ข้อคิดจาก"อวตาร"


จนในที่สุดมนุษย์ผู้ที่นิยมความรุนแรงก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างราบคาบแก่ชนเผ่าพื้นเมืองชาวนาวี

        จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ไปดูภาพยนตร์ฝรั่งเรื่อง"อวตาร"ที่โรงภาพยนตร์ในห้างสรรพสินค้าไดอาน่า หาดใหญ่ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างโดยเจมส์ คาเมรอน ผู้เคยสร้างภาพยนตร์เรื่อง"ไททานิก"ที่เคยโด่งดังมาแล้ว

        ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเค้าโครงการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจ นอกจากความสนุกสนานตื่นเต้นเร้าใจแล้ว ยังให้ข้อคิดพินิจพิเคราะห์นำมาปรับใช้ในการทำงานของเจ้าหน้าที่กับคนพื้นถิ่นพื้นเมืองในแต่ละพื้นที่ ที่มีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ทางภาษาและวัฒนธรรมต่างจากส่วนกลาง หรือต่างจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ

        เป็นเรื่องของมนุษย์ที่เดินทางไปยังดาวดวงหนึ่ง ชื่อดาวแพนโดรา มีชนพื้นเมือง คือพวกชาวนาวี การไปยังดาวแพนโดราของมนุษย์ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาแร่ธาตุอเมทีตส์ที่มีพลังงานมหาศาล ซึ่งอยู่ใจกลางชุมชนของชาวนาวี

        หากจะเข้าไปขุดเอาแร่ที่มีค่าดังกล่าวมี 2 หนทาง คือ ขับไล่ชนเผ่าชาวนาวีออกไป ซึ่งก็คือการทำสงคราม  ได้มีการวิจัยพันธุกรรมมนุษย์ที่มาจากดาวแพนโดร่า โดยเอา DNA ของพี่พระเอกสวมเข้าไปในร่างชาวนาวีโดยใช้ร่างกายพระเอกที่เป็นนาวิกโยธินขาพิการ ไปทำงานในร่างชาวนาวี เพื่อเข้าไปเรียนรู้สืบราชการลับ

        ภารกิจของพระเอกคือ เจรจาโดยสันติ แต่การเข้าไปของพระเอกซึ่งไปพบลูกสาวหัวหน้าเผ่า ก็คือนางเอก ทำให้ความคิดที่จะเจรจาเพื่อเอาแร่ธาตุที่มีค่าของชนเผ่าก็เปลี่ยนไป ทำให้พระเอกหลงรักนางเอกและเข้าอกเข้าใจชนเผ่าชาวนาวีที่มีความซื่อตรงซื่อสัตย์บูชาเทพเจ้าซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิต ที่พวกชาวนาวีให้การเคารพศรัทธา

        ในเงื่อนเวลาที่สั้นนั้นมนุษย์ผู้ที่มีความโลภ เพียงหวังผลประโยชน์จากชนเผ่าชาวนาวี ที่อยากเผด็จศึกโดยการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ด้วยเทคโนโลยีถล่มชาวนาวีใหราบเป็นหน้ากลอง ใช้ทั้งกำลังคน เครื่องจักรที่เหนือกว่าถล่มบดขยี้จนต้นไม้ใหญ่แห่งชีวิตของชาวนาวีหักโค่นล้มลงมา

        แต่พระเอกซึ่งตอนนี้ชีวิตและจิตใจเป็นชาวนาวีไปแล้วได้ตัดสินใจวางแผนกับพวกเพื่อนๆผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการทำลายล้างของมนุษย์ และหัวหน้าเผ่าชาวนาวี แก้เกมส์รับมือจากมนุษย์ผู้หลงลำพองว่าตนมีกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า จนในที่สุดมนุษย์ผู้ที่นิยมความรุนแรงก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างราบคาบแก่ชนเผ่าพื้นเมืองชาวนาวี

       เรื่องนี้เรามาคิดวิเคราะห์ให้ดี มันเหมือนกับ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนนี้ยังไงยังงั้น มีการนำกำลังจากส่วนกลางทั้งตำรวจ และทหาร เป็นกองพันกองพลเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งแน่นอนการใช้กำลังเหล่านี้มีแต่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินทั้งสองฝ่าย การใช้กำลังเหล่านี้ มันไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย ซึ่งจุดจบมันอาจจะคล้ายๆกับหนังเรื่อง"อวตาร"ก็ได้ใครจะไปรู้.

