บาปเงียบ : มหันตภัยยุคสื่อไร้พรมแดน


หลังจากได้นั่งตรวจทานงานเขียนของท่านรองอธิการวิชาการเมื่อวานเช้านี้ก็ได้อีเมล์ให้ช่วยเผยแพร่บทความจึงนำบทความที่ท่านเขียนได้อย่างน่าคิดสำหรับเยาวชน ณ ปัจจับัน หรือที่มาที่ไปของบทความชิ้นนี้เกิดจากคำพูดของท่านอธิการที่พูดถึงเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างที่ Ibm ครูปอเนาะได้เกริ่นในบันทึกไว้ (ผมตั้งข้อสังเกตอะนะครับ


บาปเงียบ : มหันตภัยยุคสื่อไร้พรมแดน 

โดย อ.มัสลัน มาหะมะ

มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา

 

                หนุ่มสาวที่แสนสุภาพ มีบุคลิกที่ควรค่าแก่การยกย่อง เป็นคนดี ใฝ่เรียนรู้ศาสนาในสายตาผู้คนทั่วไป หากเป็นมุสลิมีนก็จะไว้เคราพองาม พิถีพิถันในเรื่องการแต่งกาย สวมเสื้อโต๊บขาวหรือกางเกงเหนือตาตุ่ม หากเป็นมุสลิมะฮฺจะสวมชุดฮิญาบอย่างมิดชิด มีบางคนถึงปิดหน้าและฝ่ามือ ยึดมั่นตาม       สุนนะฮฺ บรรดามิตรสหายล้วนเป็นคนดี คบค้าสมาคมกับผู้รู้ทางศาสนา ฯลฯ

                ถือเป็นภาพชินตาที่บ่งบอกถึงการยึดมั่นในศาสนาของกลุ่มเยาวชน แต่จะเป็นสิ่งดียิ่ง หากเบื้องหลังของพวกเขาจะใสสะอาดหมดจดยิ่งกว่าเบื้องหน้าที่เขาแสดงออก ช่วงที่เขาสงบนิ่งคนเดียวยามเข้าเฝ้าอัลลอฮฺ I นั้น  เขาสามารถรักษาความบริสุทธิ์ใจยิ่งกว่าช่วงที่เขาแสดงออกมาต่อหน้าผู้คน

                ที่พูดเช่นนี้ เพราะทราบว่าหนุ่มสาวหลายคน ดูแสนจะเรียบร้อย แต่ยามที่เขาอยู่ที่ลับตาผู้คนแล้ว เขากลายเป็นสาวกของชัยฎอนและจมอยู่ในห้วงทะเลแห่งอบายมุขชนิดโงหัวไม่ขึ้นทีเดียว

                เขามักบริโภคสื่อไร้พรมแดนที่ไร้สาระ  เสพเว็บฯไร้จริยธรรมอยู่เนืองนิจ ครุ่นคิดติดต่อทางสื่ออีเล็คโทรนิกส์ที่มักใช้นามแฝงกลบเกลื่อนชื่อจริง ใช้ยุทธศาสตร์ลับ ลวง พราง เพื่อสนองตัณหาอารมณ์ใฝ่ต่ำ บางครั้งก็ใส่ร้ายป้ายสีผู้คนหรือองค์กรให้พลอยเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย

                เยาวชนที่รัก .... เจ้าอย่ามองข้ามการเพ่งพินิจและการตรวจสอบของอัลลอฮฺ I โดยเด็ดขาด ยอมลงทุนฝ่าฝืนพระองค์ แต่ตอบรับการเรียกร้องของชัยฏอน

                ท่านซะห์นูน (รอฮิมะฮุลลอฮฺ) ได้กล่าวไว้ ความว่า “เจ้าจงอย่าริประกาศตัวเป็นศัตรูคู่อริกับชัยฏอนในที่เปิดเผย  แต่กลับเป็นสหายรักกับมันยามลับตาผู้คน”

                เพราะแท้จริง บาปที่คนๆ หนึ่งกระทำไว้ ณ ที่ลับตาผู้คนนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชักนำเขาสู่ความวิบัติ และบ่อนทำลายความดีงามที่สะสมไว้

                นบีมูฮัมมัด r ได้กล่าวไว้ความว่า “แน่แท้ ฉันรู้ว่า มีชนกลุ่มหนึ่งในประชาชาติของฉัน ที่พกพาความดีงามและกุศลทานอันมากมายสะสมไว้ในวันกิยามะฮฺ เปรียบเสมือนเทือกเขาติฮามะฮฺ[1]ที่ขาวสะอาด แต่อัลลอฮฺ I  ทรงทำให้ความดีงามอันมากมายเหล่านั้น กลายเป็นเศษฝุ่นที่ปลิวว่อนเท่านั้น (ไม่มีคุณค่าใดๆ ทั้งสิ้น) ท่านเซาบาน t จึงถามว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮฺ ได้โปรดบอกคุณลักษณะของพวกเขาให้เราทราบด้วย และโปรดอธิบายให้พวกเราทราบอย่างแจ้งชัด เผื่อว่าเราจะได้ระมัดระวังมิให้เป็นเช่นกลุ่มนั้น ในสภาพที่เราไม่รู้ตัว นบีฯ r  จึงตอบว่า พวกเขาคือพี่น้องของท่านนั่นแหละ มีสีผิวเช่นเดียวกับพวกท่าน พวกเขาดำรงตนในเวลากลางคืนด้วยการละหมาดกลางคืนเช่นเดียวกับพวกท่าน แต่ยามใดที่พวกเขาอยู่ในที่ลับตาผู้คนแล้ว พวกเขาละเมิดและฝ่าฝืนคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ ” (บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ/4245,ดู อัซซิลซิละฮฺ อัศเศาะฮีหะฮฺ 2/18)

          เยาวชนที่รัก ... เจ้าพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มที่นบีฯพูดถึงไหม๊ แล้วเจ้าได้สะสมความดีงามไปเท่าไหร่แล้ว  ในขณะที่การปฏิบัติอะมัลในแต่ละครั้ง มันช่างลำบากลำบนแค่ไหน

          ผู้ได้รับทางนำแห่งอัลลอฮฺ I ต่างได้รับการตอบแทนที่ดีจากอัลลอฮฺ I และเสวยสุขกับพรอันประเสริฐที่อัลลอฮฺ I ได้ตระเตรียมไว้ ดังที่พระองค์ได้กล่าวว่า

 

إِنَّ الَّذِينَ يَخْشَوْنَ رَبَّهُمْ بِالْغَيْبِ لَهُمْ مَغْفِرَةٌ وَأَجْرٌ كَبِيرٌ (١٢) وَأَسِرُّوا قَوْلَكُمْ أَوِ اجْهَرُوا بِهِ إِنَّهُ عَلِيمٌ بِذَاتِ الصُّدُورِ (١٣) سورة الملك

ความว่า แท้จริงบรรดาผู้ยำเกรงต่อพระเจ้าของพวกเขาโดยทางลับ สำหรับพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษและรางวัลอันใหญ่หลวง และพวกเจ้าจงปิดบังคำพูดของพวกเจ้าหรือเปิดเผยมันก็ตาม แท้จริงพระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในทรวงอก

ยามใดที่ประตูทุกบานถูกใส่กลอน หน้าต่างถูกปิดด้วยม่านหนา และปลอดจากสายตาผู้คนแล้ว เจ้าจงนึกถึงการเฝ้ามองของผู้ทรงรอบรู้และทรงได้ยิน แม้กระทั่งเสียงคลานของมดตัวเล็กๆ ที่ดำสนิทที่กำลังคืบคลานในซอกหินดำท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล

เจ้าจงระมัดระวังมิให้ไหลลื่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้ามั่นคงหนักแน่น

เจ้าจงระวังอย่าเถลไถล ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าเคยดื่มด่ำในบรรยากาศแห่งอีมาน

อิบนุลก็อยยิม (รอฮิมะฮุลลอฮฺ) ได้กล่าวไว้ความว่า “บรรดาผู้รู้ทั้งหลาย ได้เห็นพ้องต้องกันว่า บาปเงียบคือต้นเหตุของความพินาศล่มจม และการทำอิบาดะฮฺขณะลับตาผู้คน คือปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การยืนหยัดในศาสนา”

                เจ้ารู้ไหม บาปเงียบที่เจ้าถือว่าเล็กน้อย อาจเป็นสิ่งล่อลวงและลวงล่อให้เจ้ามีความเคยชินกับสิ่งนั้น จนกระทั่งฝังใจกลายเป็นนิสัยประจำตัวที่ยากจะหยุดยั้ง  เมื่อเวลาผ่านไป มันจะกลายเป็นสันดานจนกระทั่งเจ้าสิ้นลมหายใจ ในขณะที่เจ้าหลงระเริงกับบาปเงียบนั้นเลยทีเดียว

