ดีใจกับคนกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะเยาวชนที่จะได้มีพื้นที่สำหรับการอ่านหนังสือเพื่อเพิ่มเติมความรู้และสาระบันเทิงต่าง ๆ และไม่ว่าจะอยู่ที่ใดชุมชนใดก็จะมีที่อ่านหนังสือเช่นเดียวกัน ซึ่งผมอ่านข่าวจาก นสพ.เดลินิวส์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ข่าวนำเสนอว่าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ประสานความร่วมมือในการใช้พื้นที่ โดยได้มอบโฉนดที่ดินในพื้นที่ส่วนพระมหากษัตริย์ให้กรุงเทพมหานครดูแลเพื่อจัดตั้งบ้านหนังสือ จำนวน 8 แห่ง ใน 8 ชุมชน ได้แก่
โครงการ “บ้านหนังสือ” เป็นห้องสมุดชุมชนขนดเล็กที่นำตู้คอนเทเนอร์ ขนาด 3x6 เมตร จำนวน 2 ตู้ มาประกอบตกแต่งภายในเป็นห้องสมุดขนาดเล็ก ภายในบ้านหนังสือมีพื้นที่บริการยืม – คืน หนังสือประมาณ 2,000 เล่ม มีนิตยสาร วารสารและหนังสือพิมพ์รายวัน มีคอมพิวเตอร์สำหรับให้บริการอินเตอร์เน็ต 1 เครื่อง ซึ่งปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีบ้านหนังสือแล้ว จำนวน 11 แห่ง และมีโครงการสร้างเพิ่มอีก 100 แห่ง ภายในปี 2554 และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ 66 แห่ง
ใครอยู่ใกล้ห้องสมุดประชาชน หรือบ้านหนังสือ ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้ ความรู้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องขวนขวายหาใส่ตัวเอง อ่านเอง รู้เอง แล้วจะได้มาแบ่งปันกันนะครับ
ยินดีกับเด็กๆเยาวชนและผู้ใหญ่ในชุมขนขนาดเล็กใน กทม. ด้วยนะคะ
ที่ได้ใช้ห้องสมุดประชาชน หรือบ้านหนังสือ หลายๆแห่ง เพื่อการศึกษาค้นคว้าและเรียนรู้ในสิ่งต่างๆจากหนังสือ
ข่าวนี้ทำให้นึกถึงรถห้องสมุดประชาชนของกระทรวงศึกษาสมัยก่อนคะ
คุณ ครับ ตอนนี้ กทม.เองก็มีรถห้องสมุดเช่นกันครับ และผมก็เห็นที่ต่างจังหวัดก็มีรถห้องสมุดเช่นกัน ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ
ขอสนับสนุนโครงการนี้ค่ะ...ให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องนะคะ..
ขอบคุณครับพี่ใหญ่ จะนำกำลังใจส่งผ่านไปให้ผู้เกี่ยวข้องครับ
สนใจข้อมูลและรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติ่มติดต่อกลับด้วยนะค่ะ
ต้องการอยากให้ในชุมชนที่ยากไร้หนังสือมีบ้านหนังสมุดบ้าง ต้องติดต่อยังไง
คุณnobitaช่วยติดต่อกลับมาที่e-mailด้วย
อยากให้ในซอยลาดพร้าว 84 มีห้องสมุดบ้างจังเลย เพราะในซอยนี้มีหมู่บ้านที่ใหญ่มาก 2 หมู่บ้าน คือ บ้านกลางเมือง และ 84 แมนชั่น และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยนี้อีกหลายครอบครัวมากๆๆ ถ้าเทียบจำนวนประชากรแล้วน่าจะมีห้องสมุดให้เด็กๆๆ ได้มีที่ศึกษาหาความรู้บ้าง เพราะเท่าที่สั้งเกตดูในซอยนี้เด็กเยอะมากๆๆๆ