สวัสดีครับคุณทนายชาวฝนแปดแดดสี่
แวะมาอ่านความรู้เรื่องกฎหมาย สนใจและศึกษากฎหมายอยู่เหมือนกันครับ แล้วจะแวะมาเก็บเกี่ยวความรู้ดีๆอีกนะครับ
สนุกค่ะท่าน
ได้ความรู้(เอาตัวรอดค่ะ)
อิอิอิ
ยินดีที่ได้รู้จักครับ ท่านอัสรัน บทความผมเขียนตอนบ่ายโมงยังไม่ได้ตรวจทานเลยเข้ามาตรวจทานได้รับกำลังใจจากท่าน ขอขอบพระคุณที่แวะมาชมครับ ผมมีข้อคิดวิธีเรียนกฎหมายขอเล่าให้ฟัง คือตอนผมเรียนจะใช้วิธีอ่านประมวลทั้ง ป.แพ่ง ป.อาญา ป.วิแพ่ง ป.วิอาญา ทุกเล่มก่อนอ่านคำอธิบายต่างๆ และใช้วิธีอ่านสามรอบ รอบแรกอ่านผ่านไม่สนใจว่าจะรู้และเข้าใจหรือไม่ รอบที่สองอ่านและพยายามจำมาตราหลักๆ รอบที่สามอ่านผ่านและพยายามนึกทำความเข้าใจและนึกถึงมาตราที่ในแต่ละมาตราอ้างอิงถึง หลังจากนั้นถึงอ่านคำอธิบายครับก็พอผ่านมาได้ จนเป็นทนายความนี้แหละครับ
ขอบพระคุณ ท่านสาวเหนือคนงาม (น้าอึ่งอ๊อบ คนสวย ) ที่แวะมาให้กำลังใจ บทความของท่านก็ให้ข้อคิดดีๆครับ
ผมมีข้อคิดวิธีเรียนกฎหมายขอเล่าให้ฟัง คือตอนผมเรียนจะใช้วิธีอ่านประมวลทั้ง ป.แพ่ง ป.อาญา ป.วิแพ่ง ป.วิอาญา ทุกเล่มก่อนอ่านคำอธิบายต่างๆ และใช้วิธีอ่านสามรอบ รอบแรกอ่านผ่านไม่สนใจว่าจะรู้และเข้าใจหรือไม่ รอบที่สองอ่านและพยายามจำมาตราหลักๆ รอบที่สามอ่านผ่านและพยายามนึกทำความเข้าใจและนึกถึงมาตราที่ในแต่ละมาตราอ้างอิงถึง หลังจากนั้นถึงอ่านคำอธิบายครับก็พอผ่านมาได้ จนเป็นทนายความนี้แหละครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับเคล็ดลับดีๆ แล้วจะนำไปใช้นะครับ บางครั้งก็ตาลายกับมาตราต่างๆเหมือนกัน แหะๆ :-)
อ่านแล้วเข้าใจชิวิตมากขึ้น แต่บางเรื่องก็เป็นกฏแห่งกรรมครับ
สวัสดีครับ
หน้าที่ของผมอย่างหนึ่งก็คือการจับกุมผู้ต้องหาครับ จับแล้วก็ทำบันทึกการจับกุมพร้อมเขียนข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏส่งให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ต่อจากนั้นบางคดีที่จะต้องสืบพยานกันที่ศาลผมก็ต้องไปเป็นพยานศาลตามปกติ
การเป็นพยานศาลผมถือว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ แต่การเบิกความก็จะต้องเบิกตามที่ตนเองรับรู้หรือเห็นเหตุการณ์ ไม่รู้ก็คือไม่รู้ รู้ก็คือรู้ ไม่มีสิทธิ์ไปปรักปรำใครเพราะไม่มีนอกมีในกับใครทั้งนั้น แล้วส่วนใหญ่ในการเบิกความที่ศาลก็จะต้องมีทนายจำเลย ผมรู้จักทนายความเยอะแยะ ส่วนใหญ่ก็เพื่อนๆ กันทั้งนั้น เวลาเบิกความในศาลใครที่ไม่เข้าใจก็อาจจะคิดว่า แหม ผมกับทนายทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนกันแต่ทำไม้ทำไมเหมือนจะเอาเป็นเอาตายไปข้างหนึ่ง ไม่ใช่ครับ นั่นคือหน้าที่ของแต่ละคนแต่ละฝ่าย มีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าเอาเรื่องเท็จหรือเรื่องที่กุขึ้นไปให้การ โชคดีครับที่เพื่อนๆ ทนายที่ผมรู้จักเป็นคนดีทั้งนั้นเลย ผลการพิจารณาเป็นอย่างไรสุดท้ายก็อยู่ที่ศาลท่านจะพิจารณาตามท้องสำนวน เบิกความเสร็จแล้วก็เพื่อนกันเหมือนเดิม
ผมคิดและเชื่อตามที่ท่านเขียนไว้ตลอดเวลาเลยครับนั่นก็คือคำว่า “ยุติธรรมคือศาสตร์”
สวัสดีครับ
ขอบพระคุณท่านสารวัตรที่แวะมาครับ
หากมีโอกาสไปศาลทางเหนือ จะแวะไปให้ท่านเลี้ยงข้าวแกงข้าง สน.ครับ เห็นพรรคพวกผมบอกว่า หร่อยแรง...
ยินดีที่ได้รู้จักกับท่านครับ
สวัสดีค่ะ แวะเข้ามาทักทายคุณทนายค่ะ
ขอขอบพระคุณ ครูปริมปรางที่แวะมาครับ
ผมไปแอบดูคุณครูมาแล้ว พอดีพึ่งกลับจากศาลยังไม่ได้อ่านบทความของคุณครู
เอาไว้คืนนี้จะแอบไปขโมยความรู้ครับ
อ่านแล้วดีมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องหลอดกาแฟ
ขอเป็นสมาชิกด้วยคนนะค่ะ
ดิฉันเพิ่งได้รับตั้วทนายความ
เปรียบกับมีดาบ แต่ใช้ไม่เป็น
ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ
สวัสดีครับคุณลูกหมู
ยินดีตอนรับครับ
ไม่คิดจะไปทางสายอัยการ หรือตุลาการ หรือครับ
อยากแนะนำให้ไปทางสายนั้นจะดีกว่านะ
งานทนายกว่าจะเดินทางถึงจุดที่ยืนได้โดยไม่ต้องมีพี่เลี้ยงต้องผจญกับหลายสิ่งมากหลาย
เช่น สอบข้อเท็จจริงต้องก็ต้องทำเอง พยานหลักฐานก็ต้องหาเอาเอง ตรวจดูสถานที่ก็ต้องไปเอง
จะมีหนังสือขอหลักฐานใดๆจากหน่วยงานต่างๆ กว่าจะได้แสนลำบาก ไม่มีใครไปหาให้
ท่านอัยการก็ดี ท่านผู้พิพากษาก็ดี เพียงมีคำสั่งออกไปก็มีเจ้าหน้าที่จัดการให้แล้ว
เรียกว่าถ้าจะเป็นทนายความ ต้องทำทุกหน้าที่ เริ่มแต่พนักงานเดินเอกสาร พนักงานสอบสวน
นักสืบ พิจารณาคดี บางครั้งต้องทำตัวเป็นกรรมการมวยด้วยนะ เห็นยังว่าหนัก แฮ...
แต่ถ้าชอบ จิง....จิง... ชีวิตนี้ ดิฮั้น ขอเป็นทนายความ ก็ยินดีครับ มีข้อแนะนำดังนี้ครับ
1 ติดตามรุ่นพี่หลายๆท่านไปศาลทุกนัด เพื่อดูเทคติกของท่าน
2 ถ้าเป็นไปได้ ขอสำนวนจากท่านมาอ่านทำความเข้าใจ ข้อเท็จจริง
3 ขณะที่รุ่นพี่ซักพยาน ลองคิดตาม ว่าถ้าเป็นเราจะถามอย่างที่รุ่นพี่ถามหรือไม่
4 ห้ามตัดสินคดีแทนผู้พิพากษา เพราะเราเป็นทนายความมีหน้าที่นำเสนอข้อเท็จจริงให้ศาลพิจารณาตัดสินคดี
5 ทันทีที่ลูกความเล่าเรื่องจบ อย่ารีบด่วนตัดสินว่าเขาผิดหรือถูก สิ่งแรกที่ต้องบอกเขาคือ
ให้ใจเย็นๆยังพอมีทางแก้ไขหรือยังพอทำได้อะไรทำนองนี้ แล้วค่อยๆสืบสวนเอาความจริงที่เขาไม่ปรุงแต่งภายหลัง
6 หากว่าความมาไม่เกิน ห้าปี ควรจะต้องมีทนายความรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ อย่างน้อยสัก สิบปีขึ้นไปไว้เป็นที่ปรึกษา
7 ติดตามข่าวสารด้านกฎหมาย และกฎหมายใหม่ๆ ให้มากๆ
8 ถ้าถูกถามคำถามเกียวกับกฎหมายใดๆ หากไม่รู้หรือไม่ทราบหรือไม่แน่ใจ ห้ามตอบ ต้องไปศึกษามาก่อนแล้วถึงตอบเขา
9 ต้องเก็บความลับให้เป็น ข้อเท็จจริงที่เราทราบหากจะเปิดสู่บุคคลภายนอกต้องหวังผลได้
และ ต้องพิจารณาแล้วว่าลูกความของเราจะไม่เสียหาย
ก็ยังมีเทคติกอีกมากครับ ค่อยๆเรียนรู้ไปนะครับ ถ้าตั้งใจจริง ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
สวัสดีครับคุณมนัสนันท์
นอนดึกเหมือนกันนะครับ
ขอขอบพระคุณที่ติดตามอ่านครับ