แม่ของน้องใบเฟริ์น มารดาครรภ์แรก อายุ 18 ปี อายุครรภ์ 27 สัปดาห์ ฝากครรภ์ 4 ครั้ง 5 มิ.ย. 51 ให้ประวัติมีเลือดออกและเจ็บครรภ์คลอดก่อนมาประมาณ 8 ชั่วโมง ถึงห้องคลอดสูติแพทย์ให้การดูแลยับยั้งการเจ็บครรภ์ 1 วันแล้วมีเจ็บครรภ์ถี่ขึ้น ปากมดลูกเปิดและคลอดปกติ 6 มิ.ย. 51 น้ำหนักทารกแรกเกิด 1,050 กรัม กุมารแพทย์ให้การดูแลทารกในตู้อบโดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ งดให้นมและสังเกตการหายใจ
วันที่ 3 (9 มิ.ย. 51) ทารกอาการดีขึ้น เริ่มให้นมทางสายยาง ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำต่อ
20 มิ.ย. 51 ทารกหยุดหายใจต้องใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ
ถึงวันที่ 26 มิ.ย. 51 ทารกมีอาการดีขึ้นกุมารแพทย์พิจารณาถอดเครื่องช่วยหายใจ และให้ออกซิเจนในตู้อบ
ให้อาหารทางสายยางเริ่มให้ทางปาก
19 ก.ค. 51 เริ่มให้นมแม่ทางปากโดยการป้อนด้วยช้อน
20 ก.ค. 51 หยุดให้ออกซิเจน
1 ส.ค. 51 เริ่มหัดดูดนมแม่
14 ส.ค. 51 กุมารแพทย์พิจารณาให้ทดลองออกจากตู้อบโดยให้การดูแลในอุณหภูมิห้องปกติ
15 ส.ค. 51 กุมารแพทย์พิจารณาให้ออกจากตู้อบโดยให้การดูแลในอุณหภูมิห้องปกติ
16 ส.ค. 51 กุมารแพทย์พิจารณาให้กลับบ้านนัดติดตามอีก 2 สัปดาห์พยาบาลประสานกับทีมเยี่ยมบ้านให้การดูแลต่อเนื่อง และมีการโทรศัพท์ติดตามเยี่ยมให้คำแนะนำเป็นระยะ
รวมนอนพักรับการรักษาในโรงพยาบาล 71 วัน
เหตุเกิดระหว่างการดูแลที่พยาบาลสังเกตพบ
หลังคลอด 2 วัน แม่ของน้องใบเฟริ์นขอกลับไปพักที่บ้าน กุมารแพทย์อนุญาตให้กลับได้เพราะยังไม่ให้กินนม พยาบาลแนะนำให้กลับมาเยี่ยมลูกและสอนการบีบน้ำนมด้วยมือ ระหว่างการดูแล ทีมงานห้องคลอดได้พบว่า คนที่มาเยี่ยมเป็นพ่อของน้องใบเฟริ์น จึงได้แนะนำให้พาแม่ของน้องใบเฟริ์นมาด้วยเพราะ คุณหมอที่ดูแลเริ่มให้นมแม่ทางสายยางแล้ว
ในช่วงเวรบ่ายของวันหนึ่งเวลาประมาณ 18.00 น. มีพยาบาลห้องคลอดพบ แม่ของน้องใบเฟริ์นนั่งร้องให้อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์หน้าโอพีดี จึงมาเล่าให้กันฟัง พยาบาลคุยกับแม่น้องใบเฟริ์นและพบว่าแม่มีความกังวลเพราะต้องเลี้ยงหลานอายุ 4 ปีซึ่งเป็นลูกของพี่ชายที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แม่น้องใบเฟริ์นบอกว่า “ถ้ามาอยู่เฝ้าลูกแล้วใครจะดูแลหลาน” พยาบาลได้เล่าให้คุณหมอปุ้ยฟัง(กุมารแพทย์ที่ดูแล) หมอปุ้ยบอกว่า “ พรุ่งนี้บอกให้แม่น้องใบเฟริ์นรอปุ้ยด้วย บอกว่าหมอมีเรื่องอยากคุยด้วย”
วันต่อมาแม่น้องใบเฟริ์นมารอพบคุณหมอ เวลา ประมาณ 9.00 น. คุณหมอปุ้ยมาและพูดกับแม่ได้ข้อตกลงแล้วจึงมาเล่าให้พยาบาลฟังว่าปุ้ยคุยและให้ทางเลือกกับเขาแล้วเขาตกลงที่จะอยู่ดูแลลูกช่วงกลางวัน ปุ้ยบอกว่า “ลูกก็รัก หลานก็รัก หมอไม่ได้ให้เลือกคนไดคนหนึ่ง แต่ต้องแบ่งเวลา ช่วงนี้มาเยี่ยมลูกกลางวันแล้วตอนเย็นก็กลับไปดูแลหลานก็ได้”
พยาบาลคุยกับหมอตกหาแนวทางการดูแลพยาบาลห้องคลอดบอกว่า “ หมอปุ้ยเอาอย่างนี้แล้วกันพี่จะสอนและกระตุ้นให้แม่น้องใบเฟริ์นจับลูกบ่อยๆเพื่อเป็นการกระตุ้น” หมอปุ้ยบอกว่า “ ดีมากพี่ แล้วปุ้ยจะพยายามให้เด็กได้ดูดนมแม่เร็วๆ”
หลังจากนั้นแม่น้องใบเฟริ์นมาเฝ้าลูกทุกวัน ถ้าวันไหนมีธุระมาไม่ได้จะบอกว่า “ ฝากด้วยนะคะหนูมีธุระ แล้วจะรีบกลับมา” แม่น้องใบเฟริ์นเพิ่มเวลาในการเฝ้าลูกได้เรื่อยๆจนกระทั่งยอมนอนเฝ้าลูกตลอดวัน “หนูฝากหลานไว้กับยายแล้วค่ะ” ก่อนกลับบ้านแม่น้องใบเฟริ์นให้ลูกดูดนมได้และมีความพร้อมในการดูแลลูก
ทีมงานห้องคลอดได้ส่งต่อให้ทีมชุมชนติดตามเยี่ยมบ้าน และมีการติดตามเยี่ยมทางโทรศัพท์ให้ความช่วยเหลือจน แม่น้องใบเฟริ์นสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องถึง 1 ปี
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีมงานสรุปได้ว่า แม่น้องใบเฟริ์น เป็นมารดาครรภ์แรก อายุ 18 ปี อายุครรภ์ 27 สัปดาห์
ยังไม่มีความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนบทบาทในการเป็นแม่ มีความกลัวและกังวลเนื่องจากลูกน้ำหนักน้อย ตัวเล็กมากไม่กล้าที่จะจับต้องและดูแล การดูแลของทีมพยาบาลร่วมกับกุมารแพทย์มีส่วนสำคัญในวางแผนการให้การพยาบาลโดยคำนึงถึงปัญหาและให้การพยาบาลแบบองค์รวมจะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นแนวทางการจัดการดูแลและวางแผนสำหรับผู้ป่วยรายต่อไป
เรื่องเล่าชาวห้องคลอด