เมื่อเราเกิดความอยาก


วันนี้ก้อยังไม่ได้ไปดูหนังสักทีงานยุ่งพอตัวแวะเข้ามาแปะของฝากนิดหน่อยเผื่อมีคนมาอ่าน

 
ความทะเยอทะยานนั้น จะต้องมีขอบเขต
ธรรมชาติของสังคมมนุษย์เรา ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสวงหาอำนาจ ความมีลาภเสื่อมลาภ ความมียศเสื่อมยศ มี สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา แต่การที่เราจะแสวงหา เราจะแสวงหาอย่างไร ในฐานะที่เราเป็นนักปฏิบัติ เป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า พระองค์ให้เรามั่นคงในศีล 5 ข้อ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่มีอยู่นั้นเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนความรู้สึกของเราให้มีความทะเยอทะยานในความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น แต่ความทะเยอทะยานนั้น จะต้องมีขอบเขต ซึ่งขอบเขตคือศีล 5 ข้อ ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติขึ้นตามกฎธรรมชาติ
ในกายของเรามีใจเป็นใหญ่ ใจเป็นผู้บงการกายทำทุกสิ่งทุกอย่าง

เราควรสังวรระวัง ควรงดเว้น ควรระวังรักษา ไม่ละเมิดในศีล 5 ข้อ เท่านี้เราก็ไม่บาป ไม่มีกรรม ซึ่งบาปกับกรรมเกิดจากการทำบาปทำกรรมต่างๆ เพราะคนเรามีกายกับใจ ในกายของเรามีใจเป็นใหญ่ ใจเป็นผู้บงการกายทำทุกสิ่งทุกอย่าง ในเมื่อใจเป็นผู้บงการแล้ว กายทำอะไรลงไป พูดอะไรออกไป ใจเขาจะเก็บเอาไว้โดยอัตโนมัติ เขาจะเก็บผลงานของเขาบันทึกเอาไว้ เป็นบาปเป็นกรรม ซึ่งใครเป็นผู้สร้าง ใครเป็นผู้แต่งนั้นไม่มี แต่เป็นสิทธิหน้าที่ของแต่ละบุคคลสร้างขึ้นมาเอง เช่น เราไปฆ่าใครสักคนหนึ่ง แต่เราไม่ต้องการผลงาน มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายมันก็จะต้องวิ่งเข้ามา เป็นผลงานที่เก็บเอาไว้ภายในใจ





แหล่งที่มา: ฐานิโยนุสรณ์ ที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพ พระราชสังวรญาณ(หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 32824เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2006 23:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • ขอบคุณที่นำสิ่งดี ดี มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท