เพื่อนเก่งช่วยเพื่อนอ่อน...ร่วมกับครู


การพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพเป็นสิ่งที่ครูต้องเรียนรู้ธรรมชาติ และนิสัยของผู้เรียนเพื่อหาวิธีการเรียนการสอนที่เหมาะทั้งนี้มีเวลามีข้อจำกัด

        สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สอบกลางภาคด้วยวิชาเคมีของครูนกจัดสอบในวันแรกทำให้ทำคะแนนเสร็จพร้อมประกาศได้เมื่อวันพุธที่ผ่าน จากจำนวนนร.ทั้งหมด 171 คนไม่ผ่าน 28 คนคิดเป็นร้อยละ 16 ของนักเรียนทั้งหมดนะค่ะ ครูนกก็เลยนัดสอบปรับคะแนนในช่วงบ่ายของวันนี้

        การสอบใช้ข้อสอบชุดเดิม และครูนกให้นักเรียนใช้ตัวช่วยคือ หนังสือแบบเรียนเคมี กับสมุดจดเคมี หากใครมาส่งรอบแรกแล้วยังไม่ผ่านครูนกเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามในประเด็นที่อยากให้ครูอธิบายเพิ่มได้

        ในช่วงบ่ายที่เรานั่งสอบกันปรากฏว่าคนได้คะแนนสูงสุดวิชาเคมีมาคอยให้กำลังใจเพื่อน และมานั่งคุยกับครูนกด้วย และยังมีเพื่อนที่ผ่านอีกหลายคนมานั่งเชียร์เพื่อนๆติดขอบสนาม ครูนกเลยสงสัยว่า ทำไมต้องมาคอยเพื่อนด้วยคำตอบคือ กลับบ้านเส้นทางเดียวกัน ขณะที่กำลังคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการเรียน ทำให้ครูนกมีจังหวะได้สอบถามนักเรียนคนที่ได้คะแนนสูงสุดว่า “ทำไมลูกไม่ติวให้เพื่อนบ้างล่ะ”  เขาก็บอกว่า “ผมติวครับ ติวให้สาธิตา” ซึ่งนักเรียนที่เจ้าคนเก่งกล่าวถึงคนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องติวเพราะถือว่าเป็นนักเรียนที่เรียนรู้ได้เร็วคนหนึ่ง ครูนกเลยชี้ไปที่นักเรียนเป้าหมายในสายตาของครูนกและเป็นเพื่อนซี้ของเขาซึ่งกำลังนั่งสอบปรับคะแนนอยู่ “ทำไมไม่ติวให้คนนั่นล่ะ” คำตอบของเจ้าคนเก่งคือ “คนนี้เหรอครับ เขาไม่สนใจผม” ซึ่งเป็นคำตอบที่แซวเล่นระหว่างเพื่อนเสียมากกว่า ครูนกก็เลยบอกว่า “เอาแบบนี้ดีมั่ย ช่วงเช้าลูกติวกันสิเพราะครูเห็นพวกเรานั่งกันอยู่ที่หน้าระเบียงเป็นประจำ” ครูนกเลยเพิ่มเงื่อนไขว่า ถ้าเจ้าคนเก่งติวแล้วทำให้เพื่อนคนดังกล่าวเกิดความเข้าใจคะแนนเพิ่มขึ้นมาได้ ครูนกจะให้คะแนน(จิตพิสัย) เขาเพิ่ม ขณะเดียวกันคนที่รับการติวถ้ามุ่งมั่นในการติวจนคะแนนเพิ่มขึ้นครูนกก็จะให้คะแนนเพิ่ม” ทำให้สนธิสัญญาระหว่างเพื่อนกับเพื่อน และครูกับศิษย์เกิดขึ้น

        ส่วนเจ้าคนที่สอบไม่ผ่านครูนกก็ให้ความเห็นเขาไปว่า “ลูกเรียนเคมีแย่ลงกว่าภาคเรียนที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้น” คำตอบที่ได้คือ เขาคิดจะไม่เอาวิชาด้านวิทยาศาสตร์แล้ว เขาอยากเน้นด้านภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ เพราะเขาบอกว่าเขาจะเรียนสถาปัตย์ (ตามรอยพ่อ) ครูนกบอกว่า ดีที่มีเป้าหมายแต่อยากให้เขาคิดใหม่ว่า ถ้าเราเป็นสถาปนิกที่มีความรู้องค์ประกอบเคมีของวัสดุก่อสร้างจะดีหรือเปล่า  ก็พูดเลยตัวอย่างเพื่อให้เขาเห็นว่า ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยาที่เขาเรียนรู้อยู่เป็นพื้นฐานที่มีประโยชน์ต่อชีวิตในภายภาคหน้า อย่างเป็นผู้พิพากษาที่รู้เรื่อง DNA เป็นตำรวจที่เข้าใจกลไกการทำงานของร่างกาย จนกระทั่งเห็นประกายตาปิ๊งๆ อย่างมุ่งมั่นกลับมา เพราะครูนกบอกว่า “คนเรารู้น้อยไปนะน่าเกลียด ถ้ารู้มากประโยชน์สุขก็จะเกิดกับตนเองและคนรอบข้าง”

        วิธีการสอบปรับคะแนนข้างต้น บางคนผ่านได้โดยทำข้อสอบเพียงหนึ่งรอบ บางคนต้องซ้ำสองรอบนะค่ะ

"เพื่อนต้องช่วยเพื่อนในทุกเรื่อง"

        ส่วนเรื่องเพื่อนช่วยเพื่อนต้องติดตามกันข้ามปีก่อนจะวัดผลประเมินผลปลายภาคว่า “สิ่งที่เราคุยกันวันนี้ เขาจะทำได้หรือไม่” ทั้งนี้คนเป็นครูแบบเราต้องเปิดโอกาสและเอื้ออำนวยให้เขาด้วยนะค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 322999เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2009 23:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

Co-operative Learning = การเรียนแบบร่วมมือกัน

Peer Tutoring = เพื่อนช่วยเพื่อน

;)

สิ่งที่ได้นอกเหนือจากวิชาความรู้แล้ว ยังเป็นสอนคุณธรรมความเอื้ออาทร การให้ น้ำใจไมตรี การรู้จักแบ่งปัน ชื่นชม

สวัสดีค่ะ

  • เด็ก แต่ละคนรับรู้และมีลีลาการเรียนรู้ที่ต่างกันนะคะ
  • บางคนฟังครูไม่รู้เรื่อง แต่ฟังเพื่อนรู้เรื่อง
  • แต่พี่คิมค้นพบพวกแตกแถว...ชอบเรียนรู้ด้วยการลงมือทำค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้น้องนกและเด็ก ๆนะคะ

สวัสดี คุณatozorama

  • ขอบคุณค่ะที่แวะมาสวัสดีปีใหม่กัน
  • Merry Christmas นะค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ Wasawat Deemarn

ขอบคุณค่ะที่มาเติมเต็มบันทึก....เพื่อนช่วยเพื่อนเป็นสิ่งที่นักเรียนชอบ เป็นไปตามพัฒนาการของช่วงวัยดังกล่าวดัวยค่ะ

สวัสดีค่ะ ท่านประจักษ์และหลานม่อน

อยากให้คุณธรรมนำความรู้ค่ะ...สังคมบ้านเราจะได้สงบ

สวัสดีค่ะ พี่ครูคิม

ลีลาการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคนต่างกันอย่างพี่คิมว่า...แต่เราก็มีเวลารับมือกับเรื่องนี้ได้จำกัด ด้วยเงื่อนไขเวลา และจำนวนนักเรียนต่อห้อง...แต่ก็ต้องจัดการเรียนรู้แบบหลากหลายไว้ก่อนนะค่ะ

แวะมาให้กำลังใจเพื่อนเก่งช่วยเพื่อนอ่อนค่ะ..ดีจริงๆๆๆ

ขอให้มีความสุขทุกคืนวันน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณครูบันเทิงสำหรับกำลังใจ

สวัสดีค่ะ คุณแจ่มใส

ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

เพื่อน...ย่อมเข้าใจในเพื่อน

เพื่อนแท้..ย่อมไม่ทิ้งเพื่อน

 

สวัสดีค่ะ คุณครูป.1

เพื่อนต้องเป็นเพื่อนทุกเวลา...นะค่ะ ทุกข์สุขต้องร่วมกัน

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๓

ขอให้คุณครูnoktalayและครอบครัวมีความสุขดังบทบาลีที่ว่า เต อัตถลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธสาสเน อโรคา สุขิตา โหถะ สหสัพเพหิ ญาติภิ. ขอให้ครอบครัวของท่านพร้อมด้วยหมู่ญาติ จงประสบสุขในสิ่งที่ปรารถนา มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ปราศจากโรคภัยและเจริญงอกงามไพบูลย์ในพุทธธรรมตลอดไป เทอญ.

ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่

สวัสดีปีใหม่2553 ส่งความสุขแด่คุณ noktalay

http://gotoknow.org/blog/abcdefghk/322724

 

     ดอกกระเป๋า

แวะมาเยี่ยมคุณครูนก และสวัสดีปีใหม่ครับ

                                          สวัสดีปีใหม่ค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

สิ่งดีๆ ที่ยังมีให้เห็นในสังคม

อีกอย่างหนึ่งก็คือการช่วยเหลือ เอื้ออาทรต่อกันในสังคมค่ะ

ขอบคุณค่ะ^__^

นมัสการค่ะ ท่านพระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

ขอบพระคุณสำหรับคำอวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณฤทธิชัยสำหรับคำอวยพรปีใหม่ค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณกิติยา

...ถ้าเด็กแก้ปัญหาจุดอ่อนของตนเองได้...ก็คงมีความสุขเหมือนแมวในภาพนะค่ะ สามารถร้องเพลงได้

ทุกคนและชนชั้นควรอย่างยิ่งในการเปิดโอกาสให้กันและกัน...

ธรรมะสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเนาะพี่ครู..

สวัสดีค่ะ คุณกานดา

ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆ และสวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ

สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะคุณหนานเกียรติ ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม

สวัสดีค่ะ คุณNina

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุข สดชื่นและแข็งแรงตลอดไปนะค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณต้นเฟิร์น

- การที่ได้เห็นนักเรียนมีน้ำใจต่อผู้อื่น เป็นอะไรที่มีความสุขมากๆ ค่ะ แต่เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มจากการฝึกฝนจากครอบครัว และต่อยอดที่โรงเรียนนะค่ะ

นมัสการค่ะ ท่านธรรมฐิต

เห็นด้วยทุกประการค่ะ..การให้โอกาสเป็นสิ่งที่เราควรให้ซึ่งกันและกันทุกระดับทุกวงการนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท