การบริหารงานโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์*
(Results Based Management - RBM)
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ เป็นเทคนิควิธีการบริหารจัดการสมัยใหม่ที่นำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์และวิธีการบริหารงานไปจากเดิมที่ให้ความสำคัญต่อทรัพยากรหรือปัจจัยนำเข้า (input) และอาศัยกฏระเบียบ เป็นเครื่องมือในการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความถูกต้อง สุจริตและเป็นธรรม โดยหันมาเน้นถึงวัตถุประสงค์และสัมฤทธิ์ผลของการดำเนินงานทั้งในแง่ของผลผลิต(Output) และผลลัพธ์ (Outcome) และความคุ้มค่าของเงิน (Value for money) รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้รับบริการ
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Results Based Management - RBM) แยกออกเป็น
ผลสัมฤทธิ์ = ผลผลิต + ผลลัพธ์
(RESULTS) (OUTPUTS) (OUTCOMES)
คือ วิธีการบริหารจัดการที่เป็นระบบมุ่งเน้นที่ผลสัมฤทธิ์หรือผลการปฏิบัติงานเป็นหลัก โดยมีการวัดผลการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
และการบริหารงานโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์นั้นต้องใช้หลักการบริหาร มีหลักปฏิบัติ 6 ประการ แต่การบริหารงานโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์นั้นนำมาใช้เพียง 4 หลักปฏิบัติตั้งแต่ข้อ 3 ถึง ข้อ 6
1. หลักนิติธรรม (Rule of Law) หมายถึง การตรากฎหมายที่ถูกต้องเป็นธรรม การบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย การกำหนดกฎ กติกาและการปฏิบัติตามกฎ กติกาที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัดโดยคำนึงสิทธิ เสรีภาพ ความยุติธรรมของสมาชิก
2. หลักคุณธรรม (Ethics) หมายถึง การยึดมั่นในความถูกต้องดีงาม การส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนพัฒนาตนเองไปพร้อม ๆกัน เพื่อให้คนไทยมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ขยัน อดทน มีระเบียบวินัย ประกอบอาชีพสุจริตจนเป็นนิสัยประจำชาติ
3. หลักความโปร่งใส (Transparency) หมายถึง การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในชาติโดยปรับปรุงกลไกการทำงานขององค์กรทุกวงการให้มีความโปร่งใส
4. หลักการมีส่วนร่วม (Participation) หมายถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้และเสนอความเห็นในการตัดสินใจปัญหาของประเทศ ไม่ว่าด้วยการแจ้งความเห็น การไต่สวนสาธารณะการประชาพิจารณ์ การแสดงประชามติหรืออื่น ๆ
5. หลักความรับผิดชอบ (Accountability) หมายถึง การตระหนักในสิทธิหน้าที่ความสำนึกในหน้าที่รับผิดชอบ ตลอดจนการเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และความกล้าที่จะยอมรับผลดีและผลเสียจากการกระทำของตน เช่น รับผิดชอบต่อลูกค้า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องยอมรับต่อผลการดำเนินการ
6. หลักความคุ้มค่า (Utility) หมายถึงการบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ส่วนรวม โดยรณรงค์ให้คนไทยมีความประหยัด ใช้อย่างคุ้มค่าสร้างสรรค์สินค้า และบริการที่มีคุณภาพสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก และรักษาพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืน RBM : Results เกี่ยวข้องกับทุกกระบวนการของการบริหาร ได้แก่ PDCA ; Plan ต้องกำหนดวัตถุประสงค์/เป้าหมายชัดเจน (ต้องการผลสัมฤทธิ์อะไร) ; Do ปฏิบัติมุ่งให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่วางแผนไว้ ; Check วัดว่าปฏิบัติได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่วางแผนหรือไม่ (KPI ชัดเจน) และAct ปรับปรุงแก้ไขให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่วางแผนไว้
การติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Monitoring) เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งเพราะเรื่องนี้ เป็นกระบวนการวัดผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เป็นการกำกับ ตรวจสอบการใช้ทรัพยากรในการปฏิบัติงาน สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโครงการของรัฐได้ โดยมีประโยชน์ของการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน อันได้แก่ กระตุ้นให้เกิดการสื่อสารระหว่างกัน ปรับปรุงการกำหนดนโยบาย สามารถแสดงภาพรวมของสถานภาพ สนับสนุนการวิเคราะห์แนวโน้มผลการปฏิบัติงาน
การบริหารมุ่งผลสัมฤทธิ์ เกี่ยวข้องกับการกำหนด
O สามารถวัดผลการปฏิบัติงานได้จริง
O สามารถบรรลุได้ มีความสมเหตุสมผลที่จะใช้เป็นตัวชี้วัด ไม่วัดในสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากความสามารถของส่วนราชการ
O สามารถสื่อสารทำความเข้าใจได้ตรงกัน มีความเฉพาะเจาะจง
O สามารถตรวจสอบได้
O สามารถวัดผลได้อย่างเท่าเทียมกัน ผลงานเหมือนกันควรใช้ตัวชี้วัดเดียวกัน
O สามารถวัดผลการปฏิบัติงานภายในเวลาที่กำหนด
การกำหนดตัวชี้วัดต้องกำหนดอย่าง SMART (S pecific- ฉพาะเจาะจง ชัดเจน ; M easurable- สามารถวัดได้ ; A chievable - สามารถบรรลุได้ ; R ealistic - สอดคล้องกับความเป็นจริง ; T imely - วัดได้เหมาะสมตามช่วงเวลาที่กำหนดพอเป็นตัวชี้วัดแล้วก็ต้องมาดูการแสดงค่าให้ชัดเจน) ดังนั้น ตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่ดีจะต้องแสดงค่าที่แสดงออกมาเป็นตัวเลขอันใดอันหนึ่ง เช่น เป็นร้อยละ (Percentage) อัตราส่วน (Ratio) ค่าเฉลี่ย (Average or Mean) จำนวน ( Number) อัตรา (Rate) และสัดส่วน (Proportion)
ประโยชน์ของ RBM ที่ผู้บริหารนำมาใช้ในราชการ มีดังนี้ เป็นเครื่องมือในการติดตามงาน เป็นเครื่องมือในการจัดสรรทรัพยากร ผู้บริหารระดับสูงจะทราบว่าองค์กรอยู่ ณ ตำแหน่งใด สนับสนุนให้องค์กรมีวิสัยทัศน์
1. บุคลากรมีความเข้าใจ
2. ลดความยุ่งยากในการเก็บข้อมูลการประมวลผล
3. กำหนดตัวชี้วัดที่สำคัญ
4. ผู้บริหารเห็นความสำคัญนำไปใช้ประโยชน์
5. มีทีมงานที่มีความสามารถ
ปัญหาที่พบ
1. ความไม่เข้าใจของเจ้าหน้าที่
2. ปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น (เก็บข้อมูลทุกวัน)
3. การวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงาน
แนวทางแก้ไข
1. จัดอบรมสัมมนาปีละ 2 ครั้ง ทำเอกสารคู่มือ VDO ออกติดตามงาน
2. ตั้งทีมงาน กระจายงาน เฉพาะงานที่จำเป็น
3. ประชุมวิเคราะห์ผลร่วมกัน มีประโยคที่น่าสนใจอยู่ 3 ประโยคฝากไว้สำหรับผู้ที่จะก้าวเป็นนักบริหารในอนาคตต่อไป
1. If you can’ t measure, you can’ t manage วัดไม่ได้ บริหารไม่ได้
2. If you can’ t measure, you can’ t improve วัดไม่ได้ พัฒนาไม่ได้
3. What gets measured, gets done สิ่งไหนที่วัด สิ่งนั้นคนจะสนใจ
การบริหารงานโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์นั้นจะสำเร็จได้ต้อง มีพื้นฐานของการสื่อสารที่ดี การมีส่วนร่วม และการมีความมุ่งมั่นต่อความสำเร็จของบุคลากร โดยมีขั้นตอนดังนี้
ทั้ง 3 ข้อ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมการบริหารผลการปฏิบัติงานได้ต่อไป
ภาษาอังกฤษใช้คำว่า I AM READY ย่อมาจาก
* I (Intergrity) การทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี
* A (Activeness) ขยัน ตั้งใจทำงาน
* M (Moral) มีศีลธรรม
* R (Relevancy) มีการเรียนรู้และปรับตัวให้ทันกับปัญหา
* E (Efficiency) การทำงานที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพ
* A (Accountability) การมีความรับผิดชอบต่อผลงาน
* D (Democracy) มีใจและการกระทำที่เป็นประชาธิปไตย
* Y (Yield) มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และปฏิบัติงานโดยเน้นผลสัมฤทธิ์
แนวคิดการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์มีประโยชน์ขอขอบคุณที่เสนอความรู้ดีให้อ่น Thank you
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ
สวัสดีค่ะ วันนี้น้องไอซ์ ครบ 3 ขวบเต็มแล้ว..มาเชิญกินหนมเค้กค่ะ..