       

หมายเลขบันทึก: 326329เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2010 20:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 05:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีครับหมอน้อย

คงไม่สายเกินไป กับคำว่าสวัสดีปีใหม่ 2553

มาชม มาเชียร์

"จนในที่สุดมนุษย์ผู้ที่นิยมความรุนแรงก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างราบคาบแก่ชนเผ่าพื้นเมืองชาวนาวี"

ขอให้ความรุนแรง จงจบสิ้นด้วยเถิดค่ะ (อ่านแล้ว อิน ตามละครนะค่ะ)

ขอบคุณบันทึกดีดีค่ะ

พึ่งไปดูวันนี้ค่ะ ดีมากๆ Avatar ปกติไม่ชอบดูหนังในโลงค่ะ ดู sound tract ด้วย impressive มากค่ะ

ได้ข้อคิด เช่น ในที่สุดคนโลภย่อมพ่ายแพ้ค่ะ สันติสุข ความรักสามัคคีและมีความเชื่อมั่น มีสิ่งยึดเหนี่ยว จิตวิญญาณที่เข้มแข็ง ธรรมชาติที่งดงามมีชีวิต ทำให้คนดีสามารถก้าวผ่านได้ทุกอย่างค่ะ ขอบคุณรายละเอียดในบันทึกของท่านค่ะ

Febflower1

ขอโทษค่ะเขียนผิด โรงหนังค่ะ (ไม่ใช่โลงค่ะ เขียนผิดนะคะ)

หนังสนุกค่ะ

แต่ถ้าเปรียบเทียบกับสามจว.ของเรา คงไม่สนุกเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ

ไปดูหนังเรื่องนี้เพราะเพื่อนอกหักค่ะ

แล้วเขาก็พยายามลากเราจะให้ไปดูหนังรัก

เราก็ไม่ชอบดูหนังรัก

เลยบอกว่า ชั้นจะไปดูเป็นเพื่อนเธอ แต่ต้องไม่ใช่หนังรัก

ก็เลยตกลงใจดู อวตาร

เนื่องจากหนังมีความยาวพอสมควร

ทำให้คนอกหักนอนหลับ

แต่ก็ยังรู้นะว่าพระเอกหล่อ

เฮ้อ นี่แหละคนอกหัก

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับพี่ยาว

       พอดีต้นเดือนกุมภาผมเข้าไปพัฒนาโรงเรียน ตชด.สังวาลย์วิท 4 ที่บ้านวังไทร แม่หวาด(ไปช่วยเขาปลูกผักชี ) เพื่อรับสมเด็จพระเทพฯเสด็จมาทรงงานตามพระราชดำริ โรงเรียน ตชด.ในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้ ซึ่งจะมีทุกหน่วยงานเกษตรจังหวัด ไม่ทราบพี่ยาวให้ใครไปครับวันนั้น เลยไม่ได้ตอบคอมเม้นท์เพื่อนพ้องน้องพี่สมาชิก G2K ขอบคุณสำหรับ ส.ค.ส ปีใหม่ครับพี่ยาว.

สวัสดีครับครูจิ๋ว

  • ไม่เจอกันนานสบายดีนะครับ ผมก็คอยติดตามอ่านบันทึกของครูจิ๋วอยู่เหมือนกัน
  •  ขอบคุณครับ.

สวัสดีครับคุณเกด เกศนี บุณยวัฒนางกุล

      ครับหนังฝรั่งเรื่องนี้สนุกมาก และก็ทำรายได้ขึ้นมาอันดับ 1 แทนที่หนังเรื่องไททานิก โดยคนสร้างคนเดียวกัน.