                อิบนุเราะยับ (รอฮิมะฮุลลอฮฺ) ได้กล่าวไว้ความว่า “ผู้ที่จบชีวิตด้วยความชั่วร้าย             (سوء الخاتمة) ในบางครั้ง เกิดจากบาปเงียบที่เขากระทำ โดยที่ไม่มีผู้ใดรู้เห็นเลย”

                เยาวชนที่รัก ... จงยำเกรงอัลลอฮฺ I ทั้งที่ลับและที่แจ้ง จงทำให้เบื้องหลังของเจ้าประเสริฐกว่าเบื้องหน้าที่เจ้าแสดงออกมา มีความจริงใจต่ออัลลอฮฺ (รอฮิมะฮุลลอฮฺ)   จงมีความสุขในการทำอิบาดะฮฺอย่างปกปิด และจงหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจต่อความผิดพลาดและความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ I แม้นเจ้าอยู่บนสะญะดะฮฺยามหลังเที่ยงคืนอย่างเดียวดาย

วัสสลาม

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : http://hor3en.com/vb/showthread.php?t=21515

สืบค้นเมื่อ 12 มกราคม 2553

 


[1] เป็นเทือกเขาที่ยาวที่สุดในคาบสมุทรอาหรับ อยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศซาอุดีอาระเบีย

หมายเลขบันทึก: 328126เขียนเมื่อ 15 มกราคม 2010 08:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 10:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ขอบคุณสำหรับคำสอนและข้อคิดเตือนใจที่ดีครับ

สวัสดีค่ะ

  • อย่างไรพี่คิมก็มองหญิงสาวสวมฮิญาบว่าเป็นความงดงามที่น่าศรัทธายิ่งนัก
  • และได้เรียนรู้มาว่า ชาวมุสลิม เป็นชนชั้นที่เคร่งครัดในการปฏิบัติมาก
  • แต่ปัจจุบันสังคมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  การต้านกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงคงเป็นเรื่องที่ยากต่อการดำรงชีวิตของคนบางคน้ได้นะคะ
  • วันนี้สบายใจหรือยัง...ค๊ะ

ขอบคุณมากครับ

P

capuchino

ข้อคิดดีๆคำสอนดีๆมุมคิดดีๆหากจะช่วยพัฒนาตัวเราให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เรื่อยๆควรค่าแก่การนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ ด้วยความยินดียิ่งครับ

สื่อไร้พรมแดน ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลค่ะ

อย่างน้อยที่สุดทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี การมีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวคงช่วยปลูกจิตสำนึกและเพิ่มความตระหนักรู้ได้มากขึ้น ? คะ

ขอบคุณข้อมูลอีกมุมมองใหม่นี้ค่ะ

ขอบคุณมากครับพี่

P

ครูคิม

ครับความงดงามของผู้เต็มเปี่ยมด้วยคำว่า "มุสลิมะฮฺ" คือสิ่งที่น่ายกย่องครับ

ณ ที่นี้การต้านกระแสที่ไม่สามารถรับมือกับมันได้ คือ สิ่งที่น่าเป็นห่วงครับเพระาคำว่า "กิเลส" มันง่ายมากกับการถูกชักจูงจากชัยฏอน(มารร้าย)

ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้เรื่อยมาครับ

  สบายใจขึ้นบ้างแล้วครับ...กำลังคิดภารกิจตั้งรับกับงานที่มากมายครับ อิอิ

ดูแลสุขภาพด้วยครับพี่ครูคิม

ขอบคุณมากครับ...ครับทุกศาสนาสอนให้ตระหนักรู้สู่การปฏิบัติครับ

P

poo

ข้อคิดดีๆมีไว้แบ่งปันครับ

ร่วมแลกเปลี่ยน

ยกมาบางมุมเรื่อง "วัฒนธรรมการโกหกเล็กๆน้อยๆของเด็กในปัจจุบัน" สอดคล้องตามประโยคที่ว่า บาปเงียบที่เจ้าถือว่าเล็กน้อย

อาจเป็นสิ่งล่อลวงและลวงล่อให้เจ้ามีความเคยชินกับสิ่งนั้น จนกระทั่งฝังใจกลายเป็นนิสัยประจำตัวที่ยากจะหยุดยั้ง เมื่อเวลาผ่าน

ไป มันจะกลายเป็นสันดานจนกระทั่งเจ้าสิ้นลมหายใจ ถ้ามันติดตัวแล้ว ยากที่จะถอน โกหกจนเคยชินจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

ปัจจุบันเรื่องการโกหกเล็กน้อยๆ ได้เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า

ขอบคุณมุมคิดดีๆมากเพื่อน...

 

30

คนเร่ร่อน

สวัสดีครับคุณเสียงเล็ก

         ผมอ่านเรื่องนี้แล้ว  ผมยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนกระทำแต่ความดี  ขอบพระคุณมากครับ

ขอบคุณมากครับอาจารย์

P

นาย สมนึก โทณผลิน

และผมก็ขอยืนยันคำพูดของอาจารย์ครับว่า

"ผมยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้ทุกคนกระทำแต่ความดี"

เมื่อถูกอ้างอิงผมก็ขอเล่าต่อ

ผมกับอาจารย์จรุวัจน์และท่านอื่นๆ ถูกเรียกตัวไปเสนอแผนนโยบายที่จะทำ

ผมเสนอสองสามเรื่อง และเรื่องหนึ่งคือ รวมการให้บริการอินเตอร์เน็ทเป็นจุดเดียว และจุดนั้นผมขอรับผิดชอบ

ท่านอธิการบดีพูดตรงใจผมมาก แต่ผมไม่มีอำนาจ ทำอะไรไม่ได้ ท่านยกตัวอย่างว่า ทำไงให้และบุคลากรใช้อินเตอร์เน็ทเฉพาะในเรื่องการเรียนรู้ ผมก็รายงานไปว่า เน็ทที่ผ่านศุนย์คอมฯ ผมสั่งบล็อกยูทูบแล้ว สาเหตุเพราะตอนที่ผมไปสุ่มดูการเปิดเน็ทของ นศ. พบว่าหลายคนดูหนังอยู่ บางเรื่องเป็นหนังที่ไม่ดีด้วย

พอวันรุ่งขึ้นอธิการพูดในมัสยิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีทำให้เสีย

และอีกสองวันต่อมา ท่านก็พูดอีก ท่านว่า นศ.ที่ใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิดนี้ ไม่ใช่นักศึกษาแต่เป็นนักหลงทาง

พอผมขับรถกลับก็เปิดวิทยุรัฐสภา ก็พูดเรื่องเดียวกัน กรรมธิการชุดหนึ่งทำหนังสือเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ ให้ที่อยู่ดาว์นโหลดด้วย แต่ผมฟังไม่ทัน เลยยังหาไม่เจอ

ก็ตั้งใจเหมือนกันว่าจะเขียนเรื่องนี้ลงในบล็อก G2K นี้ แต่ก็ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ... อิอิอิ คงหมดอารมณ์ที่จะเขียนแล้วละ

พอ อ. มานำเสนอบทความเช่นนี ผมก็คิดว่าเพียงพอแล้วที่ผมจะตอบเขาว่าผมไม่ต้องเสนอแล้ว... :)

ขอบคุณมากครับอาจารย์...

P

Ibm ครูปอเนาะ ڬوروفوندق

ใจจริงอยากให้อาจารย์นำเสนอครับ "มุมคิดบางมุมคิด ภาพบางภาพมองจากจุดเดียวกัน ให้ความรู้สึกยังแตกต่าเลยครับ" ช่วยกันพูดช่วยกันทำความเข้าใจเพื่อสังคมของเราครับ

สื่อ IT ทุกประเภทที่เราใช้กัน  หากผู้ใช้มีดุลยพินิจดีพอ  มีสติปัญญาด้านดีกำกับ คนนั้นย่อมได้รับแต่สาระที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับตนเอง  แต่หากเป็นอีกด้านที่ตรงกันข้าม ย่อมคาดคะเนได้ว่าเขาจะได้รับอะไร

บางทีการปิดกั้นโดยเครื่องมือ กับการให้ผู้ใช้บริการเกิดความตระหนักรู้ ผมคิดว่าผลลัพธ์ย่อมแตกต่างกัน เพราะความง่ายในการใช้อินเทอร์เน็ต  บุคคลต่าง ๆ เสาะแสวงหาแหล่งใช้ได้ง่ายพอ ๆ กับซื้อขนม  ที่ขอเพียงมีเงินก็แลกกับบริการที่ตนเองต้องการได้ทันที  แต่วิธีการปิดกั้นทำให้เกิดผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ได้ทันทีครับ

แนวคิดตามวรรคสอง ผมได้รับมาจากประสบการณ์ที่ให้ลูกสาวใช้ net ที่ปีก่อน ๆ ผมใช้บริการจาก saijai.net  เพื่อกรอง / บล๊อคสิ่งที่ไม่สมควรแทนการพร่ำบอก (จนลูกบอกว่ารำคาญ) พอสิ้นปี 52  ผมไม่ได้ชำระเพื่อต่อค่าบริการดังกล่าว  แต่ใช้บริการโปรแกรม house keeper ของ nectec เพื่อจำกัดแค่เวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับลูกสาวให้ยุติแค่เวลา 23.00 น.  และเริ่มต้นในวันใหม่เวลา 05.00 น. ครับ 

ขอบคุณมากครับอาจารย์

 

P

นาย คณิน อุดมความสุข

สำหรับข้อคิดดีๆที่นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ

ขอบคุณสำหรับแง่คิดดีๆ จากบทความครับ

ขอบคุณมากครับ

 

P

ประสงค์ สุทินรักษ์

ขอบคุณเช่นกันครับที่แวะมาเรียนรู้เยี่ยมเยียนครับ

ขอบคุณคับ

ที่ให้ข้อคิดกับผม และขอนำไปเผยเเพร่ต่อนะครับ อย่างไรก็ตาม บาปเงียบย่อมน่ากลัวกว่าบาปเปิดเผย เหมือน ภัยพิบัติที่เกิดจากซึนามิ จะมาแบบเงียบๆๆ แต่ สร้างความเสียหายอย่างมหันต์ ขอบคุณคับบังที่ส่งข้้อคิดดีๆๆๆ มาให้อ่าน เหมือนเป็นการตักเตือนผมให้อยู่ในแนวทาง และ กรอบของอิสลาม

ขอบคุณมากครับ

 

30

คนทุกที่

การพัฒนาตัวเองคือสิ่งที่เราควรทำให้ตลอดครับ

สวัสดีค่ะ อาจารย์ เสียงเล็กๆ فؤاد

ขอคารวะคุณครูดีมีศรีสง่าในโอกาสวันครู และขอพรพระคุ้มครองให้ อาจารย์ เสียงเล็กๆ فؤاد  มีความสุข ความเจริญ มากขึ้น ทุกๆ วันค่ะ      

เป็นอุทาหรณ์ว่า ยังไงเสีย การจัดการที่สำคัญก็คือการดูแลจิตใจของมนุษย์ให้เข้มแข็ง เพื่อจะได้มีแรงต้านทานกระแสใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ และยิ่งเชี่ยวกรากมากขึ้นตามกาลเวลา ...

เทคโนโลยีแทบจะไม่ได้ให้ผลที่งอกเงยในส่วนของจิตใจเลยจริงๆ ...

....

ตามตัวอย่างที่ อ. ibm ยกมา แค่บล็อกยูทูปน่าจะแก้ได้ไม่เยอะและไม่ยั่งยืน(เด็กๆ อาจจะรู้ว่าวิธีการปลดบล็อก ของพวกนี้แค่ค้นในกูเกิลก็เจอแล้ว) แม้ว่าเป็นกระบวนการหนึ่งที่ช่วยให้จัดการง่ายขึ้น แต่คนที่รับผิดชอบเรื่องตัรบิยะฮฺนักศึกษาก็ต้องร่วมมืออย่างแข็งขันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันด้านจิตใจใหักับนักศึกษาพวกนี้ด้วย ... ปัญหาหลายเรื่องที่เกิดขึ้นยากที่จะแก้ได้โดยฝ่ายใดเพียงฝ่่ายเดียว ความร่วมมือและการทำงานเป็นข่ายครอบคลุมแม้จะยากแต่ก็จำเป็นอย่างยิ่ง

...

ขอบคุณ อ.มัสลัน สำหรับบทความ

ขอบคุณ อ.ฟูอาด สำหรับการเผยแพร่

วัลลอฮุอะอฺลัม

ขอบคุณมากครับ...

P

นีนานันท์

ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันครับ

ขอบคุณมากครับ

30

ผ่านมา

สิ่งสำคัญที่สุดคือการตัรบียะฮฺการปลูกฝังจิตสำนึก เรื่องบางเรื่องบางครั้งยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งต้องหาทางแก้ไเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ป้องกันเลยมันก็อาจจะยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าเป็นอย่างนี้เราทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อผลักดันสิ่งสร้างสรรค์สู่เยาวชนอย่างที่ควรจะเป็นครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท