สรุปสาระสำคัญของงานวิจัยเล่มที่ 7

องค์กรแห่งการเรียนรู้

ชื่อเรื่อง: การศึกษาพฤติกรรมบริหารองค์กรแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ

ผู้วิจัย: จันทร์เพ็ญ ศรีไสยเพชร

ปีที่วิจัย: มีนาคม 2551

ความมุ่งหมายของการวิจัย

1. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ

2. เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ

กรอบความคิดในการวิจัย

ผู้วิจัยมุ่งศึกษาพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ โดยอาศัยแนวคิดของเซ็งเก้ ซึ่งมีองค์ประกอบ 5 ด้าน คือ ด้านความรอบรู้แห่งตน ด้านแบบแผนความคิดอ่าน ด้านการมีวิสัยทัศน์ร่วม ด้านการเรียนรู้เป็นทีม และด้านความคิดเชิงระบบ

ตัวแปนต้น : สถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ

ตัวแปรตาม : พฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้

วิธีดำเนินการวิจัย

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

1. ประชากรที่ใช้ ได้แก่ ครูผู้ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ จำนวน 220 คน โดยใช้ข้อมูลจากกลุ่มนโยบายและแผนเทศบาลนครสมุทรปราการ

2. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ตามสถานศึกษาแต่ละแห่ง และใช้เกณฑ์กำหนดกลุ่มตัวอย่างจากตารางกำหนดขนาดของเครจซี่และมอร์แกน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถามลักษณะแบบสอบถามเป็นแบบตรวจสอบรายการ จำนวน 1 ข้อ

ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามความคิเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษา โดยอาศัยแนวคิดของเซ็งเก้ 5 ด้าน จำนวน 50 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ เรียงลำดับจากมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด

วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล

1. ขอหนังสือจากภาควิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพาถึงผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ เพื่อขอความร่วมมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล

2. จัดแบบสอบถาม จำนวน 145 ฉบับ ไปยังครูผู้ปฏิบัติการสอน ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างด้วยตนเอง ปรากฏว่าได้รับคืน 145 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100

วิธีวิเคราะห์ข้อมูล

ตอนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถามวิเคราะห์โดยหาค่าร้อยละ

ตอนที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ของลิเคิร์ท โดยเรียงลำดับจากมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ผู้วิจัยกำหนดเกณฑ์สำหรับวัดระดับพฤติกรรม การบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารทั้ง 5 ระดับ โดยหาค่าคะแนนเฉลี่ย ของคะแนนเป็นตัวชี้วัด นำมาเทียบกับเกณฑ์โดยกำหนดเกณฑ์และแปลความหมายของคะแนนเฉลี่ยตามเกณฑ์ที่กำหนด

สถิติที่ใช่ในการวิเคราะห์ข้อมูล

1. วิเคราะห์จำนวนครูผู้สอนในสถานศึกษา ในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการจำแนกตามสถานศึกษาแต่ละแห่ง ใช้สถิติบรรยายได้แก่ ร้อยละ

2. วิเคราะห์ระดับพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าคะแนนเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน

3. วิเคราะห์เปรียบเทียบพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการ จำแนกตามสถานศึกษาแต่ละแห่ง สถิติที่ใช้ คือ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว(One-way ANOVA) เมื่อมีนัยสำคัญทางสถิติได้เปรียบเทียบรายคู่โดยใช้วิธีการ LSD (Least Significant Difference)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการมีพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากยกเว้นด้านความคิดเชิงระบบอยู่ในระดับปานกลาง

2. ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครสมุทรปราการจำแนกตามสถานศึกษามีพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้ โดยรวมและรายด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p<.05) โดยพฤติกรรมการบริหารองค์การแห่งการเรียนรู้โดยรวมและรายด้าน ความรอบรู้แห่งตน แบบแผนความคิดอ่าน วิสัยทัศน์ร่วมและการเรียนรู้เป็นทีม ของโรงเรียนเทศบาล 5 และโรงเรียนเทศบาล 1 มีมากกว่าโรงเรียนเทศบาล 2 โรงเรียนเทศบาล 3 และโรงเรียนเทศบาล 4 ความคิดเชิงระบบ โรงเรียนเทศบาล 5 มีมากกว่าโรงเรียนเทศบาล 1 โรงเรียนเทศบาล 2 โรงเรียนเทศบาล 3 และโรงเรียนเทศบาล 4 และโรงเรียนเทศบาล 1 มีมากกว่าโรงเรียนเทศบาล 2

เขียนใน GotoKnow โดย กัญญ์นรา
ใน kannara

คำสำคัญ (Tags): #การวิจัยบริหารการศึกษา

หมายเลขบันทึก: 318354เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2009 19:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน