วันที่ 23 ธ.ค. คุณหมอไพโรจน์ ชัยกิตติศิลป์ หมอผ่าตัด นัดผมไปตัดไหม ลูกชายผมเป็นสารถีพาผมกับภรรยาไปถึงโรงพยาบาลแต่เช้า ยื่นบัตรคนไข้ประกันสังคม วัดความดัน แล้วนั่งรอพบหมอครู่หนึ่งก็ได้เข้าไปพบ
คุณหมอทักว่า ดูเดินคล่องดีนี่ ยังเจ็บมั๊ย? ผมตอบว่า มีบ้างเล็กน้อยเวลาเดินออกกำลังกาย ท่านบอกว่าเดินธรรมดานะ อย่าเพิ่งออกกำลังหนัก แล้วก็ให้ขึ้นไปนอนบนเตียง
ผมขึ้นไปนอนหงายบนเตียง ดึงกางเกงนอกกางเกงในลงไปอยู่ที่ขา คุณหมอกับพยาบาลคนหนึ่งก็ช่วยกันแกะพลาสเตอร์และผ้าก๊อตปิดแผลผ่าตัดที่ท้องน้อยออก คุณหมอดูแล้วก็บอกว่าแผลดี ยังเจ็บอยู่มั๊ย ผมตอบว่าแผลที่ผิวหนังไม่เจ็บแล้ว แต่ยังรู้สึกปวดข้างในอยู่บ้าง ท่านก็ว่าเป็นธรรมดาเพราะท่านเย็บซ่อมแซมข้างใน
ขณะที่ท่านกำลังตัดไหม ผมก็ถือโอกาสถามข้อสงสัย ๒ ข้อ คือ
หนึ่ง การเย็บรอยขาดข้างในใช้วิธีใส่ตาข่ายไหมครับ? ท่านตอบว่ากรณีของผมไม่ได้ใส่ เพราะรอยขาดไม่ใหญ่มาก และดูสภาพกล้ามเนื้อผมแล้วยังแข็งแรง อีกทั้งจะได้ไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย แต่วิธีนี้ก็ต้องเจ็บมากกว่าการใส่ตาข่ายหน่อย เพราะต้องดึงส่วนที่ขาดให้เข้ามาเย็บให้ติดกัน ผมก็ดีใจที่ท่านตัดสินใจเช่นนั้น เพราะสำหรับผมเจ็บหน่อยไม่เป็นไร ดีกว่ามีอะไรแปลกปลอมอยู่ในร่างกายโดยไม่จำเป็น
สอง ผมรู้สึกหลับไประหว่างผ่าตัด นึกว่าบล็อกหลังแล้วจะรู้ตัวตลอดเวลา ท่านตอบว่า ให้ยานอนหลับด้วย สำหรับผู้ป่วยบางรายที่หากรู้สึกตัวอาจกลัวหรือมีปฏิกิริยาบางอย่าง
ท่านตอบแล้วผมก็ไม่มีอะไรสงสัยอีก
ก่อนวันตัดไหม ผมฝากลูกชายให้ช่วยหาซื้อการ์ดขอบคุณ (Thank Card) ให้สองใบ ใบหนึ่งสำหรับศัลยแพทย์ คือ นพ.ไพโรจน์ ชัยกิตติศิลป์และทีมงาน อีกใบหนึ่งสำหรับ พญ.สุมาลี ไชยธีรพันธ์ วิสัญญีแพทย์และทีมงาน แล้วผมก็เขียนข้อความแสดงความรู้สึกของผมดังในภาพ
เสร็จเรื่องแล้ว ผมกับภรรยาก็ยืนขึ้นยกมือไหว้ลา ท่านถามว่า "เออ...ปีใหม่ไปเที่ยวไหนหรือเปล่า?"
ประโยค “ปีใหม่ไปเที่ยวไหนหรือเปล่า?” นี้ โดนใจผมมากเลย ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะมีหมอในโลกนี้กี่คนที่ถามคนไข้แบบนี้ ผมสัมผัสกับความเป็นมนุษย์ของคุณหมอไพโรจน์ขึ้นมาทันที
ระหว่างหมอกับคนไข้ นอกจากเรื่องโรคแล้ว มันยังมีมิติอื่นๆ ของชีวิตที่สัมพันธ์กันอยู่ด้วย เป็นความสัมพันธ์กันแบบมนุษย์กับมนุษย์ไงครับ แบบธรรมดาๆ เรียบๆ ง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน
ในฐานะคนไข้คนหนึ่ง ผมก็อยากให้หมอทุกคนปฏิบัติต่อคนไข้อย่างหมอที่นี่ปฏิบัติต่อผม โดยผมรู้ว่าหมอดีๆ แบบนี้ มีอยู่มากมาย แต่ด้วยสถานภาพและหน้าที่การงานอาจทำให้ท่านต้องสงวนท่าที พูดเท่าที่จำเป็น หรืองานท่านมากจนเหนื่อยล้าไม่อยากพูด
คนไข้ก็เช่นกัน ผมอยากให้ท่านอ่อนโยนต่อหมอและทีมงานด้วยความเมตตาและกรุณาต่อกัน
ผมเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณานี้มีอยู่ในตัวคุณหมอและคนไข้ทุกคน เพียงแต่เรายอมรับมัน เปิดใจ เปิดพื้นที่ให้มันได้แสดงตัวออกมา ผ่านสายตา วาจา หรือท่าทางเท่านั้น ทุกคนสามารถสัมผัสความเมตตากรุณานั้นได้ แล้วโลกทั้งใบก็จะสดใสเบิกบาน.
ในฐานะคนไข้คนหนึ่ง ผมก็อยากให้หมอทุกคนปฏิบัติต่อคนไข้อย่างหมอที่นี่ปฏิบัติต่อผม โดยผมรู้ว่าหมอดีๆ แบบนี้ มีอยู่มากมาย แต่ด้วยสถานภาพและหน้าที่การงานอาจทำให้ท่านต้องสงวนท่าที พูดเท่าที่จำเป็น หรืองานท่านมากจนเหนื่อยล้าไม่อยากพูด
คนไข้ก็เช่นกัน ผมอยากให้ท่านอ่อนโยนต่อหมอและทีมงานด้วยความเมตตาและกรุณาต่อกัน
ผมเชื่อว่าความเป็นมนุษย์ที่เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณานี้มีอยู่ในตัวคุณหมอและคนไข้ทุกคน เพียงแต่เรายอมรับมัน เปิดใจ เปิดพื้นที่ให้มันได้แสดงตัวออกมา ผ่านสายตา วาจา หรือท่าทางเท่านั้น ทุกคนสามารถสัมผัสความเมตตากรุณานั้นได้...
...แล้วโลกทั้งใบก็จะสดใสเบิกบาน.
สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
วันคริสตมาส 25 ธ.ค. 52
---------------------------------------------------------------------------------------
อ่านบันทึกทั้ง ๙ ตอนในชุดผ่าตัดไส้เลื่อนของผมได้โดยคลิกลิงก์ข้างล่างนี้ครับ
ส่งความสุขให้อาจารย์ครับ
ภาพสวยมากเลยครับ ขอให้คุณจตุพร ประสบกับจตุรพรคืออายุ วรรณะ สุขะ พละ
มีความสุขตลอดปีใหม่นี้และตลอดไปด้วยนะครับ
ชาวมหาวิทยาลัยชีวิตขอกราบอวยพรให้อาจารย์ของเรามีสุขภาพแข็งแรง..เป็นขวัญและกำลังใจของเราตลอดไปนะคะ.