ปณิธานปีใหม่ ทำอย่างไรให้สำเร็จ (making new year’s resolution works)


ให้ใคร่ครวญว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นมีสาเหตุมาจากอะไร ควรมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร เพราะ “วิธีการ มีผลโดยตรงต่อสถานการณ์/ผลลัพธ์ที่ปรากฏ”

สุกัญญา หญิงสาววัย 32 พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งกำลังนั่งตกแต่งออฟฟิศด้วยริบบิ้นสีรุ้ง ดอกไม้สดหลากสี พร้อมกับกระถางต้นไม้ต้นใหม่ที่เจ้านายของเธอเพิ่งซื้อมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศที่ทำงานต้อนรับปีใหม่ ส่วนตัวเธอเอง ปีใหม่คือการออกไปหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ เพราะว่าตัวเก่าเริ่มคับขึ้นทุกปี

2010 ปีใหม่เวียนเข้ามาอีกหน หลายคนกำลังตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ และเป้าหมายใหม่ๆ แต่สุกัญญาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เธอกลับชินชากับเป้าหมายเดิมๆ ที่ไม่เคยสำเร็จ เคยอยากจะลดน้ำหนักแต่ก็อดไม่ได้ซักที อยากได้งานใหม่แต่ไม่กล้าลาออก กลัวเจองานที่แย่กว่าเดิม อยากจะเก็บเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำยังไงก็เก็บเงินไม่ได้ซักที เอาเหอะก็เรามันโสดนี่หว่า เอาไว้แต่งงานแล้วค่อยว่ากันใหม่ (แล้วจะได้แต่งเมื่อไรก็ยังไม่รู้ เพราะแฟนก็ยังไม่มี เฮ้อ..) ปีแล้วปีเล่า สุกัญญาเริ่มปรับตัวให้เคยชินกับสิ่งที่เป็นอยู่และเลิกคิดที่จะเปลี่ยนแปลง

ผู้อ่านหลายคนอาจจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันกับสุกัญญา วันนี้คงไม่สายหากเราจะเริ่มทำ New Year’s Resolution หรือ การตั้งปณิธานสำหรับปีใหม่กัน มาเริ่มกันเลย

อันดับแรก ให้พิจารณา/ประเมินตนเอง (self-assessment) ก่อนว่า ในปีที่ผ่านมานั้นมีอะไรที่เราทำได้ดี มีอะไรที่เราต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และอะไรที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษ เช่น เราอาจทำได้ดีในเรื่องการเป็นคนอัธยาศัยดีมีเพื่อนมาก แต่ทำไม่ดีในการเอาชนะตัวเองเมื่อเห็นอาหารที่น่ากินในยามสังสรรค์ หรือสนใจอยากจะเรียนต่อต่างประเทศแต่ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรง ถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่าคุณทำอะไรได้ดีหรืออะไรที่ต้องปรับปรุง ให้ลองถามคนใกล้ตัวคุณดู แล้วคุณจะทึ่งในมุมที่คุณคิดไม่ถึงเชียวล่ะ

ต่อจากนั้นให้ใคร่ครวญว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นมีสาเหตุมาจากอะไร ควรมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร เพราะ “วิธีการ มีผลโดยตรงต่อสถานการณ์/ผลลัพธ์ที่ปรากฏ” เช่น อยากจะลดน้ำหนัก แต่คุณต้องเจอกลุ่มเพื่อนสังสรรค์เป็นประจำ เจอกันทีไรเป็นต้องกิน อย่างนี้ต้องพิจารณาว่าปีนี้เราจะปฏิเสธไม่กินขณะสังสรรค์ได้ไหม หรือไม่อาจจะเจอเพื่อนน้อยลง

อันดับสอง ให้มาตั้งปณิธานว่า คุณปรารถนาจะเห็นอะไรที่แตกต่างในปีนี้ โดยอาจจะแยกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ 1) คุณอยากจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวคุณเองอย่างไร 2) เป้าหมายอะไรที่คุณอยากจะทำให้สำเร็จ เขียนลงไปให้ชัดเจน และพิจารณาว่า หนทางไปสู่เป้าหมายนั้นจะต้องมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง และหรือจะต้องขอความช่วยเหลือจากใครบ้าง เป็นต้น

อันดับสาม เมื่อได้พิจารณาตนเองแล้วว่าสิ่งใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข สิ่งใดที่สนใจ สิ่งใดที่ต้องการทำให้สำเร็จ แล้วมาใคร่ครวญถึงสาเหตุ เมื่อเขียนเป้าหมายและแผนงานชัดเจนแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คือ “ลงมือทำ”

ทฤษฎี คือ

Man + Action = Result

New Man + Action = New Result

Man + New Action = New Result

มาถึงตรงนี้ หลายคนอาจเบื่อหน่ายกับการตั้งเป้าหมายแล้วทำไม่สำเร็จ อย่าเพิ่งล้มเลิกความพยายามครับ ให้เรามาดูหนทางสู่ความสำเร็จกันว่า “ปณิธานปีใหม่ ทำอย่างไรให้สำเร็จ” ดังนี้

1) ระบุเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น จะลดน้ำหนัก 12 กิโลใน 4 เดือน เขียนไว้ในที่ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเพื่อที่จะได้อ่านเพื่อย้ำเตือนตัวเองทุกๆ วัน กรณีที่มีหลายเป้าหมาย เป้าหมายที่ดีควรมีการจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง อย่ารักพี่เสียดายน้อง ฟันธงเลยว่าอะไรควรอยู่อันดับแรก

2) เริ่มทำทีละอย่าง คุณอาจจะมีเป้าหมายหลายข้อ เอามาเริ่มกันทีละข้อก่อนจะดีไหม เช่น อยากจะเป็นคนนอนตื่นเช้า สิ่งที่ต้องทำคือ อาจจะต้องนอนแต่หัวค่ำ อะไรที่ยังทำค้างคา เอาไว้ทำต่อวันรุ่งขึ้นได้หรือไม่ หรืออาจเป็นกรณีที่จะต้องเอาชนะใจตัวเองที่จะไม่เล่นเกมส์ ดูทีวี หรือเล่นอินเตอร์เน็ตตอนดึก เป็นต้น

3) แบ่งย่อยเป้าหมายที่ตั้ง เช่น ตั้งเป้าจะลดน้ำหนักให้ได้ 12 กิโลกรัมภายใน 12 วัน หากทำได้เช่นนั้น เกรงว่าคุณอาจจะต้องไปนอนโรงพยาบาลเช่นนี้คงไม่ดีแน่ ให้ทำเป็น เป้าหมายใหญ่คือ 4 เดือน 12 กิโล แล้วมาแยกย่อยเป็นเป้าหมายเล็กคือ เดือนละ 3 กิโล อาจจะเขียนเป็นโปรแกรมลดน้ำหนัก ทำตามแผนแล้วมาประเมินเป็นรายเดือนไป หากเดือนแรกไม่สำเร็จ ยังพอทำอะไรเพิ่มเติมได้ในเดือนที่สอง

4) หาคนช่วยประเมินหรือร่วมรับผิดชอบร่วมกัน (accountability) เช่น หากเป็นดังกรณีข้างต้น เป้าหมายในการลดน้ำหนัก 12 กิโล 4 เดือน หากเพื่อนคุณเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มที่คุณจะต้องเจอสังสรรค์ประจำ เพื่อนคนนี้จะเป็นคนคอยปรามหากคุณเริ่มทานเยอะและคอยถามความคืบหน้าเพื่อให้คุณยังคงอยู่ในโปรแกรม อีกทั้งช่วยประเมิน ให้ข้อเสนอแนะ และที่สำคัญคือ ให้กำลังใจเพื่อที่คุณจะทำให้สำเร็จได้

ในการตั้งปณิธานนั้น อาจจะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้ ควรมีการใคร่ครวญที่ดี ไม่ต้องอายหรือกลัวขายหน้าหากต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมในภายหลัง หากลงมือทำแล้ว ไม่ต้องรู้สึกผิดหากอาทิตย์แรกผลออกมาไม่ดีอย่างที่คาดหมายไว้ หรือมีบางครั้งที่อาจลืมทำหรือขาดช่วงไปเพราะมีอุปสรรคหรือมีช่วงเวลาที่ท้อแท้อยากจะล้มเลิกความตั้งใจ ทั้งนี้ขอให้ระลึกเสมอว่า “ไม่มีคำว่าสายในการเริ่มต้นใหม่” ขอให้มีความเชื่อและจงทำให้สำเร็จ

เพียงเท่านี้คุณก็จะมีปีใหม่ที่สดใสและใหม่อย่างที่คุณปรารถนา ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

สุขสันต์วันปีใหม่ 2011

เดชอุดม ขุนนะสิทธิ์

07.01.2010

หมายเลขบันทึก: 325699เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2010 18:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอให้กำลังใจแก่ทุกท่านสำหรับปณิธานในปีใหม่ค่ะ...

ใจจริงอยากให้มีคนอ่านและลองนำไปปฏิบัติดูเยอะๆ นะ เพราะเมื่อเราได้มีโอกาสทบทวนตนเองแล้วตั้งปณิธาณเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง เราก็จะเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิมในทุกๆ ปี และสิ่งนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความสุขที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของผู้นั้น

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ แล้วสิ้นปี เอาไว้มาเล่าแบ่งปันกันนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท