พบกับเพลงอีแซวสายเลือดสุพรรณฯ ในงานประจำปีวัดดอนไร่
เพลงอีแซว สายเลือดสุพรรณฯ
อยู่ในงานประจำปี วัดดอนไร่
หลวงพ่อมุ่ย พุทธรักขิตโต
14, 15, 16 มกราคม 2553
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ท่านมีสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นตรี พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2431 มีพื้นเพ เป็นคนบ้านดอนไร่ ตำบลหนองสะเดา อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี อาชีพทำการเกษตร ทำนา เมื่ออายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ได้อุปสมบทที่วัดท่าช้าง อำเภอเดิมบางนางบวช บวชอยู่ได้ 10 พรรษาจึงได้ลาสิกขาไปช่วยบิดา มารดาประกอบอาชีพ แต่ด้วยความที่หลวงพ่อมีโรคภัยไข้เจ็บหลังจากที่ท่านลาสิกขาก็มีอาการป่วยมาตลอดจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานจะขอบวชเป็นพระสงฆ์ตลอดไป
ท่านอุปสมบทอีกครั้ง ในปี พ.ศ. 2472 ที่วัดดอนบุปผารม ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ฉายา “พุทธรักขิตโต” ได้ไปจำพรรษายังวัดต่าง ๆ หลายแห่ง ได้แก่
วัดหนองสะเดา อำเภอสามชุก
วัดหัวเขา อำเภอเดิมบางนางบวช
วัดปู่บัว อำเภอเมือง
วัดดอนไร่ อำเภอสามชุก (เป็นวัดสุดท้ายที่มาจำพรรษา) ที่วัดนี้ เป็นวัดบ้านเกิดของท่านซึ่งชาวบ้านได้นิมนต์มาอยู่เพื่อที่จะสร้างวัดดอนไร่ให้สำเร็จ วัดดอนไร่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465 มาแล้วเสร็จในสมัยที่หลวงพ่อมาอยู่ในปี พ.ศ. 2545 สร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ สร้างพระอุโบสถและจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตเมื่อ วันที่ 11-17 มีนาคม 2511
หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ เป็นพระที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพและศรัทธาแก่มหาชนเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อมรณภาพไปเมื่อ ปี พ.ศ. 2517 สิริอายุได้ 86 ปี
แต่ความรัก เคารพ ละศรัทธาที่สาธุชนในจังหวัดสุพรรณบุรีและพี่น้องในเขตใกล้เคียงมีต่อหลวงพ่อยังคงฝังอยู่ในหัวใจตลอดมายาวนานนับตั้งแต่หลวงพ่อมรณภาพไปเป็นเวลา 35 ปีแล้ว ในทุก ๆ ปี ทางวัดดอนไร่จะได้จัดให้มีงานประจำปี เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้ขอพรจากหลวงพ่อมุ่ย มีงานรวม 5 วัน บริเวณวัดกว้างขวาง
ท่านที่เป็นนักสะสมพระเครื่องและเหรียญ ทางวัดจะมีเหรียญรูปเหมือน รูปปั้นเหมือนหลวงพ่อ มีพระสมเด็จและตะกรุด ผ้ายันต์ แหวนเอาไว้ให้ท่านได้เช้าไปบูชาด้วย
มีกองอำนวยการให้ความสะดวกแก่ประชาชนที่จะมากราบไหว้บูชาหลวงพ่อ ร้านค้ามากมายมีให้บริการ รวมทั้งมหรสพพื้นบ้าน ไดแก่ นาฏดนตรี (ลิเก) รำวงย้อนยุค ภาพยนตร์ ดนตรีสากล (สตริง) หนังตะลุง และเพลงพื้นบ้าน (เพลงอีแซว) ที่ผมนำมาเสนอในบทความนี้ อยากที่จะชี้ให้เห็นว่า น้อยนักที่งานประจำปีของวัดจะมีสภาพใหญ่โตยิ่งกว่างานปิดทองฝังลูกนิมิต ที่สุดยิ่งไปกว่านั้นคือ มหรสพทุกอย่าง มีเจ้าภาพจองเป็นเจ้าของจัดหามาให้หลวงพ่อด้วยใจศรัทธา มหรสพบางอย่างมีคืนเดียว บางอย่างมีครบ 5 คน บางคืนมีมหรสพ 5 อย่าง บางคืนมี 7-8 อย่าง
ส่วนเพลงอีแซว สายเลือดสุพรรณฯ ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ “พระครูสิทธิปัญญากร” และท่านเจ้าภาพให้นำผลงานไปเสนอในคืนวันที่ 14, 15 และ 16 มกราคม 2553 เวทีอยู่ติดกับวิหารหลวงพ่อมุ่ย ด้านตะวันตกพระอุโบสถ จะทำการแสดงคืนละ 200 นาที โดยประมาณ ตั้งแต่เวลา 20.30 น. เวทีมาตรฐาน ฉากไฟแสงสีครบเครื่อง นักแสดง 19 ชีวิตและทีมงานอีกจำนวนไม่น้อยกว่า 25 คน ในรูปแบบของภูมิปัญญาท้องถิ่น เพลงพื้นบ้าน เพลงอีแซว เสภา เพลงแหล่ การแสดงตลก ไปจนถึงสารประโยชน์ที่เป็นคติสอนใจ เส้นทางไปวัดดอนไร่ อำเภอสามชุก สะดวกสบายทางลาดยางตลอดสายเริ่มต้นจากอนุสรณ์ดอนเจดีย์ขึ้นเหนือไปตามถนนคันคลองหนองงิ้วเอนผ่านโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 6 ถึงสะพานข้ามคลองแยกขวาเข้าวัด ระยะทางจากดอนเจดีย์ ประมาณ 26 กิโลเมตร
ชำเลือง มณีวงษ์ ผู้มีผลงานดีเด่น รางวัลพุ่มพนมมาลา (ราชมงคลสรรเสริญ) ปี 2547
ความเห็น (6)
สวัสดีครับ คุณนงนาท สนธิสุวรรณ
- ขอขอบคุณเช่นกัน ที่ส่งกำลังใจมาให้
สวัสดี ครับ คุณบุษรา
- ยินดีมากครับที่แวะเข้ามาทักทาย ให้กำลังใจ
- มีเรื่องเพลงพื้นบ้านจากประสบการณ์จริงมากมายที่ผมนำเอามาบอกเล่าเพื่อร่วมกันสืบสานต่อ
- แล้วจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยือน ครับ
ขอบคุณครับ
แอบไปดูมาเหมือนกันครับน่าจะ"งัดเอาไม้เด็ดมาโชว์ตั้งแต่หัวค่ำพอดึกๆคนดูก็กลับแล้วแต่ทุกคนก็ทำได้ดีมากๆชอบตอนที่ "คุณอุทัย"ออกมาทุกทีเลยเพราะท่าทางเขาเป็นเอกลักษณ์มากๆออกมากี่ทีก็ต้องตลกกับท่าทางนั้นทุกทีรองเอามาเป็นจุดเด่นดูซิผมว่าน่าจะดีอยู่"ตอนที่อรกับพลเป็นพิธีกรอะไรซักอย่าง ปฏิๆ... ออกมาก็สนุกเหมือนกัน
- ขอบคุณที่ไปให้กำลังใจเพลงอีแซวสายเลือดสุพรรณฯ
- ตอนหัวค่ำจำเป็นต้องปูพื้นไปก่อน เคยเอาไม่เด็ดออกมาเล่นก่อน คนดูก็บ่นว่าไม่รู้เรื่อง จึงจำเป็นที่จะต้องปูเรื่องไปหาจุดนั้น
- อุทัยเป็นนักกีฬา มีความสามารถมากคนหนึ่ง ครับ
- พลกับอรยังอยู่ในระหว่งการพัฒนา แต่ทั้ง 2 คนก็เก่งมาก
- ขอให้ติดตามชมผลงานของพวกเราต่อไป นะครับ