.
ครูกานท์
.
ในบรรดา สคส. ที่ผมได้รับในปี ๒๕๕๓ นี้ ล้วนมีแง่มุมของความรู้สึกดีๆ ที่ยังคงรักษาความทรงจำเก่าๆ มิตรภาพที่แน่นหนัก แม้โลกของออนไลน์บนหน้าจอมือถือจะยั่วยุบริการสะดวกและรวดเร็วเพียงไร แต่คนแห่งความทรงจำก็ไม่เลือกใช้มันในกรณีของความรู้สึกที่ลึกซึ้ง
.
มีอยู่ฉบับหนึ่งครับที่ผมประทับใจหยิบขึ้นมาอ่านอยู่หลายครั้ง มิใช่จะมีถ้อยคำ หรือภาพที่มหัศจรรย์อันใด หากแต่เป็นถ้อยคำและภาพที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา...
ไม่มีใครอื่นจะรู้ถึง “สาร” อันซุกซ่อน ซึ่งสามารถสัมผัสรับรู้ได้เฉพาะเพียงผู้ส่งและผู้รับเท่านั้น แต่ด้วยแง่มุมอันซุกซ่อนดังกล่าวเป็นความงดงาม ดั่งดวงดอกไม้ที่แสนหอม โชยมากับสายลมอันบริสุทธิ์สะอาด มิใช่เรื่องลับลวงอะไร จึงอยากนำมาขยายความรู้สึกดีๆ สู่มิตรมวลผู้อ่านในอุทยานอากาศแห่งนี้ด้วย
.
(โปรดสังเกตคำในวงเล็บ "ที่เหลาดินสอสีฟ้า" อันเป็นที่มาของโพสนี้)
.
ประเด็นแรก ภาพนี้น่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับต้นกล้าของแผ่นดิน ซึ่งมีนัยแห่งความรัก ความงอกงาม และความอบอุ่น จากพ่อถึงลูก จากต้นไม้ใหญ่ถึงต้นไม้เล็ก...
ประเด็นที่สอง ภาพนี้ราวจะสื่อนัยถึงวันนั้น วันที่เธอผู้ส่ง สคส.นำคณะนักศึกษาวิชาเอกภาษาไทยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มาเรียนรู้ที่ทุ่งสักอาศรม เพื่อปลูกต้นไม้แห่งความรักภาษา ผ่านการอ่านคิดเขียนเรียนรู้ธรรมชาติด้วย และ
ประเด็นที่สาม คำว่า “ที่เหลาดินสอสีฟ้า” ในวงเล็บท้ายนามของเธอ เกี่ยวข้องกับถ้อยคำในสมุดบันทึกของผม ที่เขียนเป็นตัวอย่างพร้อมๆ กับการฝึกเขียนบันทึกของเธอและลูกศิษย์ในวันนั้น โดยผมให้โจทย์ว่า “ให้ทุกคนเขียนถึงอะไรก็ได้ที่ตนเองมองเห็นขณะนี้ ครูกานท์ก็จะเขียนไปพร้อมๆ กับคุณด้วย คนละประมาณห้าบรรทัด มาลงมือกันเลยครับ” เวลาผ่านไปราว ๑๐ ถึง ๑๕ นาที หลังจากทุกคนเขียนเสร็จและได้อ่านผลงานของตนเองกันแล้ว ผมก็อ่านบันทึกของผมเป็นคนสุดท้าย ดังนี้ครับ...
.
.
เสียดายครับ ที่ผมยังค้นไม่พบบันทึกในส่วนที่เป็นของคุณและเธอที่เขียนกันในวันนั้น...
ขอความมี อายุบวร
แด่ครูลำดวนและครอบครัวครับ