ให้ศาลที่พิจารณาคดีเป็นผู้สืบพยานหลักฐานโดยจะสืบในศาลหรือนอกศาล ณ ที่ใด ๆ ก็ได้แล้วแต่ศาลจะสั่งตามที่เห็นสมควรตามความจำเป็นแห่งสภาพของพยานหลักฐานนั้น

พักสายตากันสักกะเดี๋ยวนะ

 

 

มาเข้าเรื่องต่อนะ

ที่นี้เมื่อศาลรับคำร้องแล้วก็ให้จ่าศาลเรียกตัวผมขึ้นไปพบ ก็ตกลงกันว่าผมจะไปรับทนายจำเลยไปด้วยก็นัดหมายเวลากัน มีการจัดรถมารับส่งเป็นที่เรียบร้อย ก็ไปสืบพยานกันที่บ้านของพยานจนเสร็จสิ้น

วิธีสืบพยานก็มีการถามตอบเช่นเดียวกับถามพยานกันในศาล จะต่างกันตรงที่ พยานนอนบนเตียง ท่านผู้พิพากษานั่งอยู่ด้านข้างเตียง ผมกับท่านทนายจำเลยยืนอยู่ปลายเตียง เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีด นั่งที่โต๊ะ ซึ่งลูกชายของพยานจัดมาให้   คำถามที่ใช้ก็ตรงไปตรงมาคืออยากทราบอะไรก็ตามนั้น ไม่มีการขี้ม้าเลียบค่าย นับว่าเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในอาชีพที่ทั้งผมและท่านทนายจำเลยไม่ต้องให้ศาลเตือนว่าถามให้เข้าประเด็น

หลังจากนั้นอีก สิบ วัน พยานปากนี้ท่านก็จากไปอย่างสงบด้วยวัย 68 ปี ผม ท่านผู้พิพากษา ท่านทนายจำเลยก็ไปคารวะท่านพยานปากนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมไม่ได้รู้จักกับพยานปากนี้มาก่อนและทั้งท่านผู้พิพากษาและทนายจำเลยเราต่างหันมามองกันเข้าใจความรู้สึกของกันดีว่าคิดอย่างไร (ทนายถึงขึ้นสวรรค์ได้น้อยคน)

พักซับน้ำตากันก่อนนะครับ (เศร้า...)

 

มาตามต่อนะครับ

เชื่อหรือไม่ว่าหลังจากสืบพยานปากนี้ไปแล้ว          ผมยังต้องเลื่อนคดีไปอีก เจ็ดแปดเดือน   เหตุเพราะท่านทนายจำเลยป่วย    ผมยังล้อเล่นฝากเสมียนทนายที่นำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นศาลไปถามว่า      ถ้าป่วยเป็นหวัดเจ็บคอก็ไม่ค้านเพราะพูดไม่ได้              แต่ถ้าเป็นมะเร็งต้องค้านเพราะเกรงจะทำหน้าที่ไม่ทัน ....ฮา  (ท่านผู้พิพากษาได้ยินยังแอบยิ้ม)

เมื่อเริ่มสืบพยานกันอย่างจริงจังภายหลังจากท่านผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนท่านเดิมย้ายไปแล้วได้ประมาณ 15 ปากใช้เวลาอีกประมาณหกเดือน พยานผมหลังจากสืบเสร็จก็สิ้นอายุขัยไปด้วยวัย 55 กับ 60 กับ 72 รวม 3 ท่าน (เศร้าอีก) ฝ่ายโจทก์ก็หมดพยาน

เริ่มนัดสืบพยานจำเลย ซึ่งอ้างพยานไว้ 22 ปาก

วันนัด ท่านทนายจำเลยป่วยอีก  ฮา.......(กระดูกแข็งจัง รายนี้ไม่ยักสิ้นอายุขัย) นัดถัดมาก็สืบพยานฝ่ายจำเลยไปได้อีก 7 ปากใช้เวลาไป สองนัด ประมาณ สองเดือนเศษ นัดถัดมาศาลนัดไว้อีกสามนัดห่างกันนัดละหนึ่งเดือนกำชับจำเลยว่าให้นำพยานมาสืบให้เสร็จทุกปาก

ถึงวันนัดท่านทนายจำเลยป่วยอีก...ฮา....

คราวนี้ให้เสมียนทนายมายื่นคำร้องพร้อมผลการตรวจรักษาของแพทย์กำหนดให้พัก สี่เดือนป่วยด้วยโรคตับ ศาลให้เลื่อนแต่กำชับจำเลยว่านัดหน้า(คืออีกสี่เดือน)หากทนายจำเลยไม่อาจมาศาลได้ให้จำเลยจัดหาทนายมาใหม่ศาลจะไม่ให้เลื่อนคดีเพราะทนายจำเลยป่วยอีก

ที่ศาลจดรายงานทำนองนี้เพราะคราวนี้ผมค้าน

(จริงๆแล้วก็ค้านมาทุกนัดที่เลื่อน)

ผมแถลงศาลว่าท่านทนายจำเลยป่วยคราวนี้เห็นทีจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อีกต่อไป เพราะพยานฝ่ายโจทก์สามท่านที่มาศาลไม่แสดงอาการป่วยเลยยังสิ้นอายุขัย ฮา.....(ศาลฟังแล้วหัวเราะ) ขอให้จำเลยแต่งทนายอื่นเข้ามาแทนก่อน

เห็นยังครับผมใช้วาจาจูงใจไม่ให้ศาลอนุญาตแล้วก็ไม่สำเร็จ เลื่อนคดีได้อยู่ดี เหตุก็เป็นเช่นนี้มาตลอดผมทำคดีนี้มาตั้งแต่กลางปี 2529 ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีเอาปลายปี 2538 พยานฝ่ายโจทก์สิ้นอายุขัยไป 4 ท่าน พยานฝ่ายจำเลยสิ้นอายุขัยไป 1 ท่าน ท่านผู้พิพากษาย้ายไปตามวาระ สอง ท่าน

ทนายโจทก์กับท่านทนายจำเลยยังไม่สิ้นอายุขัย ฮา....

เหตุที่ีคดีนี้ฝ่ายจำเลยได้เลื่อนคดีทุกครั้งที่ขอเลื่อนคดี ก็เพราะท่านทนายจำเลยใกล้ชิดกับท่านผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ทุกครั้งที่ผมเดินทางไปหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจากศาลผมพักอยู่ที่จังหวัดนี้ต่ออีก 1 วัน ได้ไปกินไปซดวัตถุเมาไวที่ร้านในจังหวัด ซึ่งก็มีไม่มากร้านนัก     ได้พบเจอกันทั้งท่านทนายจำเลยและท่านผู้พิพากษา ยังมีการเดินข้ามโต๊ะกันไปมาจนท่านผู้พิพากษากับผมก็ถือว่าเป็นเพื่อนใกล้ชิดกันอีกคน สรุปแล้วด้วยความใกล้ชิดนี้เองทำให้การขอเลื่อนคดีเป็นผลทุกครั้ง

ส่วนผลคดีไม่บอกครับ อิ.อิ.

ขออนุญาตไว้ต่อคราวหน้านะครับ เพราะในระหว่างสืบพยานของทั้งสองฝ่ายมีอะไรต่อมิอะไรที่ได้ฮา...และทำให้เข็มขัดของท่านสั้นได้หลายครั้ง

รอต่อภาค สองนะครับ  

แล้วท่านจะทราบว่า "ยุติธรรมคือศาสตร์" จริงๆๆ 

มีคำถามให้ท่านตอบอยู่ในความเห็นที่  6 กับ 7 ลองไปตอบกันดูครับ

ปล.

บางท่านที่ยังไม่อ่านเรื่อง ผัวเมีย ตีกัน ฉันคือเทวดา  ผัวเมีย ดีกัน ฉันคือ.....อาจขาดอรรถรสในการตอบคำถาม จะกลับไปอ่านคำถามคำตอบท้ายบันทึกก่อนก็จะได้อรรถรสในการตอบคำถามยิ่งขึ้นครับ 

เรื่องเล่ากับคำถามของบทความนี้ผมเอามาไว้ต่อท้ายนี้ให้แล้วครับ

ลองตอบดูนะครับ พรุ่งนี้จะเฉลยให้ครับ

มีเรื่องจะเล่าสั้นๆ (อีกแล้ว….)

แต่กราบขออภัยไว้ก่อนนิ...เพราะคราวนี้โดนหลายอาชีพ. ฮา....

มีหนุ่มรูปงามนายหนึ่งบ้านอยู่แถวบางกะปิ กทม.กำลังเรียน ป.โท แถวๆนั้นแหละ อาชีพหลักทำเกี่ยวกับการเกษตร ก่อนจะเอาตำรามาอ่านจะกราบตำราทุกครั้ง  ใจมีธรรม  ไม่โกรธ ไม่ว่ากล่าวผู้ใด แต่เป็นคนเงียบขรึม แอบมีใจรักสาวสวยในขณะที่ไปพบท่านที่ปรึกษา

( เป็นถึงอดีตผู้นำคนไทยทุกสี่รู้จักถ้าท่านคิดว่าเป็นใครจะเอากุหลาบไปให้ก็ไม่ว่ากัน  แต่ผมหาได้หมายถึงบุคคลที่ท่านคิดไม่ ฮา.....)

สาวสวยนางนี้อยู่แถวบางแค ฝังธนบุรี มีอาชีพเป็นครู งามทั้งร่างกาย งามทั้งจิตใจ และงามทั้งวาจา  กำลังเรียน ป.โท และมีท่านที่ปรึกษาท่านเดียวกัน ก็แอบชอบอยู่เช่นกัน

ตลอดเวลาที่เรียน ป.โท จนจบไม่มีโอกาสพูดจากัน ใจที่รักใคร่กันมากต่างคิดว่า “ใช้เธอคนนี้ ”ไม่สมรักสมรสกัน ชาตินี้จะบวช

เลยส่ง SMS.นัดพบกันที่ทางม้าลายหน้า สน.บางรัก ขณะข้ามถนน ไม่ระวัง (ความรักเข้าตานะ)  รถเมล์เล็กขับมาชนทั้งคู่เสียชีวิตทันที

ความทราบถึงท่านเทวดาเลยลงมารับตัวทั้งคู่ไปสวรรค์ (อีกแล้ว)

เพื่อเป็นเทวดาและเป็นนางฟ้า แต่ต้องแยกกันอยู่

ทั้งคู่เศร้าซึม ท่านเทวดาสงสารเลยจัดให้พบกัน

นางฟ้าถาม

ตอนเรียน ป.โท ทำไมไม่คุยด้วย ทำเป็นเงียบขรึมอยู่ได้     รู้ไหมสตรีพูดก่อนไม่งามไม่รักหรือ

 เทวดาตอบ

รักตั้งแต่แรกพบ อยากพูดแต่พูดไม่ได้เพราะเป็นใบ้...ฮา......

