ผู้หญิงฉลาดซื้อ - คุ้มค่าที่สุด


วินาทีที่ผู้หญิงซื้อของที่คิดว่าคุ้มค่าที่สุดในชีวิต

ผมจะขอตั้งคำถาม เชิง "จับถูก" (Appreciative Inquiry) เอาไว้ว่า

"คุณผู้หญิงเคยซื้อของครั้งไหน

แล้วคิดว่า คุ้มค่าที่สุด ในชีวิต"

ผมจะบรรยายสิ่งที่ค้นพบ ตามนี้

1. Product : ซื้ออะไร

2. Price : ราคาประมาณเท่าไหร่

3. Place : ซื้อที่ไหน

4. Promotion : รู้จักได้ยังไง

5. People : พนักงานขายเป็นยังไง

6. Process : กระบวนการ ก่อน ระหว่าง หลัง เป็นยังไง

7. Physical Evidence : รูปลักษณ์ภายนอก เป็นยังไง

แล้วจะนำมาบอกต่อครับ

ALMON : รองประธาน ชมรม Female marketing Community

หมายเลขบันทึก: 327605เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2010 21:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 08:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เริ่มจากเรื่องแรกก่อนเลยครับ

เพื่อนผมเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง

 

"ลาน่าเคยซื้อของครั้งไหน แล้วคิดว่า คุ้มค่าที่สุด ในชีวิต"

"เคยซื้อเสื้อยี่ห้อดังมากๆ ๆๆ ครั้งนึง คุ้มมากๆเลยม่อน"

"ยังไงถึงเรียกว่าคุ้มหล่ะ"

"ก็ปกติมันราคา 800-900 บาท แล้วมันลดเหลือ 300 กว่าบาทเอง คุ้มไหม"

"เหรอ อือมๆ แล้วไปซื้อที่ไหนหล่ะ"

"พารากอน"

"แล้วรู้ได้ยังไงมันอยู่ตั้งไกล"

"เพื่อนบอก บอกต่อๆกันมา"

"แล้วก่อนไปซื้อเป็นยังไง ตั้งใจจะไปซื้อเลยเหรอ"

"ใช่ เราอยากได้ตั้งนานแล้วหล่ะ

 

สรุป ผู้หญิงซื้อของที่คุ้มค่าที่สุด โดยดูที่ "ราคา" (Price)

โอ้โห ได้เสื้อราคาถูกที่พารากอนเพียง 300 บาทเท่านั้น

เอ่อ พี่ลาน่าครับ แล้วค่าเดินทางไปกรุงเทพฯหละครับ ผมสงสัยจัง >_<

อันนี้ผมได้ยินมาจากเพื่อนอีกทีนะครับพี่

ตอนนั่งคุยกันแชร์ความรู้ และประสบการณ์

เธอบอกว่าสิ่งที่เธอซื้อแล้วรู้สึกคุ้มค่าที่สุดคือ โทรศัพท์มือถือครับ

ถามว่าทำไมถึงเป็นมือถือ

เธอตอบว่าราคามันก็เท่าๆกับที่คนอื่นซื้อนั้นละ

แต่เธอรู้สึกว่ามือถือเครื่องนี้ "ทน ตกกี่ครั้งก็ไม่พัง และที่สำคัญ เธอใช้ฟังค์ชั่นของเครื่องได้ครอบคุลมกว่าใครๆ"

ครับ... ถ้าเป็นเคสด้านบน ผู้ ญ คนนี้ซื้อของที่คุ้มค่าที่สุด โดยดูที่ "Product" ครับพี่

แต่ในความเห็นส่วนตัว... ผมคิดว่าผู้ ญ ส่วนใหญ่จะรู้สึกคุ้ม เมื่อพวกเธอต่อราคา/หรือซื้อได้ถูกกว่าชาวบ้านครับ

เพราะว่าบางทีซื้อมาก็ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์อะไรมากมายเท่าไหร่ ซื้อเพราะอยากซะเยอะครับ ^^