สวัสดีครับคุณพอลล่า ที่ปรึกษาตัวน้อย

       สบายดีนะครับ คิดถึงมาก.

 

สวัสดีครับคุณNatcha Chalernklang

       ขอขอบคุณครับ.

เหมือนสะท้อนประเทศมหาอำนาจเลยอ่ะ ยกตัวอย่าง America ก่อนนั้น บรรพรุษ ตั้งเดิมของ อเมริกัน มาจากเกาะอังกฤษซึ่งเดินทางมาตั้งเมืองใหม่ ที่ซึ่งเชื่อว่าที่แห่งนั้นมีแร่หายาก นั่นก็คือทองคำนั่นเอง แต่สิ่งแรกที่แขกจากอังกฤษพบเจอนั่นก็คือ ชนเผ่าดั้งเดิมพื้นเมืองที่ขนานนามว่า อินเดียนแดง ซึ่งมีวิธีชีวิตอย่างเรียบง่าย สมถะ อยู่กับธรรมชาติ ไม่ฆ่าสิ่งมีชีวิตโดยไร้เหตุผล อยู่อย่างสงบ และสันติ โดยมีผู้นำทางวิญญาณเช่นเดียวกันอย่างในเรื่องแป๊ะเลย สิ่งที่ชาวอินเดียนพบเจอ คือ การเข้ามารุกรานของแขกผู้เรียกตนว่าเป็นผู้มีวัฒนธรรมและการศึกษาที่สูงกว่า มีเทคโนโลยีที่ทัน สมัยกว่า

สงครามระหว่างเจ้าถิ่นกลับแขกผู้มาเยือนจึงเกิดขึ้น ด้วยเหตุผลในการแย่งดินแดนนี้เอง แม้นชนเผ่าอินเดียนจะยืนหยัดเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดมากแค่ไหน ธนูไม้กับหอกโลหะไม่มิอาจต้านทานปืนไฟของแขกผู้มาเยือนได้ เด็ก สตรี คนชรา ต้องล้มตายไปในสงครามเป็นอันมาก และท้ายที่สุดชัยชนะจึงเป็นของแขกที่พึ่งมาอยู่ใหม่ และเป็นบรรพบุรุษผู้ก่อตั้ง USA นั่นแหละ

ซึ่งในปัจจุบันลูกหลานของแขกผู้มาเยือนเหล่านั้นก็ยังคงยึดถือแนวทางในการตักตวงทรัพยากรจากถิ่น อื่นโดยอาศัยเหตุผลที่ชอบธรรมที่ฟังแล้วดูดีเท่านั้นเอง

นี่แหละข้อคิดที่ผมได้จากการดูหนังเรื่องนี้ ถ้าลองสังเกตดูดี ชุด อาวุธ การแต่งกาย NAVY จะคล้ายพวกอินเดียแดงมาก นี่

แต่ต่างกันนิดนึง ในหนัง NAVY ชนะ แต่ในชีวิตจริงคงไม่มี โทรุ(นกยักษ์สีส้มอ่ะ)มาให้ขี่หลังยิงธนูเล่นๆ แล้วเอวาก็คงไม่พา หมาป่ากะแรด มาขวิดให้หรอก เชื่อดิ

เหมือนกันกับอวตารจริงๆ พระเอกของเราก็คือคุณทหารทุกคนที่พยายามเข้าถึงชาวบ้านและให้เข้าใจว่าทำอะไรกันอยู่

ผมเห็นด้วยครับว่าเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากความเห็นแก่ตัวครับ

ชีวิตจริง กับหนังมันก็คือภาพสะท้อน

โลกแห่งความเป็นจริง มันยากยิ่งและตรงกันข้ามกับโลกนิยาย

ขอขอบคุณ

  • เจ๋ง เด็กแม่ขรี
  • คุณnepal
  • คุณณัฐพล
  • คุณเลิศฤทธิ์ ศรีหงส์
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท