ผมได้มีโอกาสไปพักผ่อนด้วยกิจกรรมที่ผมโปรดปรานครับ
นั้นก็คือการดูหนัง ซึ่งผมได้มีโอกาสไปดูหนังฟอร์มยักษ์เรื่องหนึ่งมา
ถึงต้องนี้บางคนอาจจะร้อง อ๋อ กันเลยทีเดียว ใช่แล้วครับ หนังที่ผมไปดูมาคือเรื่อง "Avatar"
จากผู้กำกับฝีมือเยี่ยม James Cameron ผู้ซึ่งสร้าง Titanic ให้โด่งดังมาแล้ว
หลายๆคนอาจจะสงสัย ว่าผมเอาเรื่องนี้มาเขียนทำไม ??? เกี่ยวอะไรกับการขอ ???
ครับ... ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกันได้ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งในหนังเรื่องนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็น
สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจาก"การขอ" ( คนที่เคยดูแล้วก็ลองนึกภาพตามดูนะครับ )
ใช่ครับ... ผมกำลังพูดถึงการรวมพลของชาวพื้นเมืองนาวี ที่พยายามจะปกป้องถิ่นที่อยู่ของพวกเขาจากการ
รุกรานของมนุษย์ ประเด็นมันอยู่ที่ผู้นำในการรวมพลในครั้งนี้คือนาย เจค พระเอกของเรา (ซึ่งเป็นมนุษย์ในร่างอวตาร)
ซึ่งก่อนหน้านั้นได้ถูกขับไล่ออกจากเผ่าเนื่องจากสารภาพว่า เขาเข้ามาในเผ่าเพื่อหาจุดอ่อนของชาวนาวี
ให้กับมนุษย์ ใช้เป็นข้อได้เปรียบในการโจมตี ขับไล่ชนเผ่าพื้นเมืองออกไป ( ที่มนุษย์มาขับไล่เพราะต้อง
การแร่ที่อยู่ในโฮมทรี ซึ่งเป็นที่อยู่ของชนเผ่านาวี แร่ธาตุนั้นมีค่ามหาศาล )
ถึงตรงนี้หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่า เจค ผู้ซึ่งคนในเผ่าไม่ให้ความไว้วางใจ กลับกลายมาเป็นผู้นำใน
การรวมพลเพื่อสู้ศึกกับมนุษย์ได้อย่างไร ??? จุดเปลี่ยนของ เจค มีอยู่นิดเดียวครับ
คือระหว่างที่เขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในเผ่านั้น ได้ทราบเรื่องที่เป็นความเชื่อของเผ่าพื้นเมืองอย่างหนึ่งว่า
ผู้นำที่แท้จริงของเผ่านั้นจะสามารถขี่ "ลีโอนอพทริกซ์" ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานที่มีผู้นำเพียง 5 คน
เท่านั้นที่สามารถจะขี่มันได้ตั้งแต่มีเผ่านาวีนี้มา ซึ่ง เจค หลังจากที่ถูกขับไล่ออกไปนั้นจับจุดนี้ได้
เจค เลยควบนกน้อยคู่ใจ ( ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร ) เพื่อที่จะไปออกล่า "ลีโอนอพทริกซ์"
และเจคทำได้สำเร็จ... เขาก็ได้กลับไปยังเผ่านาวี พร้อมกับเจ้า "ลีโอนอพทริกซ์" ซึ่งในตอนนั้น
.... โฉมหน้าเจ้า ลีโอนอพทริกซ์ ....
หนังสื่อออกมาได้ชัดมาก ว่าคนในเผ่ารู้สึกแปลกใจว่าเค้าทำได้อย่างไร ประกอบกับความเชื่อที่ว่า
ผู้ที่ได้ครอบครอง "ลีโอนอพทริกซ์" คือผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นผู้นำของพวกเขา
เจค จึงได้รับการยอมรับ และสามารถขอความช่วยเหลือจากคนในชนเผ่า รวมถึงเผ่าอื่นๆที่อยู่ในดาวแพนดอร่า
ให้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ครับ... จากเหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้ ผมลองนำมาจับประเด็นว่านาย เจค ทำได้อย่างไร ???
ซึ่งผมคิดว่า...
"การขอนั้น บางครั้งเราอาจจะต้องทำบางอย่างเพื่อเป็นการพิสูจน์ สร้างภาพลักษณ์ สร้างคุณค่าให้กับตัวเอง
(Build up)เสียก่อน การขอความช่วยเหลือนั้น จึงจะได้ผลการตอบรับที่ดีออกมา เหมือนดั่งกรณี
ของนายเจค พระเอกของเรา ที่เขาได้สร้างคุณค่าให้กับตัวเองด้วยการไปจับเจ้า ลีโอนอพทริกซ์ ไงล่ะครับ"
ถึงตรงนี้ผู้อ่านท่านใดเคยมีประสบการณ์ "การขอ" ที่ WorK คล้ายๆกับกรณีของ นายเจค บ้างไหมครับ
ลองแชร์ประสบการณ์ของคุณมาดูครับ ^^
ตัวเองเชื่อว่า..การขอคือการแสดงถึงพลังศรัทธาอันมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง..ที่อยู่นอกเหตุเหนือผล..แต่จริงๆแล้วทุกอย่างย่อมเป็นยไปตามเหตุและผลที่เรียกว่าเหตุปัจจัย
ดังนั้น..การขอที่เวิร์คในมุมมองของตัวเองน่าจะเป็น การเชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง..และทำมันให้ดีที่สุดเต็มที่ที่สุด..หากการขอจะสำเร็จผลก็น่าจะมาจากทุกเหตุปัจจัยที่เกือหนุนกันมาสบโอกาสที่เหมาะสม บวกกับพลังของความเชื่อนั้นค่ะ..
น่าสนใจนะคะ..ชอบบันทึกพาให้คิดอย่างนี้นะคะ..
^^
แวะมาอ่านก่อนไปดูหนังครับ...
เท่าที่คิด...คิดว่ามันคล้ายๆกับ the secret ค่ะ ประมานว่า ในเมื่อเรามีเป้าหมายแน่วแน่แล้ว การที่เราจะเดินหลงไปทางอื่นก็จะลดลง และการที่เรามุ่งเป้าไปยังสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะเป็น การเรียน หรืออะไรก็ตาม สมองมันก็จะหาทางของมันเอง555+
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
ถ้ามีโอกาส เดี๋ยวจะหาการขอจากหนังแบบนี้มานำเสนออีกครับ
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านครับ ^^
มีเพื่อนบอกว่า หนังเรื่องนี้ สนุกมากๆ
สมแล้วที่ เจมส์ คาเมรอน ที่ฝากผลงานให้โลกไว้ใน ไททานิค เป็นผู้กำกับ
ยินดีด้วยครับ กับน้อง ไพรัชช์
พี่ม่อนจะคอยติดตาม "จิตวิทยาการขอ" ต่อไปครับ
มาเยี่ยมแล้วค่ะ พร้อมขอคุยด้วยคนค่ะ
การขอโดยการพูด บางครั้งไม่สำเร็จ
"แต่การใช้ความคิด โดยไม่พูด โดยไม่ขอ ทำให้สำเร็จ"
โชคดีปีใหม่ค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น และทุกท่านที่แวะมาครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ ^^
ขอ...สวัสดีปีใหม่ด้วยค่า เดี่ยวต้องไปดูบ้างแล้ว
ผมชอบหนังเรื่องนี้ มากเลยนะ
แฝงคุณค่าหลายๆอย่างไว้เพียบเลย
ตั้งแต่ เรื่องการรักธรรมชาติ
การต่อต้านการยึดทรัพยากรธรรมชาติด้วยกำลัง คุ้นๆเหมือนบางประเทศ
แล้วก็วิถีการดำเนินชีวิตร่วมกับธรรมชาติ อันนี้ผมชอบมากเลย