ขอบคุณ น้องโปเต้ และ น้องเอิร์ท ครับ

วันนี้มีอีกเคสน่าสนใจ

เป็นพนักงานบริษัทประกัน (ตำแหน่งน่าจะหัวหน้าหน่วยเลยครับ)

"พี่เคยซื้อของชิ้นไหนแล้ว คุ้มค่าที่สุด ในชีวิตไหมครับ"

"อือม... (ผ่านไป 1 นาที) เคยซื้อนาฬิกา Dior นะ"

"ซื้อที่ไหนครับ"

"ซื้อที่เจ๊เล้ง"

"แล้วไปได้มายังไงครับ"

"ก็ ตอนแรกว่าจะไปซื้อเครื่องสำอางที่นั่น แต่ พอดีเจอเรือนนี้ถูกใจเลยได้มา"

"ที่ว่า ถูกใจ นี่ยังไงครับ"

"ก็ มันเป็นเรือน สี่เหลี่ยมนะม่อน แล้วเป็นสีทอง เปลี่ยนสายได้ 3 สีเลย"

"ไปซื้อถึงเจ๊เล้ง มันต่างยังไงกับที่อื่นครับ"

"ก็เจ๊เล้งเขาขายถูกไง"

"ถูกยังไงครับ"

"ก็ เขาซื้อของเงินสดมาขาย มันเลยถูกไงจ๊ะ"

"แล้วเรือนนี้ มันคุ้มยังไงครับพี่"

"ก็ซื้อมาเป็นรางวัลให้ตัวเองหน่ะนะ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ 12 ปีแล้ว เรือนยังไม่ลอกเลย แล้วก็ แฟนพี่เป็นคนช่วยเลือกด้วยนะ พอมาคิดดู ใช้ตกปีละ 3000 กว่าบาทแล้ว"

"โห ครับ มันขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

"ใช่ ไม่รู้จุดคุ้มทุนมันอยู่ตรงไหนนะ"

"ผมว่ามันอยู่ตรง ตั้งแต่ซื้อแล้วหล่ะครับพี่"

 

เป็นไงครับ ผู้หญิงเขาฉลาดซื้อของกันไหมครับ

ถึงแม้ว่าจะราคาแพง แต่เขาไม่สนใจนะครับ เขาแค่ พอใจ ก็คุ้มแล้ว

อย่างที่เคยบอก

ผู้ชายมีแนวโน้มจ่าย 2 เท่าในสิ่งที่ตัวเองต้องการอยากได้

แต่ผู้หญิงยอมจ่ายสินค้าที่ลดลง 50% ในสิ่งที่ยังไม่ได้ต้องการ

jw

ค่ะ เห็นด้วยค่ะ เพราะตัวเองก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ

คือได้ไปเดินเล่นที่save oneโคราช(คล้ายกับโต้รุ่ง) เดินไปเจอร้านขายเครื่องสำอางค์ทั่วไป

ก็หยุดยืนดูแล้วพี่เจ้าของร้านก็เข้ามาถาม ว่าสนใจสินค้าตัวไหน บ้าง

เราก็ตอบไปว่าอยากดูครีมรองพื้น พี่เค้าก็แนะนำมาให้ 2 ตัว แล้วก็อธิบายสรรพคุณ และความแตกต่างและบอกว่า

เนี่ยพี่ก็ใช้เหมือนกัน เราก็ดูก็โอเค แต่เราชอบตัวหนึ่งคือพี่เค้าลองเทสที่หลังแขน เราก็ดูว่ามันเนียนดีโอเค ก็เลยถามว่าเท่าไรพี่เค้าก็

บอกว่า 120 บาท แต่ถ้าเราซื้อจะลดให้ เหลือ 80บาท อย่าตกใจนะค๊ะว่าทำไมถูกจัง กล้าใช้ได้ยังไง

คือเราก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้ทุกวันหรอก คิดว่าคงไม่เป็นไรก็เลยซื้อ และด้วยหลักการขายของพี่เจ้าของร้าน

เราก็เลยได้เครื่องสำอางค์อย่างอื่นกลับบ้านด้วย

ที่คิดว่าคุ้มค่าที่สุด เพราะราคา เพียง 80 บาท แต่ปัจจุบันเราก็ยังใช้อยู่และดีกว่าเครื่องสำอางค์ยี่ห้อดัง

สรุปก็คือ ราคา(price) ที่พี่เค้าลดให้ก็มีส่วน แต่เราคิดว่าตัวพี่เจ้าของร้าน(people)ก็สำคัญ เพราะเครื่องสำอางค์เป็นสินค้าที่ละเอียด

อ่อน จะต้องใช้คนขายที่เข้าใจสินค้า และเคยใช้สินค้าด้วยตัวเอง เมื่อไรที่ทำให้ผู้หญิงมั่นใจได้ คุณก็ขายของได้หมด

ค่ะอย่าง k.ไพรัชซ์ บอกไป

สิ่งที่ตัวดิฉันซื้อแล้วรู้สึกคุ้มคือ"โทรศัพท์มือถือ"

และก็ถูกที่ไพรัชซ์บอกดิฉันตัดสินใจจากตัว product แต่ เป็นการตัดสินใจแบบ product : price ค่ะ

จริงๆอาจจะไม่ซื้อเครื่องนี้เลยถ้าเจ้าของร้านไม่ยอมลดราคาให้สักนิดต่อให้ชอบมากขนาดไหนก็ตาม

และก็ยังคงใช้หลักนี้ในการซื้อของอยู่ประจำค่ะ.. ^^

ขอบคุณครับสำหรับบทความทุกๆบท

ขอบคุณ ท่านประธาน แจ๋วแหวว (เด๋วไว้เลี้ยงคืนที่อุดรนะจ๊ะ ... ที่รัก)

ขอบคุณ น้องผักบุ้งกรอบ สุดสวย

ขอบคุณ คุณ kwunDD , น้องโปเต้ และ น้อง เอิร์ท อีกรอบ

 

พอได้อ่านเรื่องของ น้องผักบุ้งกร๊อบกรอบ แล้ว นึกขึ้นได้ครับ

ม่อนเองก็เป็นเจ้าของร้านเล็กๆ ขายอะไหล่รถกระบะ

ไม่ค่อยมีผู้หญิงเข้ามาร้านเท่าใดนัก

 

แต่ว่า พอมีผู้หญิงเข้ามา ก็เข้าใจ พฤติกรรมผู้หญิงเลยครับ

เธอต่อผมซะ ผมหงายหลัง

เพราะเดิมทีขายให้ผู้ชาย เขาจะซื้อไปซ่อมรถของเขาซะเป็นส่วนใหญ่

ผู้ชาย จะดูที่ ประโยชน์ที่เขาจะได้รับ ทั้งความปลอดภัย ความคุ้มค่า

แต่ผู้หญิงที่เข้ามาที่ร้านผม ส่วนใหญ่ บอกราคาไปจะ "ขอต่อไว้ก่อน"

(น้องไพรัชช์ จะเอาไป ศึกษาต่อได้เลยครับ)

"เฮียคะ ขอลดซักหน่อยได้ไหมค่ะ อันนี้ 250 เจ๊ขอ 200 ก็พอนะคะ"

โห ครับ ทุนมา 230 กำไรแค่ 20 บาทเองครับเพ่ มาต่อซะ

ครือ ร้านผมมีนโยบายว่า ไม่ต้องต่อ เพราะไม่ได้เอากำไรอะไรมากมาย

ถ้าจะต่อเหมือนซื้อของตลาด อย่างนี้ ผมไม่เป็นอันทำมาหารับประทานสิครับ 555

 

ใครมี มุขเด็ดๆในการต่อราคา หรือ กลยุทธการบอกราคาผู้หญิง

ผมจะเอาไปขึ้นอีกหัวข้อนึงนะครับ

 

โปรดติดตาม ตอน ต่อ ไป ...

by ALMON : ประธาน ABC Club

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท