ผู้หญิงคนหนึ่งใช้ชื่อว่า "คุณนุช" เขียนอีเมลล์มาถึง อ.แหวว เพื่อหารือว่า แม่ป่วยหนัก แต่ไม่กล้าไปศิริราช เพราะไม่มีบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐใดเลย ก็คือ เป็นคนไร้รัฐนั่นเอง
คุณรุ่งแก้วมารดาของคุณนุชเป็นเด็กที่มีคนเอามาฝากเลี้ยง แล้วก็ไม่มารับตัวกลับไป ก็เป็น "คนไร้รัฐเพราะไร้รากเหง้า" และด้วยความไม่รู้กฎหมายของคนที่รับเลี้ยง ที่จะไปปฏิบัติตามมาตรา ๑๙ แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๕๓๔ เด็กคนนี้จึงยังตกอยู่ในความไร้รัฐ
ในวันที่ระบบการทะเบียนราษฎรของรัฐไทยยังไม่ผูกติดกับเลข ๑๓ หลัก และระบบหลักประกันสุขภาพยังไม่มีลักษณะแข็งตัวในลักษณะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คุณรุ่งแก้วก็เป็นคนไข้ศริริราช และรักษาตัวไปได้ และมีความสัมพันธ์ที่งดามกับศิริราชจนถึงขั้นบริจาคร่างกายให้ศิริราช
แต่ในวันนี้ที่คนไร้รัฐไม่กล้าไปปรากฏตัวขอรับการรักษาในโรงพยาบาลไทย เพราะกลัวถูกใจส่งตำรวจ คุณนุชกล่าวว่า "ถ้าถามว่าแม่มีชื่อทำไมไม่ไปหาพ่อ-แม่ที่แท้จริง จะไปเริ่มตรงไหนดีคะ เพราะแม่ไม่ได้เรียนเลยไม่รู้ว่าจะทำยังไง แล้วอีกอย่างเรากลัวด้วยคะ ว่าถ้าแม่หาญาติพี่น้องไม่ได้ ทางการอาจจับแม่ให้ไปอยู่ในค่ายกักกันหรือที่ไหนซักแห่ง......"
เราจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร ?
เราตระหนักว่า รัฐไทยมีหน้าที่รับรองสถานะบุคคลตามกฎหมายให้แก่มนุษย์ และรัฐไทยเองก็ปฏิบัติหน้าที่นี้มาตลอดตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๕๒ จนถึงปัจจุบัน เพียงแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐไทยบางท่านอาจไม่รู้กฎหมาย หรือมีความเป็นอมนุษย์นิยม
ดังนั้น เราจะเห็นว่า ทะเบียนคนป่วยที่ศิริราชของคุณรุ่งแก้วจนถึงมีการบริจาคร่างกายย่อมเป็นพยานหลักฐานที่ดีว่า เธอมิใช่คนที่เพิ่งข้ามมาจากประเทศอื่น เธอเป็นคนที่สูญเสียตัวตนทางกฎหมาย แม้เธอจะมีสามีและบุตรสัญชาติไทยถึง ๒ คน
การสำรวจคนไร้รัฐในโรงพยาบาล จึงเป็นกิจกรรมที่โรงพยาบาลน่าจะทำ กิจกรรมประมาณนี้เคยเกิดในโรงเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการยอมรับภารกิจตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายไทยที่จะสำรวจคนไร้รัฐในโรงเรียน อันนี้แหละ เป็นประเด็นที่ อ.แหวว อยากขายให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ซื้อค่ะ ถ้าคนไข้ไร้รัฐเดินเข้ามาในโรงพยาบาล ก็แจ้งปัญหาของเขาเหล่านี้ไปยังเขตเพื่อบันทึกตัวตนทางกฎหมายก่อนในทะเบียนราษฎรของรัฐไทย อาจยังไม่ให้สิทธิใดๆ เลย นอกจากสิทธิในการรักษาพยาบาล เหมือนคนไร้รัฐในโรงเรียนเช่นกัน สิทธิประการแรกที่จะมาถึงภายหลังการบันทึกนักเรียนไร้รัฐในทะเบียนราษฎรของรัฐไทย ก็คือ สิทธิในหลักประกันการศึกษา
และถ้ากระทรวงสาธารณสุขซื้อแนวคิดที่จะช่วยกระทรวงมหาดไทยสำรวจคนไร้รัฐด้วย ก็สร้างแนวคิดและวิธีการออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการเก็บคนไร้รัฐมาวางบนทะเบียนราษฎรของรัฐไทย แบบที่กระทรวงศึกษาธิการทำให้วิษณุก็จะไปเป็นไปได้
เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๓ ได้มีโอกาสคุยกับเหล่า คศน. ของ สวรส. และไม่กี่วันต่อมา ก็เห็นรายการข่าวที่ชื่อว่า "วาระประเทศไทยเกี่ยวกับสิทธิในหลักประกันสุขภาพของคนไร้รัฐ" โดยคุณณาตยา แวววีรคุปต์ และเห็น "แถลงการณ์ของแพทย์ชนบท" โดยคุณหมอจุ๊ก สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ อ.แหววก็เลยเข้าใจว่า ความหวังที่จะเห็นโรงพยาบาลไทยมาช่วยรักษาโรคไร้รัฐให้แก่คนไร้รัฐที่เข้ามาเป็นคนป่วยของโรงพยาบาล
บันทึกนี้ อยากขอแรงคนที่ทำงานในศิริราชช่วยส่งสัญญานหน่อยค่ะว่า ถ้านักศึกษาของ อ.แหวว จะพาคุณรุ่งแก้วไปรักษาที่ศิริราชแล้ว จะถูกแจ้งความจับไหมคะ แล้วถ้าคุณรุ่งแก้วไม่มีบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง หรืออะไรเลย ??? เธอจะได้รับการรักษาไหมคะ ???
จะรบกวนให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราชกรุณาทำจดหมายแจ้งอธิบดีกรมการปกครองเพื่อบันทึกตัวตนของคุณรุ่งแก้วในทะเบียนราษฎรของรัฐไทยประเภท ท.ร.๓๘ ก. (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร" ได้ไหมคะ ?? เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกรมการปกครองตามมาตรา ๓๘ วรรค ๒ แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร แก้ไขใหม่ อยู่แล้วค่ะ
ศิริราช...ช่วยด้วยค่ะ
ขอบคุณ คุณแสงแห่งความดีค่ะ
อย่าลืมบอก "ศิริราช" ให้ด้วยนะคะ
ขอบพระคุณอาจารย์แหววอย่างยิ่งสำหรับความกรุณาครั้งนี้
คุณนุชราคะ
อ่านบทความ ๒ ฉบับนี้ อย่างตั้งใจ และอ่านข้อความที่ อ.แหวว อธิบายอย่างตั้งใจนะคะ
ฉบับที่หนึ่ง
เซาะเล้ง หรือภาวินี บุรสินสง่า : แม่ผู้ไร้รัฐซึ่งหนีภัยความตายมาจากประเทศกัมพูชา
โดย รศ. ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร และนางสาวชลฤทัย แก้วรุ่งเรือง
บทความเพื่อสาละวินโพสต์ : วารสารเพื่อความเข้าใจในประเทศพม่า
ฉบับที่ ๓๒ (วันที่ ๑ กรกฎาคม – ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๙)
เขียนเมื่อวันอังคารที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=324&d_id=323
ฉบับที่สอง
เซาะเล้ง บุระสินสง่า.....แม้ไร้รัฐ ไร้สัญชาติ... แต่ไม่ไร้ความเป็นแม่
ของขวัญของแม่ : จากใจลูกที่มีแม่ไร้สัญชาติ....ก่อนจะถึงวันแม่(ไร้สัญชาติ)
: จดหมายจากคุณพรพรรณ (ลูกสัญชาติไทย) เพื่อแม่ไร้สัญชาติ
วันอังคารที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=315&d_id=314
อ่านแล้วขอให้ตัดสินใจทำ ๓ อย่าง กล่าวคือ
๑. รีบบอกชื่อเขตที่ไปติดต่อ เจ้าหน้าที่ อื่นๆ อย่างน้อยจะต้องไปเอา “บัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน” ให้กับคุณรุ่งแก้ว
๒. รีบพาตัวคุณและคุณแม่มาหาเราด่วน
๓. รวบรวมลูกๆ เขียนเล่าเรื่องแม่และคุณอย่างที่พรพรรณเขียน
ผลของการกระทำคืออะไร ?
๑. แม่คุณจะเริ่มต้นมีชื่อในทะเบียนราษฎรภายใน ๑ เดือน หากคุณร่วมมืออย่างดี เรื่องสัญชาติไทยก็ต้องดูข้อเท็จจริงอื่นๆ ต่อไป แต่หากเรื่องที่คุณเล่าจริง แม่คุณก็จะมีสถานะเบื้องต้นเป็น “ราษฎรไทยประเภทบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร” เพียงพอที่จะอยู่กับคุณ ไม่ถูกนำไปกักกันไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ อย่างที่คุณกลัว
๒. รีบต้นแก้ไขปัญหาความเจ็บป่วยของคุณแม่อย่างจริงจังก่อนจะสายไป
๓. รีบต้นแก้ไขปัญหาความไร้รัฐไร้สัญชาติอย่างจริงจัง
๔. ช่วยเหลือคนในสถานการณ์เดียวกัน อย่างที่คุณพรพรรณบุตรสาวของคุณเซาะเล้งได้ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง