เล่าสู่กันฟัง เรื่องกิจกรรมของมหาวิทยาลัยชีวิต จ.ชุมพร

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน 2552 ณ ห้องเรียนสีเขียว โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านท่าตะเภา) อ.เมือง จ.ชุมพร สถานที่ซึ่งได้รับการจัดตั้งเป็น ศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตเทศบาลเมืองชุมพร มีกิจกรรมเล็ก ๆ จัดขึ้นโดยคณะนักศึกษาเพื่อมอบวุฒิบัตรให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรของโครงการฯ และได้รับเกียรติจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายวรการ ยกยิ่ง เดินทางมาเป็นประธานในงาน โดยมีคณะผู้บริหารของเทศบาลเมืองชุมพรนำทีมโดย ว่าที่ ร.ต.พิศาล นิลยกานนท์ นายกเทศบาลเมืองชุมพร ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานมีสาระสำคัญ คือ

ศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตเทศบาลเมืองชุมพร เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคณะกรรมการ 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เทศบาลเมืองชุมพร ผู้นำชุมชน และหน่วยงาน/ราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดการศึกษาในระดับปริญญาตรีให้กับประชาชนในชุมชนและท้องถิ่น เพื่อช่วยให้พวกเขาเรียนแล้วช่วยตัวเอง ได้ ช่วยคนอื่นได้ เรียนโดยเอาชีวิตเป็นตัวตั้ง เน้นการปฏิบัติ เน้นประสบการณ์ของผู้เรียน ให้พวกเขานำเอาความรู้จากประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเพื่อน ๆ และอาจารย์

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต คือ ชีวิตต้องดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น กินยาไปหาหมอน้อยลง หนี้สินลดลง เกิดสุขภาวะในครอบครัว และในชุมชน

โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ต้องการเป็นตัวนำการเปลี่ยนแปลงแก่สังคม เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษา และการพัฒนาท้องถิ่น ด้วยการสร้างปัญญาชนชาวบ้าน ให้เป็นผู้นำทางปัญญา สู่สังคมใหม่ที่ดีกว่า อิสระจากการครอบงำของอำนาจทั้งหลาย สามารถอยู่ได้อย่างพอเพียงและมีความสุข

โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต มุ่งมั่นสร้างปัญญาเพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ของแผ่นดิน สร้างโอกาสให้คนได้เรียนรู้เพื่อพึ่งพาตนเอง และสร้างรากฐานมั่นคงให้สังคมไทย

ศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตเทศบาลเมืองชุมพร ได้จัดการฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาที่สมัครเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี สาขาสุขภาพชุมชน จำนวน 61 คน ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม - 29 สิงหาคม 2552

นอกจากนั้น ศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิตเทศบาลเมืองชุมพร ยังได้รับการสนับสนุนจากโครงการต้นกล้าอาชีพ โดยสำนักนายกรัฐมนตรี ให้จัดการฝึกอบรมหลักสูตรการทำวิสาหกิจชุมชน ให้กับประชาชนจำนวน 49 คน ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม – 17  กันยายน 2552

จากนั้นได้มีการนำเสนอวีดิทัศน์แนะนำโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต รับฟังประสบการณ์การฝึกอบรมทั้ง 2 หลักสูตรจากตัวแทนนักศึกษา และรับวุฒิบัตรจากรองผู้ว่าฯ นายวรการ ยกยิ่ง ซึ่งได้ให้โอวาทแก่คณะนักศึกษาความว่า

“ผมรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ที่พวกท่านทั้งหลายได้ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีงาม คือ ศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต ให้เกิดขึ้นในสังคมชุมพรของเรา

จากประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา ผมพบว่า ความอ่อนแอของสังคมไทยส่วนใหญ่ เป็นความอ่อนแอในระดับฐานรากของชุมชนท้องถิ่น เพราะการพัฒนาที่ผ่านมา สั่งการมาจาก “ข้างบน”  ด้วยเหตุนี้ชุมชนจำนวนมากจึงไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ มีปัญหาเศรษฐกิจ เป็นหนี้เป็นสิน  การทำมาหากินในท้องถิ่นล้มเหลว  ต้องย้ายถิ่นไปทำงานในเมืองใหญ่ และที่อื่นเพื่อความอยู่รอด

กลไกของการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นใน จ.ชุมพร คือ เทศบาลซึ่งมีอยู่ 22 แห่ง และอบต. 56 แห่ง กล่าวได้ว่าส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับของการพัฒนาตนเอง ที่ผ่านมายังเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ถ้ามีการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมก็เป็นการพัฒนาอาชีพ โดยใช้ยุทธศาสตร์การพัฒนาตามกระบวนทัศน์เดียวกับในระดับชาติ คือ พัฒนาโครงการ (Project-base development) มากกว่าการพัฒนาระบบ (Systems development) ยังไม่เกิดระบบเศรษฐกิจสังคมของท้องถิ่นที่เป็นรูปธรรมชัดเจน ยังเน้นการพัฒนา ”โครงการ” ที่ผูกติดกับคำสั่งและงบประมาณ ทั้งชาวบ้านเองก็เคยชินกับการพัฒนาแนวนี้

การที่ท่านทั้งหลายได้ช่วยกันจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น โดยใช้ศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต เป็นเสมือนสนามพลังในการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น มีระบบระเบียบแบบแผนมากขึ้น  หนึ้สินลดลง ผู้คนหันหน้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนของตนเองมากขึ้น ผู้คนสนใจการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น  และเข้าใจเรื่องการพึ่งตนเองจากการได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

จึงเป็นสิ่งที่จะสร้างคุณูปการให้เกิดขึ้นกับชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดชุมพรได้อีกมากมายหลายประการ ผมขออวยพรให้ภารกิจของท่านทั้งหลายบรรลุผลสำเร็จได้ตามความตั้งใจทุกประการ”