แบบประเมิน ความฉลาดทางอารมณ์ เด็กอายุ 3-5 ปี
ความหมายของความฉลาดทางอารมณ์เด็ก
หมายถึง ความสามารถในการรู้จัก เข้าใจและควบคุมอารมณ์ของตนได้สอดคล้องกับวัย มีการประพฤติปฎิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสมและมีความสุข ความฉลาดทางอารมณ์เป็นคุณลักษณะพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ทั้งความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม
การประเมินความฉลาดทางอารมณ์เด็ก
การประเมินความฉลาดทางอารมณ์เด็กจะช่วยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้ทราบถึงจุดดีจุดเด่นของลักษณะความฉลาดทางอารมณ์ที่ควรส่งเสริมและจุดอ่อนที่ควรพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป รวมทั้งสามารถใช้ในการติดตามเพื่อดูพัฒนาการทางอารมณ์ว่ามีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใดเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
การประเมินความฉลาดทางอารมณ์เด็ก ประเมินคุณลักษณะ 3 ด้าน คือ
ความฉลาดทางอารมณ์ ประเมินได้โดยการตอบข้อความที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรมของเด็กที่แสดงออกในลักษณะต่าง ๆ ในช่วง 4 เดือน ที่ผ่านมา แม้ว่าบางประโยคอาจจะไม่ตรงกับที่เด็กเป็นอยู่ก็ตาม ขอให้ท่านเลือกคำตอบที่ใกล้เคียงกับที่เด็กเป็นอยู่จริงมากที่สุด การตอบตามความเป็นจริงและตอบทุกข้อจะทำให้ท่านได้รู้จักเด็กและหาแนวทางในการพัฒนาเด็กให้ดียิ่งขึ้นได้
มีคำตอบที่เป็นไปได้ 4 คำตอบ สำหรับข้อความแต่ละประโยค คือ ไม่เป็นเลย เป็นบางครั้ง เป็นบ่อยครั้ง เป็นประจำ การประเมินให้ใช้ความรู้สึกของผู้ประเมินเป็นหลัก แต่กรณีที่ไม่แน่ใจให้ใช้เกณฑ์ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการประเมิน
ไม่เป็นเลย หมายถึง ไม่เคยปรากฏ
เป็นบางครั้ง หมายถึง นาน ๆ ครั้ง หรือทำบ้างไม่ทำบ้าง
เป็นบ่อยครั้ง หมายถึง ทำบ่อย ๆ หรือเกือบทุกครั้ง
เป็นประจำ หมายถึง ทำทุกครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์นั้น
การประเมินมีข้อพึงระวังดังนี้
ข้อความต่อไปนี้เป็นการอธิบายถึงอารมณ์ ความรู้สึกและพฤติกรรมของเด็กในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา
โปรดใส่เครื่องหมาย P ในช่องที่ท่านคิดว่าตรงกับตัวเด็กมากที่สุด มีคำตอบที่เป็นไปได้ 4 คำตอบ สำหรับข้อความแต่ละประโยคคือ ไม่เป็นเลย เป็นบางครั้ง เป็นบ่อยครั้ง เป็นประจำ
|
|
ไม่เป็น เลย |
เป็น บางครั้ง |
เป็น บ่อยครั้ง |
เป็น ประจำ |
คะแนน |
1 |
บอกความรู้สึกของตนเองได้เมื่อถูกถาม เช่น รู้สึกดีใจ เสียใจ โกรธ ไม่พอใจ |
|
|
|
|
|
2 |
มักโอบกอดหรือคลอเคลียคนที่ตนรัก |
|
|
|
|
|
3 |
ยิ้มแย้มเมื่อเล่นกับเพื่อน |
|
|
|
|
|
4 |
แสดงความเห็นใจเมื่อเห็นเพื่อหรือผู้อื่นทุกข์ร้อน เช่น บอกว่าสงสาร เข้าไป ปลอบหรือเข้าไปช่วย |
|
|
|
|
|
5 |
หยุดการกระทำที่ไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของผู้ใหญ่ |
|
|
|
|
|
6 |
ร้องไห้งอแงเวลาไปโรงเรียนหรือสานที่ที่ไม่อยากไป |
|
|
|
|
|
7 |
กลัวสิ่งที่อยู่ในจิตนาการ เช่น ผี สัตว์ประหลาด |
|
|
|
|
|
8 |
เอาแต่ใจตนเอง |
|
|
|
|
|
9 |
กลัวคนแปลกหน้า |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 1 - 9 |
|
|||||
10 |
เต็มใจแบ่งปันสิ่งของให้คนอื่นๆ เช่น ขนม ของเล่น |
|
|
|
|
|
11 |
ชวนคนอื่นให้เล่นด้วยกัน |
|
|
|
|
|
12 |
สงสาร ไม่ทำร้ายสัตว์ |
|
|
|
|
|
13 |
บอกผู้ใหญ่เมื่อเพื่อนหรือคนในครอบครัวไม่สบาย |
|
|
|
|
|
14 |
ใจดีกับเด็กที่เล็กกว่า |
|
|
|
|
|
15 |
อาสาช่วยผื่น เช่น งานบ้าน เก็บของที่เกะกะ |
|
|
|
|
|
16 |
ไม่ช่วยเหลือเมื่อได้รับการขอร้อง |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 10 - 16 |
|
|||||
17 |
เชื่อฟังและทำตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ |
|
|
|
|
|
18 |
บอกขอโทษหรือเข้ามาประจบเมื่อทำผิด |
|
|
|
|
|
19 |
ไม่เล่นของที่เป็นอันตราย เช่น ไม้ขีดไฟ มีด หลังการได้รับการห้ามปรามจากผู้ใหญ่ |
|
|
|
|
|
20 |
ไหว้ขอบคุณเมื่อผู้อื่นให้ของโดยผู้ใหญ่ไม่ต้องบอก |
|
|
|
|
|
21 |
ไหว้หรือสวัสดีเมื่อพบผู้ใหญ่ |
|
|
|
|
|
22 |
บอกให้คอยก็ไม่งอแง |
|
|
|
|
|
23 |
อดทนได้ รอคอยได้ ไม่ลงมือลงเท้า |
|
|
|
|
|
24 |
เรียกร้องเอาแต่ใจตนเอง |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 17 - 24 |
|
|||||
25 |
ช่างสังเกตและตั้งคำถามผู้ใหญ่ถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้พบเห็น |
|
|
|
|
|
26 |
มักอยากรู้ยากเห็นกับของเล่นหรือสิ่งแปลกใหม่ |
|
|
|
|
|
27 |
กล้าชักถามหรือแสดงท่าทีสนใจเมื่อมีข้อสงสัย |
|
|
|
|
|
28 |
สนใจ รุ้สึกสนุนกับงานหรือกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆ |
|
|
|
|
|
29 |
ชอบเดินสำรวจเมื่ออยู่สนสถานที่ใหม่ๆ |
|
|
|
|
|
30 |
ตั้งใจฟังเมื่อผู้ใหญ่ตอบเรื่องที่อยากรู้ |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 25 - 30 |
|
31 |
ร้องไห้เมื่อไปโรงเรียน |
|
|
|
|
|
32 |
เมื่อไม่ได้ของเล่นที่อยากได้ก็สามารถเล่นของอื่นแทน |
|
|
|
|
|
33 |
ยอมรับคำอธิบายเมื่อไม่ได้สิ่งที่ต้องการ |
|
|
|
|
|
34 |
เข้ากับเด็กคนอื่นๆ ได้ง่ายเมื่อเริ่มรู้จักกัน |
|
|
|
|
|
35 |
หงุดหงิดเมื่อต้องเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่คุ้นเคย |
|
|
|
|
|
36 |
ไม่ชอบไปในสถานที่ไม่คุ้นเคย เช่น บ้านญาติ บ้านเพื่อนของพ่อแม่ |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 31 - 36 |
|
|||||
37 |
กล้าบอกเรื่องที่ตนเองทำผิดพลาดให้ผู้ใหญ่ฟัง |
|
|
|
|
|
38 |
บอกผู้ใหญ่เมื่อทำของเสียหาย |
|
|
|
|
|
39 |
กล้าปฎิเสธเมื่อผู้ใหญ่จะช่วยเหลือเพราะเด็กอยากทำด้วยตัวเอง |
|
|
|
|
|
40 |
บอกความต้องการของตนเองให้ผู้อื่นรู้ |
|
|
|
|
|
41 |
บอกปฎิเสธเมื่อมีผู้ชวนเล่นสิ่งที่ไม่ชอบ |
|
|
|
|
|
42 |
กล้าพูด กล้าคุย ทักทายตอบกลับผู้อื่น |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 37 - 42 |
|
|||||
43 |
เมื่อได้รับคำชมเชย มักบอกเล่าให้คนอื่นรู้ |
|
|
|
|
|
44 |
ช่วยเหลือตนเองมากขึ้นเมื่อได้รับคำชม |
|
|
|
|
|
45 |
ชอบเอาผลงานที่ทำเสร็จมาให้ผู้ใหญ่ดู |
|
|
|
|
|
46 |
พอใจที่ผู้ใหญ่ชมว่าเป็นเด็กดี |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 43 - 46 |
|
|||||
47 |
ช่วยเหลือตัวเองได้ดีเมื่อผู้ใหญ่กำลังใจ |
|
|
|
|
|
48 |
ไม่หวาดกลัวเมื่อต้องอยู่กับคนที่ไม่คุ้นเคย |
|
|
|
|
|
49 |
รู้จักเผื่อแผ่ความรักให้คนอื่น เช่น กอด ปลอบน้องหรือเด็กที่เล็กกว่า |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 47 - 49 |
|
|||||
50 |
ร่วมเล่นสนุกสนานกับคนอื่นๆ ได้ |
|
|
|
|
|
51 |
รู้จักค้นหาของมาเล่นเพื่อสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลิน |
|
|
|
|
|
52 |
ถึงแม้ไม่ได้เล่นก็สนุกกับการดูคนอื่นเล่นได้ |
|
|
|
|
|
53 |
ถึงแม้ไม่ได้เล่นก็สนุกกับการดูคนอื่นเล่นได้ |
|
|
|
|
|
54 |
แสดงอารมณ์สนุกร่วมตามไปกับสิ่งที่เห็น เช่น ร้องเพลง กระโดดโลดเต้น หัวเราะเฮฮา |
|
|
|
|
|
55 |
เก็บตัว ไม่เล่นสนุกสนามกับเด็กคนอื่นๆ |
|
|
|
|
|
รวมข้อ 50 - 55 |
|
การให้คะแนน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ให้คะแนนแต่ละข้อดังนี้ กลุ่มที่ 2 ให้คะแนนแต่ละข้อดังนี้
ไม่เป็นเลย ให้ 1 คะแนน ไม่เป็นเลย ให้ 4 คะแนน
เป็นบางครั้ง ให้ 2 คะแนน เป็นบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
เป็นบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน เป็นบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน
เป็นประจำ ให้ 4 คะแนน เป็นประจำ ให้ 1 คะแนน
กลุ่มที่ 1 ได้แก่ข้อ กลุ่มที่ 2 ได้แก่ข้อ
1 |
2 |
3 |
4 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
17 |
18 |
19 |
|
|
6 |
7 |
8 |
9 |
16 |
20 |
21 |
22 |
23 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
32 |
33 |
34 |
37 |
|
|
24 |
31 |
35 |
36 |
55 |
38 |
39 |
40 |
41 |
43 |
44 |
45 |
46 |
47 |
48 |
49 |
50 |
51 |
|
|
|
|
|
|
|
52 |
53 |
54 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การแปลผล
เมื่อให้คะแนนครบทุกข้อแล้ว ให้รวมคะแนนในแต่ละด้านย่อยทั้ง 9 ด้าน แล้วนำคะแนนแต่ละด้าน
มาใส่ในช่องผลรวมของคะแนนในกราฟความฉลาดทางอารมณ์ หลังจากนั้นให้นำคะแนนที่ได้ไปทำทำเครื่องหมาย X ลงบนเส้นประในกราฟความฉลาดทางอารมณ์ หลังจากนั้นให้นำคะแนนที่ได้ไปทำ เครื่องหมาย X ลงบนเส้นประในกราฟความฉลาดทางอารมณ์แล้วลากเส้นเชื่อมระหว่างเครื่องหมาย X ให้ ต่อกัน แล้วพิจารณาดูว่ามีคะแนนในด้านใดที่สูงหรือต่ำกว่าช่วงคะแนนของเด็กส่วนใหญ่
กราฟความฉลาดทางอารมณ์
|
องค์ประกอบ ความฉลาดทางอารมณ์ |
การรวม คะแนน |
ผลรวม ของ คะแนน |
|
ด้าน ดี |
1.1 รู้จักอารมณ์ |
ข้อ 1-9 |
|
|
1.2 มีน้ำใจ |
ข้อ 10-16 |
|
|
|
1.3 รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด |
ข้อ 17-24 |
|
|
|
ด้านเก่ง |
2.1 กระตือรือร้น/สนใจใฝ่รู้ |
ข้อ 25–30 |
|
|
2.2 ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง |
ข้อ 31-36 |
|
|
|
2.3 กล้าพูดกล้าบอก |
ข้อ 37-42 |
|
|
|
ด้านสุข |
3.1 มีความพอใจ |
ข้อ 43-46 |
|
|
3.2 อบอุ่นใจ |
ข้อ 47-49 |
|
|
|
3.3สนุกสนานร่าเริง |
ข้อ 50-55 |
|
|
|
คะแนนได้จากการสำรวจความฉลาดทางอารมณ์เด็กจำนวน ............ คน จากศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ เทศบาลตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ในปี พ.ศ.2552 |
กราฟนี้จะทำให้ทราบโดยสังเขปว่าเด็กมีระดับการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์อยู่ในระดับใด มีความจำเป็นต้องพัฒนาความลาดทางอารมณ์ในด้านนั้น ๆ มากน้อยเพียงใด
คะแนนที่อยู่ในแถบ บ่งบอกว่าเด็กมีความฉลาดทาง อารมณ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ควรส่งเสริมและ
รักษาคุณลักษณะนี้ให้คงไว้
คะแนนที่อยู่ในแถบ บ่งบอกว่าเด็กควรได้รับการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ในด้านนั้น ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ใหญ่ควรร่วมกันส่งเสริมให้เด็กพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ในด้านนั้นๆ อย่างต่อเนื่อง
คะแนนที่อยู่ต่ำกว่าแถบ บ่งบอกว่าเด็กจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ในด้านนั้นๆ ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ใหญ่ต้องช่วยกันเอาใจใส่พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เด็กอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ
กล่าวโดยสรุป หากคะแนนของเด็กแตกต่างจากช่วงคะแนนของเด็กส่วนใหญ่ที่ได้จากการสำรวจ ไม่ว่าคะแนนจะมากหรือน้อยก็ตาม ผู้ใหญ่ควรตระหนักและส่งเสริมให้เด็กประพฤติปฎิบัติให้เหมาะสมตามแนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์แต่ละด้าน
แนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เด็กอายุ 3 – 5 ปี ในด้านต่างๆ
ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กควรทำสิ่งเหล่านี้ให้สมาเสมอในชีวิตประจำวันเพื่อเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์ให้กับเด็ก
1.1 การรู้จักอารมณ์ เมื่อเด็กมีอารมณ์เกิดขึ้น เช่น โกรธ โมโห ผู้ใหญ่ควรช่วยให้เด็กรู้จักอารมณ์ของตนเอง
อันเป็นพื้นฐานของการควบคุมอารมณ์ได้ในอนาคต โดยไม่ตำหนิเด็ก แต่ควรแสดงท่าทีที่เข้าใจ เช่น
โอบกอดเด็ก จะทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย และผู้ใหญ่ควรถามเพื่อเป็นการให้เด็กทบทวนอารมณ์ของตนเอง
เช่น “ หนูรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังโกรธ” “หนูรู้สึกกว่าใคร ๆ ก็พากันรักน้องมากกว่าหนูใช่ไหม”
1.2 มีน้ำใจ ผู้ใหญ่ควรสอนให้เด็กรู้จักแบ่งปัน
1.3 รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด เมื่อเด็กทำผิด เช่น เดินชนผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรสอนเด็กให้รู้จักกล่าวคำขอโทษเพราะการเดินชนผู้อื่นอาจจะทำให้เขาเจ็บหรือไม่พอใจได้ การขอโทษทำให้ผู้อื่นไม่ถือโทษโกรธเด็ก
2. ด้านเก่ง
2.1 กระตือรือร้น/สนใจใฝ่รู้ ผู้ใหญ่ควรมีท่าทีสนใจเมื่อเด็กมีข้อสงสัยหรือซักถาม เพราะเด็กวัยนี้มักมีความสนใจ อยากรู้อยากเห็นสิ่งแปลกใหม่รอบตัว นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรส่งเสริมให้เด็กรู้จักวิธีค้นหาคำตอบอย่างง่ายที่สอดคล้องกับวัยของเด็ก
2.2 ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเด็กมักจะเกิดความหวั่นไหว ดังนั้น ผู้ใหญ่ควรปลอบใจ
ให้ความมั่นใจเด็กเพื่อให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจและปรับตัวได้ นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ควรให้เด็กได้พบปะคนอื่นๆ
นอกบ้านบ้าง เช่น พาไปเที่ยวบ้านญาติ บ้านเพื่อ หรือเล่นกับเพื่อนนอกบ้าน ซึ่งจะทำให้เด็กได้เรียนรู้
เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับคนอื่นหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว
2.3 กล้าพูดกล้าบอก เมื่อเด็กบอกความรู้สึก หรือแสดงความคิดเห็น ผู้ใหญ่ควรรับฟังด้วยความสนใจ และ
ถามเหตุผล ท่าทีของผู้ใหญ่จะเป็นการสนับสนุนให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง และผู้ใหญ่ก็จะเข้าใจเด็กมากขึ้นด้วย
3. ด้านสุข
3.1 มีความพอใจ ผู้ใหญ่ควรสนับสนุนให้เด็กทำอะไรด้วยตนเองหรือแสดงความสามารถเฉพาะตัว เมื่อเด็กทำได้ผู้ใหญ่ควรกล่าวชมเชย จะทำให้เด็กเกิดความภูมิใจและมีความสุข
3.2 อบอุ่นใจ เด็กทุกคนต้องการให้ผู้ใหญ่อยู่ใกล้ชิด คอยปกป้องและให้กำลังใจ โดยเฉพาะเวลาเด็กเริ่มทำ อะไรด้วยตนเองเป็นครั้งแรก เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกอบอุ่นใจ ไม่กังวล มีความมั่นคงทางอามรณ์ และกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองในระยะต่อไป
3.3 สนุกสนานร่าเริง ผู้ใหญ่ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้เล่น หรือร่วมสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนเพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตเด็ก ทั้งนี้พ่อแม่อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นโดยการร่วมกิจกรรมกับเด็ก สิ่งเหล่านี้จะเป็นการฝึกให้เด็กเป็นคนอารมณ์ดี และเป็นการช่วยผ่อนคลายอารมณ์ที่ขุ่นมัวทั้งหลายได้เป็นอย่างดี สำหรับเด็กที่มีท่าทางหงอยเหงา ผู้ใหญ่ไม่ควรละเลย แต่ควรสนับสนุนให้เด็กร่วมในกิจกรรมที่สนุกสนานกับผู้อื่น
นอกจากแนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอามรณ์ที่กล่าวมาแล้ว หากสนในรายละเอียดเพิ่มเติมท่านอาจจะหาความรู้ได้จากคู่มือการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์เด็กอายุ 3 – 11 ปีของกร
ไม่มีความเห็น