เมื่อเข้าใจกัน ความรักสุกงอมถึงที่สุด ขอให้ท่านเทวดาจัดงานแต่งงาน         ท่านเทวดารับปาก แต่ให้รอก่อน

ทั้งคู่รอมา จนเข้าปีที่ 8 เห็นทีท่าว่าจะลืมเลยทวงถาม

ท่านเทวดาบอกไม่ลืม ให้รอก่อน

อยู่ต่อมา อีก 7 ปี ท่านเทวดาก็เรียกทั้งคู่มาจัดแต่งงานให้

ในพิธีเชิญเทวดาบาทหลวงมาทำพิธีให้  ก็ได้แต่งงานสมปรารถนา

เมื่ออยู่มา 5  ปี ทั้งคู่มีความเห็นต่างกัน เพราะจบ ป.โท มาด้วยกัน (เออ.....เศร้าเรียนมากรักยาก อิ.อิ.)

เพื่อรักษาอดีตที่หวานชื่นและสวยงามไว้ในใจ

ตัดสินใจหย่ากัน ไปบอกท่านเทวดา

ท่านเทวดาตกใจ

....ร้องขึ้นว่า ตายละต้องใช้ทนาย...ฮา......

.....คงจะต้องรออีกนานมาก ....ฮา....

.....รอบาทหลวงยังใช้เวลา 15 ปีเลย ...ฮา......

ขอให้มีความสุขทุกท่านครับ

(คุณครูทุกท่านอย่าโกรธศิษย์คนนี้นะครับ ....กราบขออภัยมา ณ ที่นี้)  

ท่านที่อ่านเรื่องสั้นจบแล้วใครทราบบ้างว่า

1.สาวสวย ที่เรียน ป.โท ชื่ออะไร

2.ทั้งคู่ต้องรอทนายนานเท่าไรถึงจะได้หย่ากัน

อิ.อิ. ใครตอบถูกจะสมหวังในสิ่งที่รักตลอดกาล

ผมมีคำเฉลยอยู่ในความเห็นที่ 22 ครับ

หมายเลขบันทึก: 331066เขียนเมื่อ 26 มกราคม 2010 05:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (46)

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณทนายฯ

อิ อิ อยากจะใกล้ชิดผู้พิพากษาเหมือนกันค่ะ แต่ผู้พิฯ จะยอมหรือคะ หุ หุ

มีรุ่นพี่อ่านหนังสือมาด้วยกัน พอฮีสอบได้เป็นผู้พิฯ ฮีก็ต้องทำตัวแบบ เสมือนตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลยนิคะ แบบว่าเค้าบอกมาว่า

เป็นท่านผู้พิฯ ต้องพยายาม วางตัวดีๆ อย่าให้ความสนิทกับใครมากไป .. ใช่ไหมคะ

ติดตามอ่านต่อยู่คะ

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า

คอยติดตามอ่านค่ะ

cheer...

  • สวัสดีค่ะ 
  • แวะมาทักทายและมาเป็นกำลังใจให้กันค่ะ สบายดีนะค่ะ
  • ขอให้มีความสุขกับสิ่งดี ๆ ในทุกวันค่ะ
  • ฮา มากๆ

    ไว้มาอ่านต่อค่ะ

    มีเรื่องจะเล่าสั้นๆ (อีกแล้ว….)

    แต่กราบขออภัยไว้ก่อนนิ...เพราะคราวนี้โดนหลายอาชีพ. ฮา....

    มีหนุ่มรูปงามนายหนึ่งบ้านอยู่แถวบางกะปิ กทม.กำลังเรียน ป.โท แถวๆนั้นแหละ อาชีพหลักทำเกี่ยวกับการเกษตร ก่อนจะเอาตำรามาอ่านจะกราบตำราทุกครั้ง  ใจมีธรรม  ไม่โกรธ ไม่ว่ากล่าวผู้ใด แต่เป็นคนเงียบขรึม แอบมีใจรักสาวสวยในขณะที่ไปพบท่านที่ปรึกษา

    ( เป็นถึงอดีตผู้นำคนไทยทุกสี่รู้จักถ้าท่านคิดว่าเป็นใครจะเอากุหลาบไปให้ก็ไม่ว่ากัน  แต่ผมหาได้หมายถึงบุคคลที่ท่านคิด ฮา.....)

    สาวสวยนางนี้อยู่แถวบางแค ฝังธนบุรี มีอาชีพเป็นครู งามทั้งร่างกาย งามทั้งจิตใจ และงามทั้งวาจา  กำลังเรียน ป.โท และมีท่านที่ปรึกษาท่านเดียวกัน ก็แอบชอบอยู่เช่นกัน

    ตลอดเวลาที่เรียน ป.โท จนจบไม่มีโอกาสพูดจากัน ใจที่รักใคร่กันมากต่างคิดว่า “ใช้เธอคนนี้ ”ไม่สมรักสมรสกัน ชาตินี้จะบวช

    เลยส่ง SMS.นัดพบกันที่ทางม้าลายหน้า สน.บางรัก ขณะข้ามถนน ไม่ระวัง (ความรักเข้าตานะ)  รถเมล์เล็กขับมาชนทั้งคู่เสียชีวิตทันที

    ความทราบถึงท่านเทวดาเลยลงมารับตัวทั้งคู่ไปสวรรค์ (อีกแล้ว)

    เพื่อเป็นเทวดาและเป็นนางฟ้า แต่ต้องแยกกันอยู่

    ทั้งคู่เศร้าซึม ท่านเทวดาสงสารเลยจัดให้พบกัน

    นางฟ้าถาม

    ตอนเรียน ป.โท ทำไมไม่คุยด้วย ทำเป็นเงียบขรึมอยู่ได้     รู้ไหมสตรีพูดก่อนไม่งามไม่รักหรือ

     เทวดาตอบ

    รักตั้งแต่แรกพบ อยากพูดแต่พูดไม่ได้เพราะเป็นใบ้...ฮา......

    เมื่อเข้าใจกัน ความรักสุกงอมถึงที่สุด ขอให้ท่านเทวดาจัดงานแต่งงาน         ท่านเทวดารับปาก แต่ให้รอก่อน

    ทั้งคู่รอมา จนเข้าปีที่ 8 เห็นทีท่าว่าจะลืมเลยทวงถาม

    ท่านเทวดาบอกไม่ลืม ให้รอก่อน

    อยู่ต่อมา อีก 7 ปี ท่านเทวดาก็เรียกทั้งคู่มาจัดแต่งงานให้

    ในพิธีเชิญเทวดาบาทหลวงมาทำพิธีให้  ก็ได้แต่งงานสมปรารถนา

    เมื่ออยู่มา 5  ปี ทั้งคู่มีความเห็นต่างกัน เพราะจบ ป.โท มาด้วยกัน (เออ.....เศร้าเรียนมากรักยาก อิ.อิ.)

    เพื่อรักษาอดีตที่หวานชื่นและสวยงามไว้ในใจ

    ตัดสินใจหย่ากัน ไปบอกท่านเทวดา

    ท่านเทวดาตกใจ

    ....ร้องขึ้นว่า ตายละต้องใช้ทนาย...ฮา......

    .....คงจะต้องรออีกนานมาก ....ฮา....

    .....รอบาทหลวงยังใช้เวลา 15 ปีเลย ...ฮา......

    ขอให้มีความสุขทุกท่านครับ

    (คุณครูทุกท่านอย่าโกรธศิษย์คนนี้นะครับ ....กราบขออภัยมา ณ ที่นี้)  

    ท่านที่อ่านเรื่องสั้นจบแล้วใครทราบบ้างว่า

    1.สาวสวย ที่เรียน ป.โท ชื่ออะไร

    2.ทั้งคู่ต้องรอทนายนานเท่าไรถึงจะได้หย่ากัน

    อิ.อิ. ใครตอบถูกจะสมหวังในสิ่งที่รักตลอดกาล

    สวัสดีครับคุณปูคนน้ำใจงาม

    ถูกต้องเลยครับ คุณปูท่านผู้พิพากษาในปีแรกๆจะอึดอัดกับการวางตัวมาก

    ผมมีเพื่อนย้ายไปลงที่ศาลจังหวัดพังงาใหม่ๆ สมัยนั้น

    ผมเห็นว่าท่านย้ายไปใหม่บ้านพัก ครัวไม่สะดวก ชำรุดไม่สะดวกที่จะใช้งาน

    เลยจัดการให้ในฐานะเพื่อน ก่อนผมกลับกรุงเทพ ก็ฝากคุณแม่เรื่องอาหารการกินไว้

    จนกว่าจะสะดวกด้วยตัวท่านเอง

    เชื่อไหมยากกินส้มตำครกไม่มียังไม่กล้ายืมคุณแม่ผม ต้องโทรมาบอกผม ฮา...

    ขอขอบคุณนะครับที่ติดตามให้กำลังใจ

    ท่านอื่นผมขอเวลาทำภาระกิจสัก ชั่วโมง แล้วจะกลับมาตอบความเห็นครับ

    สวัสดีครับ คุณกรรณิกา (ไม่ทราบอ่านชื่อถูกหรือเปล่าครับ)

    ยินดีและขอขอบคุณครับที่แวะมาอ่านบทความ

    วันหน้าจะขอแวะไปเยียมบ้านนะครับ

    ถ้าเข้ามาอีกครั้งลองตอบคำถ้าดูนะครับ อยู่ใน ความเห็นที่ 6 กับ 7

    แต่ถ้ายังไม่เคยอ่านคำถามในเรื่อง ผัวเมีย ตี กันฉันคือเทวดา

    ลองแวะไปอ่านทั้งคำถามคคำตอบ อยู่ตอนท้ายบทเสียก่อน

    ก็จะได้อรรถรสในการตอบคำถามเรื่องนี้ครับ

    ขอบคุณนะครับ

    สวัสดีครับคุณครูจิ๋ว

    คุณครูเปลี่ยนรูปหรือเปล่าครับ

    เห็นส่วยขึ้นเป็นกอง (รูป นะครับ อิ.อิ)

    ผมหลังจากบันทึกเรื่องแล้วก็ต้องไปทำภารกิจต่อ เลยไม่ได้สนทนาด้วย

    ขอขอบพระคุณที่แวะมาให้กำลังใจแต่เช้าครับ

    สวัสดีครับคุณบุษรา

    ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมแวะไปบ้านคุณหลายรอบแล้วแต่ไม่ได้ทักทายกัน

    วันหน้าจะแวะไปใหม่ครับ

    ขอบพระคุณในกำลังใจที่แวะมามอบให้แต่เช้าครับ

    สวัสดีครับคุณอิงคนสวยหน้าตาดี

    แวะมาก่อนอาหารมื้อกลางวันหรือครับ

    ลองมาตอบคำถามในความเห็นที่ 6 กับ 7 อีกทีครับ

    บางที่อาจได้เครื่องซักผ้าดีๆไปสักเครื่อง อิ.อิ.

    ขอขอบพระคุณที่แวะมาให้กำลังใจเสมอมาครับ

    ชื่อนางฟ้า รึเปล่าคะ อิ อิ เดาเอาค่ะ ยากๆจังข้อนี้

    ส่วนข้อสอง รอแล้ว รอเล่า เฝ้าแต่รอ ขนาดรอบาทหลวงยังตั้ง ๑๕ ปี รอ จนเบื่อๆ เหงาๆ  ก็หาเรื่องชวนทะเลาะกันอีก ครานี้ก็ได้โซ๋ทองคล้องใจกันฮา สุดท้ายก็กลับไปคืนดี และรักกันเหมือนเดิม ไม่ได้หย่าหรอก เฮอๆ

    (แบบว่า คห.ส่วนตัวไม่อยากเห็นคู่ไหนต้องหย่ากัน ๕ ๕ )

     

    สวัสดีครับคุณปูคนน้ำใจงาม

    ผมไม่ทราบคู่นี้จะหย่ากันได้หรือไม่

    ถ้าทนายที่ได้ขึ้นไปทำหน้าที่เป็นผม

    ก็จะประวิงไว้จนกว่าแน่ใจว่าเขาไม่จ่ายค่าทนายหละครับ

    ผมก็ไม่อยากเห็นคู่ไหนต้องหย่ากัน...น่าเศร้าจะตาย 

    คนอยู่ใกล้ก็ต้องเศร้าไปด้วย เพราะจะโทร.ขอ ดีเจ.เปิดเพลงเศร้าอีกนาน...ฮา.. 

    คำเฉลยอดใจรอสองวันครับ

    ผมจะลองไปสืบให้ว่ามีทนายท่านใดสิ้นอายุขัยมั่ง...ฮา..อาจมีก็ได้นะ อิ.อิ.

    แวะมาเยี่ยมครับท่าน ^^

    อาชีพนักกฎหมาย เป็นอาชีพที่น่าสงสารนะผมว่า ในเรื่องเพื่อนนี้ละครับ...

    เพราะทำอะไรโจ่งแจ้งไม่ได้ คบใครก็ต้องระมัดระวัง สังสรรค์แบบบ้านๆก็ไม่ได้

    เพราะต้องวางตัวเหมาะสมกับตำแหน่ง แล้วคนก็จะมองเรื่องความเอนเอียงซะอีก อยากจะบ้าแทนครับ

    ปล.ใช้คำว่า "ฟุตบอลสามก๊ก" มันจะดีมะท่าน ประมาณว่า >>> "Trigoal ฟุตบอลสามก๊ก ฝีมือคนไทย" แลดูดาดๆเนอะ T_T

    สวัสดีครับท่านเอิร์ท

    ขอบคุณครับที่แวะมา เมื่อคืนท่านมาดึกนะครับ

    อาชีพนี้กลัวความเหงามากครับ ไม่รู้ว่าทำไม

    ความจริงดูดีๆ ความเหงานี้น่ารักออก

    ที่ไม่ยากเหงาอาจเพราะวัย ดูอาการคนวัยนี้เหงามันดูไม่ออก

    ถ้าผมเหงามันน่าจะดูทุเรศบวกสงสารซึ่งแปลว่า น่าสังเวช เอาครับ

    อาชีพนักกฎหมาย ทนายความ กับอัยการ นั้นกรอบวางไว้ไม่ถึงกับอึดอัด

    แต่ผู้พิพากษาซิดูน่าจะอึดอัดเอามากๆ

    พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์

    พระบิดาแห่งกฎหมายไทย

    ถึงได้ให้คติเตือนใจนักกฎหมายโดยเฉพาะผู้พิพากษาไว้ว่า 

    เอ็งกินเหล้า เมายา ไม่ว่าหรอก

    แต่อย่าออก นอกทางไป ให้เสียผล

    จงอย่ากิน สินบาท คาดสินบน

    เรามันชน ชั่นปัญญา ตุลาการ 

    ผมเขียนบทความนี้เพื่อสังคมจะได้เข้าใจ นักกฎหมาย

    โดยเฉพาะผู้พิพากษาได้มากขึ้น

    ยิ่งสภาพการเมืองปัจจุบัน มีบางคนทำให้สังคมมองตุลาการผิดไป

    ผมไม่ใช่ตุลาการเลยชี้แจงได้ในรูปแบบของผม

    ผมสงสารประเทศนี้ที่บางคนกำลังจะทำให้อำนาจตุลาการเป็นวิกฤติศรัทธา

    หากจะรอให้ผู้พิพากษาออกชี้แจงอาจสายไป

    ง่า....สวัสดีค่ะคุณทนาย

    แบบนี้เรียกอู้งานป่าวคร๊า อิอิ

    บุญรักษาค่ะ ^_^

    สวัสดีครับคุณโซล (วัยสาวสะพรั่ง)

    แบบนี้เรียกว่าลัทธิเอาอย่างครับ

    ก็เอาแบบมาจากสาววัยสะพรั่งแถวนี้หละ อิ.อิ.

    ไม่ตอบคำถาม ตามความเห็นที่ 6กับ 7 หรือครับพรุ่งนี้เฉลยแล้วนะ

    ตอบถูกจะสมหวังในสิ่งที่รักตลอดกาลไม่ต้องนั่งรอรถไฟ แฮ....

    สวัสดีครับคุณครูอ้อยคนงาม

    ศิษย์พ่อขุน จักมั่นคงดัง ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

    ขอขอบพระคุณที่แวะมาครับ

    เป็นแรงใจให้เสมอครับ

    สวัสดีครับชาว G2K ทุกท่าน

    คำเฉลยครับ

    ผมถามคำถามว่า

    ท่านที่อ่านเรื่องสั้นจบแล้วใครทราบบ้างว่า

    1.สาวสวย ที่เรียน ป.โท ชื่ออะไร

    2.ทั้งคู่ต้องรอทนายนานเท่าไรถึงจะได้หย่ากัน

    คำเฉลยข้อ 1. คำตอบคือ ชื่อ นางนี้

    เหตุผลที่ชื่อ "นางนี้"เพราะผมเริ่มเล่าเรื่องว่า

    หนุ่มรูปงามนายหนึ่งบ้านอยู่แถวบางกะปิ กทม.กำลังเรียน ป.โท .....

    แล้วเล่าต่อถึงว่า

    สาวสวยนางนี้อยู่แถวบางแค ฝังธนบุรี มีอาชีพเป็นครู งามทั้งร่างกาย งามทั้งจิตใจ และงามทั้งวาจา  กำลังเรียน ป.โท

    ผมไม่ถามหนุ่มรูปงามชื่ออะไร เพราะง่ายตอบได้เลยว่าชื่อ" นายหนึ่ง"

    แต่กลับถามว่า สาวสวยที่เรียน ป.โท ชื่ออะไร เพราะอาจคาดไม่ถึง

    คำตอบก็แบบเดียวกับหนุ่มรูปงาม เพราะบอกไว้แล้วว่า สาวสวย...นางนี้

    คำเฉลยข้อ 2. คำตอบคือ สามารถหย่าได้ทันทีครับ

    เหตุผลที่บอกว่าหย่าได้ทันทีเพราะผมเล่าเรื่องสั้นไว้เรื่องหนึ่งในบันทึกเรื่อง

    ผัวเมีย ตีกัน ฉันคือเทวดา ผัวเมีย ดีกัน ฉันคือ......

    ซึ่งเล่าไว้ก่อนเรื่องนี้ว่าทนายได้ขึ้นสวรรค์ไปเป็นเทวดาหนึ่งคน

    หากท่านได้อ่านก็จะคิดตามเรื่องดังกล่าว เพราะผมเล่าว่า 

    เทวดาผู้ดูแลตอบว่า ที่เห็นวิมานเล็กๆนั้นเป็นของผู้ทรงศีลในศาสนาต่างๆ

    เหตุที่ต้องสร้างให้เล็กเพราะมีผู้ทรงศีลเยอะมากจะขึ้นสวรรค์มาทุกวัน

    แต่ของท่านเทวดาทนายต้องสร้างให้ใหญ่

    เพราะตั้งแต่ก่อตั้งสวรรค์มา

    ก็มีเพียงท่านทนายเทวดาท่านเดียวที่ได้ขึ้นสวรรค์มา

    เพราะผู้ที่อ่านเรื่องนี้ก็จะคิดตามว่าทนายขึ้นสวรรค์ได้ยาก 

    และในเรื่องนี้ผมยังเล่าไว้ว่า

    ท่านเทวดาตกใจ

    ....ร้องขึ้นว่า ตายละต้องใช้ทนาย...ฮา......

    .....คงจะต้องรออีกนานมาก ....ฮา....

    .....รอบาทหลวงยังใช้เวลา 15 ปีเลย ...ฮา......

    ยิ่งเป็นการชี้นำความคิดไปที่ทนายกว่าจะได้ขึ้นสวรรค์คงนาน

    แถมมีบาทหลวงนำร่องไว้ว่าต้องรอ 15 ปี เลยคิดไปไกลเลย...ฮา

    คราวนี้คิดออกหรือยังครับว่า มีทนายขึ้นสวรรค์มาแล้วคนหนึ่ง

    แต่ที่ท่านเทวดาตกใจร้องขึ้นว่าต้องใช้ทนายนะเพราะ

    ตั้งแต่ก่อตั้งสวรรค์มา มีทนายคนเดียว ได้ขึ้นสวรรค์เลย ลืม...ฮา....

    บางท่านอาจแย้งว่าในเรื่องก่อนบอกว่ามีผู้ทรงศีลขึ้นสวรรค์ทุกวัน

    ผมเล่าเรื่องนี้ผมใช้คำว่าบาทหลวง ผมไม่ได้ใช้คำว่าผู้ทรงศีล อิ.อิ. 

    ปล.

    เรื่องที่เล่านี้เพื่อผ่อนคลายเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาว่ากล่าวหรือลบหลู่ผู้ใดทั้งสิ้น

    หากทำให้ท่านผู้ใดโกรธเคือง ก็กราบขออภัยมา ณ ที่นี้

    สวัสดีค่ะท่านพี่ทนาย

    • น้องซิลเวียมาอ่านช้าไปหน่อย..แต่ดีกว่าไม่มา เพราะได้ความรู้เพียบเลยค่ะ
    • จริงๆผู้พิพากษาคงอยากจะคบหากับคนอื่น อยากมีสังคมเหมือนกันแต่ด้วยหน้าที่และความเหมาะสมแล้ว ทำให้ต้องวางตัวอย่างนั้น..ไม่รู้ว่าท่านเหล่านั้นทุกข์ใจบ้างไหม..คือน้องซิลเวียแค่สงสัยค่ะ
    • เรื่องที่อ่านวันนี้สนุกและได้รู้อะไรมากมายค่ะ..จะติดตามอ่านเรื่อยๆ ส่วนคำถามตอบได้ก็จะตอบ ..ไม่ต้องมีรางวัลก็ได้ ฮา..
    • ขอบคุณค่ะ

    ฮาาาาาา มาไม่ทันหาคำตอบ ก็เจอเฉลยเลยค่ะ

    ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้ดีมากเลย

    คนแก่มัวงุ่มง่ามอยู่ เขาไปกันยันวิมานแล้ว...เพิ่งมา เฮ้อ!! มาช่วยเก็บร้านค่ะท่านทนาย...

    โห เป็นทนายนี่ ปวดหมองนะคะ ต้องคิดหลายชั้น หลายเชิง หลายตลบ ขนาดคำถามยัง

    ต้องสาวยาวไปต้นตอ ต้นเรื่องเดิม ไผสิจำได้ ไปยังคนนั้นที พัวพันไปคนโน้นที นัวเนีย ยั้วเยียตัวละครเยอะจัง

    มาชวนไปชม เล พักหมอง ค่ะ ... ต่างกันแค่สบู่จริงรึคะ http://gotoknow.org/blog/lanandaman/239854

     

    • สวัสดีครับคุณน้องซิลเวีย

    มาตอบคำถามไม่ทันเลยไม่ได้รางวัล อิ.อิ.

    ถ้ารู้จักมักคุ้นกับท่านผู้พิพากษาลองถามท่านดูครับว่าทุกข์ใจบ้างไหม

    แต่เพื่อนผมเจอกันมักจะชวนไปนั่งดูขวด

    แล้วมาพิจารณาว่า ต้องทำไงให้น้ำในขวดมันหมด ฮา...

    ขอบคุณที่แวะมาครับ

    • สวัสดีครับคุณพัดชา

    ขอบคุณที่แวะมาดูคำตอบโดยไม่ต้องตอบคำถาม อิ.อิ.

    อย่างนี้ได้รับรางวัลบู้บี้ เพราะมีป้าเหมียวตามหลังมา ฮา....

    • สวัสดีครับป้าเหมียว

    สงสัยป้าเหมียวมัวไปช่วยบางคนเก็บถังน้ำมหาหมัก แฮ... 

    เลยมาไม่ทันไปเที่ยววิมาน คนวัยนี้ต้องตื่นเช้าหน่อย ฮา....

    แต่ก็ขอบคุณครับที่ยังมีน้ำใจมาช่วยเก็บร้าน

    ป้าเหมียวสบายดีนะครับไม่เห็นหลายวัน

    สวัสดีครับคุณปูคนน้ำใจงาม

    ขอบคุณที่แวะมาบ่นและส่งข่าว.....อิ.อิ.เดี๋ยวจะแวะไปพักหมองตามชวนครับ

    ตั้งคำถามใช้หมองไปเยอะต้องตามไปพักสักกะหน่อย

    ขอบคุณครับ

    สนุก ...ฮา...ลีลาเล่าดี...สำนวนเพียบ....ติดใจต้องตามอ่าน

    สวัสดีครับคุณครูปริมปราง

    เลยกลายเป็นแฟนพันธ์แท้ไปเลย อิ.อิ.

    ลีลาและสำนวนก็ใช้ได้แต่ในศาลเท่านั้นหละครับ

    พอต่อหน้าสาวสาว แป้ก ครับ แฮ...(ที่บ้านห้าม)

    สวัสดีค่ะ

    เคยได้ยินคนรู้จักที่เป็นผู้พิพากษาบอกเหมือนกันค่ะว่า เวลาไปไหนไม่ว่านอกเวลางานหรือในเวลางานต้องวางตัวให้ดี

    จะสนิทสนมกับใครมากเป็นพิเศษก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้เวลาตัดสินคดีอาจจะเกิดความขัดข้องใจได้ค่ะ

    ขอบคุณเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ

    สวัสดีครับคุณอรคนน่ารัก

    ถามจริงๆเถอะ เจ้าน้องหนูในภาพใครกันนะ น่ารักจัง

     

    ผู้พิพากษาหากไปอยู่ต่างจังหวัดที่มีเพื่อนสมัยเรียนและเป็นเพื่อนสนิท

    จะดีใจยิ่งกว่าพบทางไปสวรรค์เสียอีก เพราะกฎข้อบังคับแท้ๆเลยต้องทนเหงา

    ขอบคุณที่แวะมาครับ

    สวัสดีค่ะ

    • แวะมาช้า  เลยรู้...คำเฉลย  ..เซ็งจัง..
    • อย่างนี้เขาเรียกว่าไม่เลงจริง  รอกันก่อน
    • เพิ่งไปอ่านกฎหมายเรื่องการหย่ามาหยกๆๆ
    • มาพบเรื่องนี้  เลยตอบไม่ทัน 
    • สงสัยต้องเปิดบล๊อกนี้รอไว้ก่อนไปอื่น
    • ช้าๆๆไม่ได้พร้าเล่มงามสักที
    • จะเอารางวัล  "รักสมหวังตลอดกาล" ไปใช้ในสวรรค์(หรือไม่ใช่สวรรค์) สักหน่อย
    • เรื่องหน้าจะถามว่าอะไร  ถามไว้ก่อนได้มั๊ย
    • บอกรางวัลไว้ด้วยนะคะ..ต้องดูรางวัลก่อนตอบ
    • ทนายความเขาแอบซ่อน"นิสัยส่วนตัว"ไว้เสียสนิท
    • คนภายนอกนึกว่าเป็นคน..................ให้ทายดีกว่า
    • อ่านในบันทึกแล้วสนุกชวนติดตาม
    • ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้เพิ่มขึ้น 
    • ถ้าอ่านมาก...คงได้สมญา ..เป็นครูหมอ.. (ความ)55555555555
    • ไปก่อนนะคะ ........อิๆๆ

                   มอนิ่งยามเช้า - Hi5 กราฟฟิคสำหรับคอมเมนต์ 

    สวัสดีค่ะคุณชาย

    มาเก็บตก....จบแล้วค่ะ...ฮาๆ เอิ้กๆ

    ถ้างั้นก็  หลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ละกันนะคะ

    สวัสดีครับคุณครูดาวเรือง

    อิ.อิ.....เลงจริงเค้าต้องไม่แอบดูคำเฉลยก่อนตอบ..ฮา...

    ประหยัดรางวัลไปหนึ่งรางวัล เก็บไว้ใช้เอง อิ.อิ.

