ชื่อเรื่อง ประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยอง
ผู้วิจัย ประสงค์ สุวรรณโชติ
ปีที่วิจัย พฤศจิกายน 2549
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของพนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยอง
2. เพื่อศึกษาเทียบเทียบระหว่าง อายุ ประสบการณ์การทำงานที่ต่างกัน กับประสิทธิผลการปฏิบัติงานการสอน ของพนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยอง
วิธีวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานครูโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครระยอง จังหวัดระยอง ปีการศึกษา 2548 จำนวน 246 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้ทำการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ( Stratified Random Sampling ) จากประชากรที่เป็นพนักงานครู จำแนกตามโรงเรียนทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนเทศบาลวัดปากน้ำ โรงเรียนเทศบาลบ้านปากคลอง โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทาราม โรงเรียนวัดลุ่มมหาชัยชุมพล และโรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 151 คน โดยใช้เกณฑ์กำหนดจำนวนกลุ่มตัวอย่างจากตารางสุ่มตัวอย่างของ เครจซี่ และมอร์แกน ( Krajcie & Morgan, 1970,p. 608)
วิธีการสุ่มตัวอย่าง สุ่มจากพนักงานครูเทศบาลตามขั้นตอนดังนี้
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของพนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยอง จังหวัดระยอง ซึ่งครอบคลุมความสามารถในการพัฒนาให้นักเรียนมีทัศนคติทางบวก ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียน และความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน มีลักษณะมาตรประมาณค่า ( Rating Scale ) 5 ระดับ โดยในแต่ละระดับมีน้ำหนักหรือความหมายตามแนวของ เบสท์และคาห์น ( Best &Kahn, 1993,pp. 181-183 ) ดังนี้
ระดับ 5 หมายถึง ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานระดับมากที่สุด
ระดับ 4 หมายถึง ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานระดับมาก
ระดับ 3 หมายถึง ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานระดับปานกลาง
ระดับ 2 หมายถึง ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานระดับน้อย
ระดับ 1 หมายถึง ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานระดับน้อยที่สุด
การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล มีขั้นตอนดังนี้
1. ศึกษาแนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกับประสิทธิผลขององค์กร
2. ศึกษางานวิจัยเกี่ยวข้องกับประสิทธิผลขององค์กร
วิธีเก็บรวมรวมข้อมูล
1. การเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินตามขั้นตอนดังนี้
1.1 นำหนังสือจากภาควิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ถึงผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลนครระยอง จังหวัดระยอง เพื่อขอความร่วมมือเก็บรวบรวมข้อมูล
1.2 นำแบบสอบถาม จำนวน 151 ฉบับ ไปเก็บข้อมูลจากพนักงานครูด้วยตนเองได้รับกลับคืนมาทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 100
2. การจัดกระทำข้อมูล ได้ดำเนินตามขั้นตอนดังนี้
2.1 เมื่อได้รับแบบทดสอบคืนมา และตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถามเพื่อนำไปวิเคราะห์
2.2 นำแบสอบถาม ที่สมบูรณ์มาลงรหัสให้คะแนนตามน้ำหนักคะแนน แต่ละข้อและบันทึกลงในคอมพิวเตอร์ โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม SPSS for Windows
2.3 การวิเคราะห์ข้อมูลและนำผลการคำนวณมาวิเคราะห์ข้อมูลตามความมุ่งหมายและสมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
เกณฑ์ที่ใช้ในการแปลความหมายข้อมูล
ใช้คะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่สัมพันธ์กับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของพนักงานครูเทศบาลนครระยอง จังหวัดระยอง ไปเทียบกับเกณฑ์การประเมินของ บุญชม ศรีสะอาด และบุญส่ง นิลแก้ว (2535,หน้า 23-24) ดังนี้
คะแนนเฉลี่ย 4.51- 5.00 หมายถึง มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานมากที่สุด
คะแนนเฉลี่ย 3.51- 4.50 หมายถึง มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานมาก
คะแนนเฉลี่ย 2.51- 3.50 หมายถึง มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานปานกลาง
คะแนนเฉลี่ย 1.51- 2.50 หมายถึง มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานน้อย
คะแนนเฉลี่ย 1.00- 1.50 หมายถึง มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานน้อยที่สุด
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ SPSS for Windows วิเคราะห์ข้อมูลที่สอดคล้องกับความมุ่งหมาย และการทดสอบสมมติฐานของการวิจัย ดังนี้
1. วิเคราะห์ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของพนักงานครู สังกัดเทศบาลนครระยอง จังหวัดระยอง โดยใช้คะแนนเฉลี่ย ( M ) และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( SD ) ค่าร้อยละ
2. เปรียบเทียบประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานครู สังกัดเทศบาลนครระยองจำแนกตามอายุ โดยวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดี่ยว ( One-Way ANOVA ) เมื่อพบความแตกต่างจึงวิเคราะห์ รายคู่ด้วยวิธี LSD
3. เปรียบเทียบประสิทธิผลการปฏิบัติงานของพนักงานครู สังกัดเทศบาลนครระยองจำแนกตามประสบการณ์การทำงาน โดยการทดสอบด้วยค่าที่ (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. พนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยองมีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานในแต่ละด้านส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก ยกเว้นด้านความสามารถในการผลิตนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงมีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานปานกลาง โดยเรียงลำดับประสิทธิผลจากมากไปหาน้อย คือความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการพัฒนานักเรียนมีทัศนคติทางบวก และความสามารถในการผลิตนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง
2. พนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยองมีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานโดยรวม และรายด้าน 4 ด้าน จำแนกตามอายุ มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานมากทุกด้าน ยกเว้นช่วงอายุ 31-40 ปี มีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานปานกลาง
3. พนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยองมีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานโดยรวมและรายด้าน 4 จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน มีประสิทธิผลในการทำงานมากทุกด้าน
4. พนักงานครูโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครระยองที่มีอายุและประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกันมีประสิทธิผลในการปฏิบัติงานแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
น้องเราก็ขยันเหมืนกันนะ เล่มที่ 5 แล้ว อีก 3 เล่มก็ประสบความสำเร็จแล้ว พักผ่อนบ้างนะจ๊ะเดี๋ยวจะผอมเกินไป
ไวเหมือนกันนะเนี่ย......เออ! แล้วทำไมไม่เห็นตั๊กเลยอ่ะ
มันไปไหนก็ไม่รู้กำลังตามจ้า
เจอแล้วจ้าเก่งจัง
น้องแอมมาแรงแซงโค้งไปแล้ว ขยันจริง ๆ ค่ะ เดี๋ยววันหลังพี่จะไล่ตามไปนะค่ะ
น้องแอม..ขอบคุณที่รอกัน พี่ตามทันแล้วครับ
ขอบคุณพี่ๆจ้าที่แวะมาเยี่ยม
ดีมากเร็วจัง