    แต่ตามกฎหมายไม่มีผู้ถูกรางวัลต้องบริจาค..แล้วจะให้ใครดี...ขอคิดก่อน

    ทนายมีบุคลิกภาพเยี่ยงนี้ทุกท่าน

    คนภายนอกนึกว่าเป็นคนไม่มีอารมณ์ขัน อิ.อิ. (ตอบถูกจนได้)

    ขอขอบพระคุณครับที่ติดตามอ่าน แต่ระวังจะเป็นครู(หัว)หมอความนะ .....แฮ

     

    สวัสดีครับคุณอิงคนสวยน่าตาดี

    ฮา....อย่างนี้ไม่เรียกว่าเก็บตก

    ต้องเรียกว่าตกข่าว.....เอิ้กๆๆๆๆๆๆ

    คงเหนื่อยกะปลกกะเปลี้ยเลยนะครับหลังสอบ

    มีเวลาตั้งเทอมแต่อ่านก่อนสอบสามวัน อิ.อิ. (คุ้นๆยังไงไม่รู้วิธีนี้)

    พักผ่อนมากๆตื่นเช้ามาให้ได้เงินแสนกับเครื่องชักผ้าดีดีครับ

    สวัสดีค่ะ ท่านทนาย ปากหวาน ฮ่าๆๆ

    ขอบคุณที่แวะไปที่ blog จิตวิทยาการขอ บ่อยๆนะคะ ขอบคุณที่ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

    • ขอบพระคุณที่ไปเยือนนะคะ
    • จะรออ่านบันทึกใหม่วันอังคารค่ะ
    • บันทึกนี้ฮาได้ใจจริงๆ อิอิ
    • ขอมอบ  ฟ้าเป็นใจ ให้แด่ท่านทนายที่มีแต่อารมณ์ขันค่ะ

    สวัสดีครับคุณอรคนน่ารัก

    คุณอรเปลี่ยนภาพแล้วหรือครับ ภาพเดิมน่ารักออก

    ภาพที่เห็นไปทำอะไรที่ศาลเจ้าครับ อิ.อิ.

    สงสัยจะไปอฐิฐานให้ได้เจอเครื่องซักผ้าดีดีไว้ใช้แน่เลย..ใช่ป่าว...แฮ...

    ขอบคุณนะครับที่แวะมาให้กำลังใจ

    สวัสดีครับคุณแมว

    ฟ้าเป็นใจที่มอบให้ เห็นแล้วชื่นใจจัง ทำให้ยากมองฟ้าไปนานๆ

    แต่ให้สงสัย ใจดวงนี้นางฟ้าที่ไหนทำหล่นนะ อิ.อิ.

    ขอบคุณที่แวะเยี่ยมครับ

    นางฟ้าคงหลายใจนะคะ อิอิ ทำใจหล่นไว้เต็มท้องฟ้า

    สวัสดีครับคุณแมว

    หากพบนางฟ้าที่ทำหล่นไว้

    ช่วยบอกให้มารับคืนจากชาวฝนแปดแดดสี่

    ก่อน 14 กุมภาพันธ์ นี้นะ

    เปิดจันทร์ถึงศุกร์ในเวลาทำการ อิ.อิ.

    ขอบคุณครับ

    สวัสดีครับคุณแมว

    จะรักษาไว้อย่างดีที่สุด รับรองว่าจะคงสภาพเดิมทุกประการครับ อิ.อิ.

    ขอบคุณครับ

    สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ขอฝากเนื่อฝากตัวด้วย เคยมีแฟนเป็นนักกฎหมายมาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่เจ้าชู้ และหลอกลวงกันทั้งนั้น ตอนนี้ก็เพิ่งจะโดนหักหลังมาหมาดๆ เจ็บ และไม่ขอข้องเกี่ยวอีกเลย ไม่เห็นทำตัวสมเกียรติที่ผู้คนเค้านับถือเลย แค่ในนาม.......ขอบคุณที่รับฟังค่ะ

    สวัสดีครับคุณ 30  maey maey

    ยินดียิ่งที่ได้รู้จักเช่นกันครับ

    อิ.อิ. คุณ maey maey เหมายกเอายุทธจักร ยุติธรรมมาหมดเลยนะครับ

    อย่างอนคนในสายอาชีพนี้เลยครับ คนจริงใจ น่ารัก มีมากหลายครับ  อย่างผมเป็นต้น....แฮ...

    สำหรับคุณผู้ชายทั้งหลาย ที่เจ้าชู้ หลอกลวง หรือเมื่อหมดช่วงโปรโมชั่นแล้ว โทรนัดไม่มา ติดประชุม วันนี้ไม่ว่าง สองเดือนได้เจอทียังออกอาการเบื่อ ผมว่ามีทุกสาขาอาชีพหละครับ อยู่ที่คุณผู้หญิงจะเริ่มรักในช่วงโปรโมชั่น หรือติดตามดูนิสัยกันนานๆจนมั่นใจว่าเจ้าหมอนี้ใช้ถึงค่อยรัก ก็จะไม่เจอคุณผู้ชายที่ออกอาการตามที่เจอๆกันมา

    หากจะหาผู้ชายประเภทที่มองคุณผู้หญิงด้วยสายตา “เมื่อวานก็ดูสวยดีแต่วันนี้สวยกว่าเมื่อวาน” ผมว่าหาไม่ยากครับ

    ผมกับคนข้างกายรู้จักกันปี 2514  ไปมาหาสูกัน 15 ปี จนเพื่อนๆในรุ่นแต่งกันไปหมดแล้ว เวลาเจอเพื่อนก็จะมีคำถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งเดี๋ยวตายกันหมดไม่มีใครมางานแต่ง เลยต้องแต่ง ปี 2529 อยู่กันมาจนปัจจุบัน ก็ 24 ปีแล้ว ถ้านับรวมกับที่เริ่มจีบกันก็ 40  ปี ยังไม่คิดว่าคนนอกบ้านสวยกว่า...อิ.อิ.....ที่จริงก็ทนดูเอานะ..ฮา...

    ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านบันทึก

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท